กรุงเทพฯ--8 ธ.ค.--โรงเรียนนานาชาติสยาม
ผู้จัดการโรงเรียนฯ เผยจัดระบบการเรียนการสอนแบบยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง สร้างองค์ความรู้ครอบคลุม 5 รายวิชา ด้วยหลักสูตรโรงเรียนนานาชาติประเทศแคลิฟอร์เนีย ให้นักเรียนสืบค้นเรียนรู้ทางหนังสืออิเลคทรอนิคส์ หรือ อี-บุค ผ่านระบบคอมพิวเตอร์ ประหยัดค่าตำราภาษา ช่วยลดปัญหาขยะ
นายประสิทธิ์ คำวินิจ ผู้จัดการโรงเรียนนานาชาติสยาม เปิดเผยว่า โรงเรียนนานาชาติสยาม ใช้การเรียนการสอนแบบอเมริกัน โดยใช้หลักสูตรจากประเทศแคลิฟอร์เนีย ที่มีจุดเด่นอยู่ที่การเน้นการเรียนการสอนแบบใช้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง มีส่วนร่วมในการสร้างองค์ความรู้หรือที่เรียกว่า Hands on experience นักเรียนระดับเกรด 6-12 จะเรียนหนังสืออิเลคทรอนิคส์ (e-Book) ในรายวิชาต่างๆ คือ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ สังคมศึกษา และจะเพิ่มให้ครบทุกรายวิชา ซึ่งโรงเรียนนานาชาติสยามได้นำเอาการเรียนการสอนโดยใช้ระบบ e-Learning ตั้งแต่ปี 2551 โดยได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีทั้งจากผู้ปกครองและนักเรียน
โรงเรียนนานาชาติสยาม เปิดทำการสอนครั้งแรกในเดือนกันยายน 2545 ปัจจุบันเปิดสอนตั้งแต่ระดับเนอสเซอรี่ไปจนถึงเกรด 12 (เทียบเท่า ม.6) มีนักเรียนทั้งสิ้นจำนวน 250 คน โดยมีนักเรียนจากหลายประเทศ อาทิ ไทย จีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น เกาหลี มาเก๊า ศรีลังกา อินเดีย และอเมริกา โดยอยู่ภายใต้การดูแลของอาจารย์ชาวไทยและต่างประเทศ จำนวน 40 คน
นายประสิทธิ์ กล่าวถึงระบบการเรียนการสอนภายในโรงเรียนว่านำเอาระบบ e-resouces มาใช้ในการเรียนการสอนโดยการนำเอาเนื้อหาการเรียนการสอนเข้าไปไว้ในระบบอินทราเนตของโรงเรียน และเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเพื่อให้ผู้สอนและผู้เรียนสามารถดึงเนื้อหามาจัดการเรียนการสอนได้ทันที สำหรับสื่ออุปกรณ์การสอนใช้ระบบ Interactive White Board เป็นระบบสัมผัสมาใช้ในการสอน กระตุ้นความสนใจผู้เรียนได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังใช้เช็คชื่อการเข้าเรียนด้วยระบบการแสกนลายนิ้วมือ
สำหรับรูปแบบการจัดการเรียนการสอนจะแบ่งการเก็บคะแนนออกเป็นการสอบย่อย ทำโปรเจค การบ้าน ซึ่งการส่งงานทุกครั้งจะส่งผ่านระบบอินเตอร์เน็ต และอินทราเนตของโรงเรียน ซึ่งข้อดีของการเรียนการสอนแบบนี้คือสามารถประหยัดกระดาษได้อย่างมหาศาล
นอกจากนี้ทางโรงเรียนมีแผนการสอนล่วงหน้าไว้ในอินทราเนตของโรงเรียน ซึ่งครูผู้สอนต้องเตรียมแผนการสอนล่วงหน้าซึ่งผู้ปกครองสามารถเข้ามาดูและเลือกรายวิชาในการเรียนให้กับลูกได้
