ฐานเงินทุนธนาคารทหารไทยแกร่งหลังเพิ่มทุน 21-25 สิงหาคม พร้อมเดินหน้าสร้างความเติบโตให้ธุรกิจอย่างต่อเนื่อง

ข่าวทั่วไป Monday August 21, 2006 11:09 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--21 ส.ค.--ธนาคารทหารไทย
ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) พร้อมพัฒนาธุรกิจสร้างความเติบโตให้องค์กรอย่างต่อเนื่องหลังการเพิ่มทุน มุ่งสร้างเครือข่ายขยายธุรกิจพร้อมการกำกับตรวจสอบที่ดี ย้ำการดำเนินธุรกิจในช่วงหลังการรวมกิจการมีพัฒนาการที่ดีตลอดมา และได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่สูงขึ้นจากทั้งทริส มูดีส์ และเอสแอนด์พี นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่แนะนำให้ซื้อหรือถือหลังยืนยันพร้อมเพิ่มทุน
นายสุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ธนาคารมีความพร้อมที่จะเปิดให้ผู้ถือหุ้นเดิมที่มีชื่อในสมุดทะเบียนผู้ถือถือหุ้น ณ วันที่ 7 เมษายน 2549 และได้รับการจัดสรรสิทธิเข้าจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของธนาคาร จำนวน 3,222,389,300 หุ้น ในวันที่ 21-25 สิงหาคม ณ ทุกสาขาของธนาคารทั่วประเทศ โดยธนาคารได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่แล้ว และเชื่อมั่นว่า การเพิ่มทุนครั้งนี้จะสำเร็จตามเป้าหมายที่จะรองรับความเจริญเติบโตทางธุรกิจของธนาคาร ซึ่งดำเนินมาด้วยดีนับตั้งแต่การรวมกิจการของสถาบันการเงิน 3 แห่งในปี 2547
การเพิ่มทุนครั้งนี้จะทำให้ธนาคารมีอัตราเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (CAR) ของธนาคารอยู่ที่ประมาณ 12% และ เงินกองทุนขั้นที่ 1 เพิ่มขึ้นเป็น 8.5% ซึ่งจะทำธนาคารทหารไทยเป็นหนึ่งในธนาคารไทยที่มีฐานเงินทุนแข็งแกร่งที่สุดในประเทศ
หลังจากธนาคารประกาศผลประกอบการงวดที่ 1 ของปี 2549 และประกาศเดินหน้าเพิ่มทุนตามกำหนดในสัปดาห์หน้า นักวิเคราะห์ในตลาดหลักทรัพย์ส่วนใหญ่แนะให้นักลงทุนซื้อหรือถือหุ้นของธนาคารทหารไทยต่อไป เนื่องจากมองว่าการเพิ่มทุนจะประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย และโรดโชว์ในสิงคโปร์ก่อนหน้านี้ก็ได้รับการตอบรับอย่างดี คาดว่ารายได้จากค่าธรรมเนียมของธนาคารจะเพิ่มขึ้นในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ส่วนอัตราดอกเบี้ยรับสุทธิ (NIM) ของธนาคารในไตรมาสเดียวกันก็มีแนวโน้มในทางบวก
นายสุภัคกล่าวว่า ธนาคารเชื่อมั่นในแผนการพัฒนาความเจริญเติบโตของธนาคารที่ผ่านมาและในอนาคต พัฒนาการที่ดีของธนาคารในช่วงสองสามปีที่ผ่านมาจะเห็นได้จากการทำกำไร โดยในปี 2547 ธนาคารมีกำไรสุทธิ 948 ล้านบาท และในปี 2548 ธนาคารมีกำไรสุทธิ 8,000 ล้านบาท ส่วนในงวดครึ่งปีแรกของปีนี้ ธนาคารมีกำไรสุทธิ 3,335 ล้านบาท และมีสินทรัพย์ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2549 จำนวน 769,535 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก ณ สิ้นปี 2548 7.4% ปริมาณ NPA ลดลง 11.94% จากสิ้นปีที่แล้ว เหลือเท่ากับ 66,906 ล้านบาท และมีเงินให้สินเชื่อทั้งสิ้น 560,146 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.8% จากสิ้นปี 2548
นายสุภัคกล่าวว่า ธนาคารมุ่งเน้นการพัฒนาธุรกิจในจุดที่มีโอกาสและการเติบโตสูง พร้อมขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ยกระดับมาตรฐานการกำกับดูแลกิจการที่ดี และสร้างวัฒนธรรมการบริหารความเสี่ยงที่เข้มแข็ง
“การมีพันธมิตรระดับสากลอย่างธนาคารดีบีเอส นอกจากจะได้รับการสนับสนุนเกี่ยวกับแนวคิดทางด้านการประกอบธุรกรรมใหม่ๆ ที่สามารถนำมาปรับใช้กับตลาดในประเทศแล้ว เรายังยกระดับและพัฒนามาตรฐานการตรวจสอบ การดูแลกำกับและการบริหารความเสี่ยงให้ได้ตามมาตรฐานสากลด้วย ซึ่งถือว่าเป็นการปูพื้นฐานที่จะนำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป” นายสุภัคกล่าว
