ภาวะตลาดทองคำ ประจำวันที่ 4 ธ.ค. 52

ข่าวเศรษฐกิจ Friday December 4, 2009 11:14 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--4 ธ.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ คำแนะนำการลงทุน Gold Futures DAY TRADER GFZ09 ซื้อในช่วงราคา 19260 - 19280 ขายในช่วงราคา 19360 - 19380 GFG10 ซื้อในช่วงราคา 19360 - 19380 ขายในช่วงราคา 19450 - 19490 SWING TRADER GFZ09 ทองคำยังอยู่ในแนวขาขึ้น ขายทำกำไรออกไปบางส่วน และให้ทยอยเข้าซื้อบริเวณแนวรับ รอเข้าซื้อที่ระดับ 18950 และขายที่ระดับ 19100 GFG10 รอเข้าซื้อที่ระดับ 18990 และขายที่ระดับ 19140 GOLD Market Recap : 03/12/2009 MORNING RECAP : ราคาทองคำต่างประเทศเปิดที่ระดับ 1,222 $ ส่วน Gold Future Z09 เปิดที่ 19,300 สมาคมค้าทองแท่งเปิดที่ 19,150 ปรับขึ้น 100 บาทจากวันทำการก่อน ตลาดทองคำยังมีแนวโน้มเป็นขาขึ้น ราคาทองคำต่างประเทศระหว่างวันเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 1,212 — 1,226 $ โดยในช่วงบ่ายราคาทองคำต่างประเทศเคลื่อนไหวแคบ ประมาณ 10 $ โดยปิดตลาด Gold Future Z09 ปิดตลาดที่ 19,300 ในขณะที่ราคาทองคำแท่งของสมาคมค้าทองคำไม่เปลี่ยนแปลง อยู่ที่ 19,150 นักลงทุนยังเข้าซื้อขายคึกคัก เนื่องจากราคาทองคำปรับตัวขึ้นจากวันทำการก่อน NIGHT RECAP: ราคาทองคำเปิดตลาดในประเทศไทยที่ระดับ 1223 เหรียญ โดยในช่วงเช้าราคาเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1220 - 1225 เหรียญ ต่อมาในช่วงบ่ายราคาทองคำมีการเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1212 - 1220 เหรียญ ก่อนกลับมาปิดตลาดที่ 1218 เหรียญ ในเวลาประเทศไทย ต่อมาในตลาดลอนดอนและนิวยอร์ก ราคาทองคำมีการเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1204 -1218 เหรียญ และมาปิดตลาดที่ 1205 เหรียญ ข้อมูลทองคำวันนี้ ? ราคาสมาคม เปิดที่ 18,800 — 18,900 ? ราคา Gold Spot เปิดที่ 1,203 ? อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท 33.11 — 33.22 ? GFZ09 Hi- Low 19,390 - 19,270 ปิดที่ 19,300 Gold Insight สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนก.พ.ปิดที่ 1218.3 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 5.3 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1218.4-1206.5 ดอลลาร์ โดยทองคำทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดระดับใหม่เนื่องจากนักลงทุนยังคงเข้าซื้อเก็งกำไรเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในยามที่เศรษฐกิจทั่วโลกยังเผชิญกับภาวะเปราะบาง โดยเฉพาะดัชนีภาคบริการของสหรัฐที่หดตัวลงอย่างหนักในเดือนพ.ย. ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ร่วงลง 86.53 จุด หรือ 0.83% ปิดที่ 10,366.15 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ลดลง 9.32 จุด หรือ 0.84% ปิดที่ 1,099.92 จุด หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีภาคบริการหดตัวลงอย่างหนักในเดือนพ.ย. ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเรื่องแนวโน้มการฟื้นตัวของสหรัฐ นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนพ.ย.ซึ่งสหรัฐจะเปิดเผยในคืนวันศุกร์นี้ตามเวลาประเทศไทย น้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 14 เซนต์ ปิดที่ 76.46 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 76.90-76.63 ดอลลาร์ หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีภาคบริการหดตัวลงรุนแรงในเดือนพ.ย. นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานสต็อกน้ำมันดิบและเบนซินที่พุ่งขึ้นเกินคาด ซึ่งบ่งชี้ว่าภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงเปราะบางของสหรัฐส่งผลให้ดีมานด์พลังงานลดลงด้วย กองทุน SPDR Gold Trust SPDR กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือ ทองคำถึง ณ. 4 ธ.