ซึ่งในการจัดสอบแต่ละครั้งจะใช้ระบบ Computer - Based Exam ที่สามารถตัดปัญหาการลอกข้อสอบได้อย่างสิ้นเชิงเพราะนักเรียนแต่ละคนข้อสอบจะสลับข้อกัน และสามารถรู้ผลการสอบได้ทันทีหลังจากสอบเสร็จ ซึ่งข้อดีคือครูผู้สอนไม่ต้องเสียเวลาในการตรวจข้อสอบ โดยข้อสอบที่ใช้เป็นข้อสอบมาตรฐานจากประเทศแคลิฟอร์เนีย นอกจากนี้ยังถือว่าช่วยประเทศชาติในงานประหยัดกระดาษได้อย่างมหาศาลอีกด้วย โดยผู้ปกครองสามารถดูผลงานเรียนของลูกผ่านระบบอินเตอร์เน็ตในเว็บไซด์ของโรงเรียน รวมไปถึงโรงเรียนยังส่งผลงานเรียนทางอีเมลล์ให้กับผู้ปกครองอีกด้วย ซึ่งครูผู้สอนทุกคนจะมี NoteBook เพื่อใช้ในการสอนซึ่งเนื้อหาการเรียนการสอนอยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ทั้งหมด รวมถึงนักเรียนก็ใช้ NetBook เพื่อใช้ในการเรียน ส่งการบ้านที่ครูผู้สอนจะสะดวกในการตรวจงานและสั่งการบ้านให้แก่นักเรียนด้วย
ผู้จัดการโรงเรียนนานาชาติสยาม กล่าวเพิ่มเติมว่า ข้อดีของการนำเอาระบบ e-Learning มาใช้และนักเรียนทุกคนมี Netbook คือสามารถกระตุ้นความสนใจในเรื่องของการเรียนกับนักเรียนเป็นอย่างมาก ซึ่งจากการใช้ระบบนี้ที่ผ่านมาสามารถลดปัญหาการไม่สนใจเรียนของนักเรียนได้เกือบ 100% และช่วยลดปัญหาพฤติกรรมลงได้มากเช่นกัน ซึ่งผู้ปกครองพอใจกับการจัดการเรียนการสอนในระบบนี้เป็นอย่างดี
นอกเหนือจากการเน้นการเรียนการสอนด้านวิชาการที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลางแล้ว ทางโรงเรียนยังได้สนับสนุนกิจกรรมด้านต่างๆด้วย ไม่ว่าจะเป็นโครงการนักกีฬาช้างเผือกที่ให้ทุนการศึกษากับนักกีฬาฟุตบอล ซึ่งปัจจุบันมีจำนวน 45 คน มีการสอนกีฬาต่างๆ กิจกรรมศิลปะ รวมไปถึงกิจกรรมเพื่อสาธารณประโยชน์อย่างการไปเยี่ยมเด็กในสถานสงเคราะห์และการบริจาคเสื้อผ้าให้กับผู้ด้อยโอกาส เป็นต้น
ทั้งนี้ทางโรงเรียนมีนโยบายในการติดตั้งกล้อง cctv ไว้ในห้องเรียนเพื่อให้ผู้ปกครองสามารถลดความกังวลในเรื่องของพัฒนาการของลูกและความสนใจการเรียนของลูกได้ตลอดเวลาช่วยลดความกังวลให้กับผู้ปกครองได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะผู้ปกครองที่มีลูกในชั้นอนุบาล อีกทั้งในอนาคตจะพยายามผลักดันให้มีการเรียนการสอนผ่านระบบ e-Learning ได้จากทั่วโลก สอดคล้องกับการจัดการเรียนการสอนแบบ Home school ที่ทางโรงเรียนจะจัดการเรียนการสอนแบบ Home school ในปี 2553 ใส่บทเรียนต่างๆไว้ในเวบไซต์ ยูทูบ (YouTube) เป็นนโยบายเพื่อผู้เรียนและเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับผู้ปกครอง