นอกจากนี้ ธนาคารยังพัฒนาการให้บริการลูกค้าเพื่อเพิ่มรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย และพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมทางการเงินใหม่ๆ อาทิ บัญชีเงินฝาก 3 in 1 ซึ่งเป็นบัญชีกระแสรายวันที่ได้รับดอกเบี้ย, การออกบัตรเดบิตร่วมกับนิติบุคคลเพื่อคู่ค้า, บริการ cash management อย่างเป็นทางการ โดยเปิดตัว TMB Bizdirect ธนาคารทางอิเล็กทรอนิกส์สำหรับลูกค้านิติบุคคลอย่างครบวงจรแห่งแรก รวมทั้งขยายช่องทางการให้บริการทั้งลูกค้าเก่าและใหม่ภายใต้การวางแผนที่ดี ทั้งผ่านบริการอิเล็กทรอนิกส์ หน่วยขาย และสาขา โดยมีเป้าหมายที่เพิ่มจำนวนสาขา อย่างน้อย 46 สาขา ภายในสิ้นปี 2549 ปัจจุบันธนาคารมีสาขาทั้งสิ้น 439 สาขา ตู้เอทีเอ็ม 1,473 ตู้ ทั่วประเทศ อีกทั้งยังมีแผนการขยายการให้บริการการแลกเปลี่ยนเงินตราในย่านสำคัญๆ เช่นแหล่งท่องเที่ยว และศูนย์การค้าเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่มีศูนย์แลกเปลี่ยนเงินตา 86 แห่ง เป็นประมาณ 100 แห่ง ทั้งนี้ ในงวดครึ่งปีที่ผ่านมาธนาคารมีรายได้จากปริวรรตเงินตราเพิ่มขึ้น 55 ล้านบาทหรือ 16.9 % เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
ในด้านของสินเชื่อรายใหญ่ ธนาคารได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการให้บริการของสินเชื่อ ทั้งที่เป็น single และ syndication loan ในส่วนของ syndication loan ปีนี้ ธนาคารทหารไทยได้ทำหน้าที่เป็น lead arranger ในโครงการขนาดใหญ่ เช่น การเป็น lead arranger ให้ บมจ. บางจากปิโตรเลียม จัดหาแหล่งเงินทุนในโครงการปรับปรุงคุณภาพน้ำมันวงเงินรวม 8,000 ล้านบาท ให้สินเชื่อโรงไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำงึม 2 ในสาธารณรัฐประชาชนลาว วงเงิน 3,719 ล้านบาท ร่วมสนับสนุนสินเชื่อในวงเงิน 1,400 ล้านบาท แก่ บริษัท พีทีที ฟีนอล จำกัด ในเครือปตท. เพื่อโครงการลงทุนผลิตผลิตภัณฑ์เคมีขั้นกลาง เป็นต้น
นายสุภัคกล่าวว่า ในรอบครึ่งปีแรก 2549 ธนาคารได้อนุมัติสินเชื่อสำหรับขนาดใหญ่แล้ว ประมาณ 50,000 ล้านบาท โดยในจำนวนนี้มีเกือบ 10 รายที่มียอดวงเงินอนุมัติรายละไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท รวมทั้งยังมีโครงการที่อยู่ในระหว่างดำเนินการอีกประมาณ 35,000 ล้านบาท
ธนาคารตระหนักถึงความเสี่ยงต่างๆที่อาจเกิดขึ้นจากการแข่งขันในตลาดเพื่อเพิ่มปริมาณธุรกิจ จึงยึดหลักการบริหารความเสี่ยงตามแนวทางกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อให้มั่นใจว่า ธนาคารจะมีปริมาณธุรกิจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เติบโตอย่างมั่นคงและมีคุณภาพ
ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) www.tmbbank.com
ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2500 ประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์เต็มรูปแบบ และประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ตามที่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงการคลัง โดยความเห็นชอบจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ได้แก่ ธุรกิจธนาคารพาณิชย์ วาณิชธนกิจและธุรกิจอื่นๆ เช่น การเป็นตัวแทนจำหน่ายประกัน
ธนาคารมุ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้าประเภทต่างๆ ผ่านเครือข่ายสาขารวมทั้งสิ้น 439 สาขา สำนักงานแลกเปลี่ยนเงิน 86 แห่ง เครื่องเอทีเอ็มจำนวน 1,473 เครื่อง รวมทั้งให้บริการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ประเภทต่างๆ
ธนาคารทหารไทย เป็นธนาคารที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีสินทรัพย์ 769,535 ล้านบาท (ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2549) นับเป็นธนาคารที่มีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิเป็นอันดับห้าในระบบธนาคารพาณิชย์ของไทย
ธนาคารทหารไทย: ร่วมคิด เพื่อทุกก้าวของชีวิต
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
สุดาวรรณ/สาลินี/อรธิชา
02 242 3260/02 242 3255

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