ปภ. คาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์ภัยในเดือนธันวาคม 2552

ข่าวทั่วไป Wednesday December 9, 2009 17:58 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--9 ธ.ค.--ปภ. กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยคาดการณ์แนวโน้มการเกิดสาธารณภัยของประเทศไทยในเดือนธันวาคม 2552 ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศหนาวถึงหนาวจัด ทำให้เกิดภัยหนาวเกือบทุกพื้นที่ รวมถึงสภาพอากาศแห้ง ส่งผลให้เกิดสถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่นอกเขตชลประทาน ทั้งยังมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่ป่าไม้ ภาคกลางและภาคตะวันออก สภาพอากาศหนาวเย็นและเกิดภัยหนาวในบางพื้นที่ สถานการณ์ภัยแล้งไม่รุนแรงมากนัก ส่วนภาคใต้มีฝนตกชุกหนาแน่น ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก วาตภัย และดินโคลนถล่มในพื้นที่เสี่ยงภัยได้ ตลอดจนอาจเกิดคลื่นซัดชายฝั่งบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออก นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประเมินและคาดการณ์แนวโน้มการเกิดสาธารณภัยของประเทศไทยในเดือนธันวาคม 2552 จากข้อมูลลักษณะอากาศของหน่วยงานต่างๆ พบว่า ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศหนาวถึงหนาวจัดกับหมอกหนาในหลายพื้นที่ ทำให้เกิดภัยหนาวเกือบทุกพื้นที่ รวมถึงสภาพอากาศแห้ง อาจส่งผลให้เกิดสถานการณ์ภัยแล้งในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่นอกเขตชลประทานที่มีระบบการจัดการน้ำไม่ดี นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงต่อการเกิดไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่ป่าไม้ ส่วนภาคกลางและภาคตะวันออกมีอากาศหนาวเย็นกับมีหมอกบางในช่วงเช้า และเกิดภัยหนาวในบางพื้นที่ และเริ่มเกิดสถานการณ์ภัยแล้ง แต่ยังไม่รุนแรงมากนัก ในขณะที่ภาคใต้จะมีฝนตกชุกหนาแน่นและตกหนักมาก รวมทั้งอาจมีหย่อมความกดอากาศต่ำก่อตัวทวีกำลังแรงเป็นพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนตัวผ่านภาคใต้ตอนล่าง ทำให้มีฝนตกหนักเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก วาตภัย และดินโคลนถล่มในพื้นที่เสี่ยงภัย รวมถึงอาจเกิดคลื่นซัดชายฝั่งบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออก นายอนุชา กล่าวต่อไปว่า ช่วงฤดูหนาวสภาพอากาศหนาวเย็น อาจทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน จึงขอให้ประชาชนรักษาดูแลสุขภาพให้แข็งแรง รวมถึงเพิ่มความระมัดระวังในการประกอบกิจกรรมที่เกี่ยวกับไฟทุกประเภททั้งการประกอบอาหาร จุดธูปเทียน เป็นต้น เนื่องจากฤดูหนาวสภาพอากาศแห้งและลมพัดแรง ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยและไฟป่าสูงกว่าปกติ สำหรับการขับขี่รถในช่วงที่มีหมอกลงจัด ควรเปิดไฟต่ำหรือไฟตัดหมอกจะช่วยให้มองเห็นสภาพเส้นทางได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ไม่ขับรถเร็ว เว้นระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากกว่าปกติ นอกจากนี้เกษตรกรควรสร้างสิ่งปกคลุมผลผลิตทางการเกษตร เพื่อป้องกันผลผลิตทางการเกษตรได้รับความเสียหายจากน้ำค้างแข็ง ส่วนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นอกเขตชลประทาน ขอให้ใช้น้ำอย่างประหยัดและกักเก็บน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค และการเกษตร รวมถึงวางแผนปลูกพืชอายุสั้นใช้น้ำน้อย เพื่อให้มีน้ำเพียงพอในการทำเกษตร สำหรับประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ให้ติดตามพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด หากมีฝนตกหนักติดต่อกันเป็นเวลานานในพื้นที่และสังเกตพบสัญญาณผิดปกติทางธรรมชาติ เช่น ระดับน้ำในลำห้วยเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและมีสีขุ่นข้น ให้รีบอพยพและขนย้ายสิ่งของไปยังที่ปลอดภัย เพราะอาจเกิดน้ำป่าไหลหลากหรือน้ำท่วมฉับพลันขึ้นได้ ส่วนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณริมชายฝั่งทะเลภาคใต้ฝั่งตะวันออกระมัดระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่ซัดเข้าหาฝั่ง โดยเสริมคันกั้นน้ำริมฝั่งและตรวจสอบบ้านเรือน สิ่งปลูกสร้างให้มีความมั่นคงแข็งแรง สุดท้ายนี้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสภาพอากาศหนาวเย็น อุทกภัย วาตภัย ดินโคลนถล่ม และคลื่นซัดฝั่ง สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-2432200 PR DDPM

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