ด้านนายอะเลกซ์ ดี กุซแมน ผู้จัดการแผนก IT กล่าวว่า การจัดการเรียนการสอนภายในห้องเรียนใช้ระบบเช็คชื่อการเข้าเรียนด้วยระบบการแสกนลายนิ้วมือ ควบคู่กับการเช็ครายชื่อนักเรียนเพื่อสร้างวินัย ความรับผิดชอบ และการตรงต่อเวลา โดยการจัดการเรียนการสอนจะแบ่งการเก็บคะแนนออกเป็นการสอบย่อย ทำโปรเจค การบ้าน ซึ่งการส่งงานทุกครั้งจะส่งผ่านระบบอินเตอร์เน็ตและอินทราเนตของโรงเรียน มีไวเลตให้นักเรียนทุกคนสามารถใช้อินเตอร์เน็ตได้ทุกที่ตลอดเวลา ช่วยลดการใช้กระดาษได้อย่างมหาศาล
นายอะเลกซ์ กล่าวต่อว่า แผนการสอนล่วงหน้าจะถูกบันทึกจัดไว้ในอินทราเนตของโรงเรียน ซึ่งครูผู้สอนต้องเตรียมแผนการสอนล่วงหน้า เพื่อให้ผู้ปกครองสามารถเข้ามาดูและเลือกรายวิชาในการเรียนให้กับลูกได้
ซึ่งการจัดสอบแต่ละครั้งใช้ข้อสอบมาตรฐานจากประเทศแคลิฟอร์เนีย สอบทางระบบ Computer - Based Exam ตัดปัญหาการลอกข้อสอบได้อย่างสิ้นเชิง เพราะนักเรียนแต่ละคนข้อสอบจะสลับข้อกัน สามารถรู้ผลการสอบได้ทันทีหลังจากสอบเสร็จ ครูผู้สอนไม่ต้องเสียเวลาในการตรวจข้อสอบ ทั้งยังช่วยลดปัญหาการใช้กระดาษจำนวนมากในการสอบ
อย่างไรก็ตามครูผู้สอนมีหน้าที่ดูแลนักเรียนพร้อมกับเป็นที่ปรึกษาให้กับผู้ปกครอง เมื่อบุตรหลานมีปัญหาด้านการเรียน ครูผู้สอนและผู้ปกครองต่างมีส่วนรวมคิดหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน โดยผู้ปกครองสามารถดูผลการเรียนของลูกได้ผ่านระบบอินเตอร์เน็ตในเว็บไซด์ของโรงเรียน รวมไปถึงทางโรงเรียนจะส่งผลการเรียนแสดงคะแนนทุกส่วนให้กับผู้ปกครองทางอีเมลล์อีกด้วย
ในส่วนของผู้เรียน นายวสิษฐ์ คูทองกุล นักเรียนชั้น ม.5 เกรด 11 โรงเรียนนานาชาติสยาม เผยความรู้สึกถึงการเรียนที่โรงเรียนนี้ว่า ครูผู้สอนให้ความใกล้ชิดกับนักเรียน ดูแลใกล้ชิดทำให้รู้สึกเหมือนกับอยู่บ้าน เนื่องจากที่ผ่านมาครอบครัวย้ายไปทำงานที่ประเทศโอมาน จึงได้เรียนอยู่ที่นั่นนานกว่า 2 ปี ภายหลังคุณพ่อย้ายกลับมาประเทศไทย จึงเข้าเรียนที่โรงเรียนนานาชาติสยามแห่งนี้พร้อมพี่น้องอีก 4 คน เพราะอยู่ใกล้บ้านและเป็นโรงเรียนที่มีมาตรฐานด้านการศึกษา มีระบบการเรียนการสอนที่ทันสมัยตอบสนองการเรียนรู้ที่ก้าวไกล เพื่อการสอบคัดเลือกเข้าศึกษาต่อในด้านวิศวกร หรือนักกฎหมาย
“ผมรู้สึกประทับใจที่ได้เรียนรู้ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ช่วยให้การเรียนสะดวกรวดเร็วกว่าในอดีตมีเน็ตบุ๊คเล่มเดียว หิ้วไปมาสะดวก ไม่ต้องหอบหนังสือเรียนครั้งละมากๆ หนักและมีราคาแพง ระบบอินเตอร์เน็ตจึงมีบทบาทต่อเยาวชน ที่ควรระมัดระวังในการท่องโลกไซเบอร์ แต่สำหรับเน็ตบุ๊ค มีระบบป้องกันความปลอดภัย เว็ปต์ไม่เหมาะสม และไวรัสที่เป็นอันตรายต่อข้อมูลกาเรียนการสอน” นายวสิษฐ์กล่าว