ค. ซื้อเข้าเพิ่มขึ้น 0.28 ตัน เปลี่ยนแปลงการถือครองจากระดับ 1,131.21 ตันเข้าสู่ 1,131.49 ตัน USD/EU ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ หลังจากธนาคารกลางยุโรปประกาศคงอัตราดอกเบี้ย 1% และประกาศว่าจะเริ่มถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ข่าวที่ว่าแบงค์ ออฟ อเมริกา เตรียมชำระคืนหนี้สินให้กับรัฐบาลส่งผลให้ดอลลาร์ถูกกดดันมากขึ้นด้วย ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.19% เมื่อเทียบกับยูโรที่ระดับ 1.5073 ยูโรต่อดอลลาร์ จากระดับของวันพุธที่ 1.5044 ยูโรต่อดอลลาร์ โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลยูโรเช้านี้เปิดตลาดยู่ที่ระดับ 1.5085 ดอลลาร์ต่อยูโร USD/JPY ดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นมีการแข็งค่ามากขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 87.420 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 86.640 เยนต่อดอลลาร์ โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลเยนเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 88.32 เยนต่อดอลลาร์ USD/THB ค่าเงินบาทปิดตลาดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 33.09/33.16 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งมีการแข็งค่ามากขึ้นจากการเปิดตลาดในตอนเช้า โดยค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ที่ระดับ 33.10/33.17 บาทต่อดอลลาร์ ข่าวเศรษฐกิจโลก ? สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) รายงานว่าดัชนีภาคบริการเดือนพ.ย.หดตัวลงสู่ระดับ 48.7 จุด จากเดือนต.ค.ที่ระดับ 50.6 จุด โดยดัชนีที่ต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ถึงการหดตัวของภาคบริการ ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าดัชนีภาคบริการเดือนพ.ย.จะอยู่ที่ระดับ 51.5 จุด ? แบงค์ ออฟ อเมริกา ผู้ปล่อยกู้รายใหญ่สุดในสหรัฐ เตรียมจ่ายเงิน 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์คืนรัฐบาล ซึ่งจะช่วยให้ธนาคารหลุดพ้นจากกฎการจ่ายค่าตอบแทนผู้บริหารที่เข้มงวดของรัฐบาล ทั้งนี้ การคืนเงินให้กับรัฐบาลจะช่วยให้ทางธนาคารสามารถหาผู้บริหารคนใหม่ได้ง่ายขึ้น หลังจากที่ซีอีโอ เคนเนธ ดี. ลูวิส ประกาศลาออกจากตำแหน่งเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ? สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 27 พ.ย. พุ่งขึ้น 2.1 ล้านบาร์เรล แตะที่ 339.9 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 400,000 บาร์เรล ? ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐ เตรียมเผยขีดความสามารถในการรับมือกับปัญหาว่างงาน ระหว่างการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดการสร้างงาน (job-creation summit) ที่ทำเนียบขาวในวันนี้ โดยการประชุมดังกล่าวจะมีผู้ทรงคุณวุฒิเข้าร่วมมากมายไม่ว่าจะเป็น นักเศรษฐศาสตร์ ผู้นำสหภาพแรงงาน ผู้นำทางธุรกิจอย่าง เอริค ชมิดท์ ซีอีโอของ กูเกิล อิงค์ และ เฟรด สมิธ ผู้บริหาร เฟดเอ็กซ์ คอร์ป รวมถึงตัวแทนจากอีกหลายบริษัท อาทิ เอทีแอนด์ที, โบอิ้ง และ ไฟเซอร์ ? นายเจิ้น เต๋อหมิง รมว.พาณิชย์จีนกล่าวว่า ทั่วโลกควรให้ความสนใจเรื่องเสถียรภาพของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐมากกว่าเงินหยวนของจีน เพราะผลกระทบของสกุลเงินทั้งสองที่มีต่อเศรษฐกิจโลกนั้นไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้ โดยนายเต๋อหมิงยืนยันว่าค่าเงินหยวนในปัจจุบันยังคงมีเสถียรภาพ เพราะหากไม่เป็นเช่นนี้ก็คงส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจโลกแล้ว ? องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ออกรายงานคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกจะขยายตัวในอัตรา 2.4% ในปี 2553 เนื่องจากรัฐบาลทั่วโลกพร้อมใจกันใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจนับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2551 พร้อมกับแนะนำให้รัฐบาลใช้มาตรการฟื้นฟูต่อไปจนกว่าจะมีสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างยั่งยืน รวมถึงการฟื้นตัวของตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภค การลงทุนภาคเอกชน และจนกว่าตัวเลขจ้างงานจะดีดตัวขึ้น อย่างไรก็ตาม ยูเอ็นเตือนว่ากระบวนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกยังอยู่ในภาวะเปราะบางมาก ? ธนาคารกลางยุโรป (ECB) อาจประกาศยุติมาตรการปล่อยกู้ฉุกเฉิน พร้อมตรึงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เพื่อกระตุ้นให้เศรษฐกิจฟื้นตัว โดยนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรปอาจตรึงดอกเบี้ยไว้ที่ 1% ในการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายที่แฟรงค์เฟิร์ทในวันนี้ ขณะเดียวกันก็คาดว่าฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานธนาคารกลาง อาจประกาศว่าการปล่อยกู้ระยะเวลา 12 เดือนครั้งที่ 3 ให้กับธนาคารต่างๆ เมื่อวันที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมา จะเป็นการปล่อยกู้ครั้งสุดท้าย และอาจมีการลดการปล่อยกู้ในโครงการอื่นๆตามมาอีก

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