ขณะที่ด.ช.คริสท๊อฟ เลตเต้ นักเรียนชั้น ม.2 เกรด 8 มองว่า ตำราเรียนคุณภาพจากอเมริกา เป็นเหตุผลสำคัญให้เลือกเข้าเรียนที่โรงเรียนนานาชาติสยาม เพื่อฝึกทักษะภาษาอังกฤษ ที่เริ่มเข้าเรียนตั้งแต่เกรด 7 โดยส่วนตัวประทับใจสภาพแวดล้อมบรรยากาศร่มรื่นภายในโรงเรียนกระตุ้นความสนใจสร้างบรรยากาศการเรียน ที่เน้นเรื่องวิชาการเพิ่มพูนทักษะภาษาอังกฤษและเสริมภาษาจีนควบคู่ไปกับกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ ฝึกฝนให้กล้าแสดงออก มีจินตนาการและคุ้นเคยกับโลกเทคโนโลยีแห่งอนาคต การสืบค้นข้อมูลประกอบการเรียนและการสอบในวิชาต่างๆ ฝึกวินัยความรับผิดชอบของตนเอง เช่น ครูให้การบ้านภาษาอังกฤษ กำหนดส่งวันจันทร์ก่อนเที่ยง จะต้องรู้จักแบ่งเวลาและส่งงานให้ทันตามกำหนด
ส่วนด.ช.ณัฐณัธ อุชชิน นักเรียนชั้นป.3 เกรด 3 กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า การเรียนภายในห้องเรียนเรียนเหมือนเล่น สนุกกับการถามตอบกับครูผู้สอนแสดงความคิดเห็น เด็กนักเรียนทุกคนได้ใช้จอภาพแบบสัมผัสวาดรูปหน้าชั้นเรียน ฝึกกระบวนการคิดทำให้ชอบวิชาคณิตศาสตร์มากที่สุด ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีเน็ตบุ๊คเป็นของตัวเอง ครูจะให้ใช้ได้เมื่อเรียนชั้นป.6 เพราะยังเด็กเกินไปในการเรียนรู้วิธีการใช้เครื่องมือต่างๆ
ทางผู้ปกครองนักเรียน นางสุพร คูทองกุล กล่าวถึงการส่งบุตรเข้าเรียนที่นี้ว่า เล็งเห็นความสำคัญเรื่องระบบการเรียนการเรียนการสอนที่เอื้ออำอวยความสะดวกรวดเร็วให้กับผู้เรียน กระตุ้นความสนใจด้วยบทเรียนหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ พัฒนาทักษะภาษารอบด้านทั้ง ฟัง พูด อ่านและเขียน เกิดกระบวนการเรียนรู้ไม่หยุดนิ่ง
ขณะเดียวกัน น.ส.อรวรรณ ทองอำไพ ผู้ปกครองนักเรียนเกรด8 และเกรด 6 กล่าวว่าหลานชายหลานสาว มีความรู้ความสามารถทางภาษาอยู่ในระดับดีขึ้นหลังได้รับการเรียนการสอนจากครูเจ้าของภาษาที่ดูแลนักเรียนใกล้ชิด มีความรู้ทางภาษาจีนเพิ่มเติม ทำให้เด็กกล้าคิดกล้าพูด กล้าแสดงออกทางความคิดสื่อสารภาษาอังกฤษได้คล่องแคล่ว ไม่จำเป็นต้องพึ่งโรงเรียนกวดวิชาด้านภาษาให้ยุ่งยากอีกต่อไป
ไม่ต่างจากนางนันทวัน เตชปีติ คุณแม่ลูก 2 กล่าวว่า จากเดิมที่ต้องเป็นห่วงลูก ๆ เวลาแบกหนังสือหนักหลายเล่ม ทั้งยังขาดความเชื่อมั่นในการสื่อสารภาษาอังกฤษ สิ่งเหล่านี้โรงเรียนและผู้ปกครองต่างมีส่วนร่วมคิดหาทางออกร่วมกัน เมื่อเด็กมีปัญหาผลการเรียนตกต่ำหรือปัญหาความไม่เข้าใจในรายวิชา ผู้ปกครองสามารถติดต่อขอคำปรึกษาจากครูผู้สอนได้ทุกเวลา ที่นี่จึงเป็นทั้งแหล่งความรู้สถานศึกษาแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างกัน และเป็นดั่งบ้านหลังที่สองของเด็ก ๆ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณประสิทธิ์ คำวินิจ โทร.02-9916628-9 หรือ www.siamschool.ac.th