กรุงเทพฯ--11 ธ.ค.--ปตท.
นายวิทยา หวังจิตรารักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ตลาดขายปลีกหน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากการที่ราคาน้ำมันดิบดูไบ และน้ำมันสำเร็จรูปในตลาดสิงคโปร์ได้ปรับตัวลดลง ตามราคาน้ำมันดิบทางฝั่งสหรัฐอเมริกาและยุโรปที่ลดลงมาก่อนหน้านี้ ล่าสุดวันนี้ (11 ธ.ค. 2552) ราคาน้ำมันดิบดูไบ อยู่ที่ 73.71 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล น้ำมันสำเร็จรูปเบนซินสิงคโปร์ อยู่ที่ 78.70 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 79.25 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ปตท. จึงสามารถประกาศข่าวดี นำลดราคาขายปลีกน้ำมันทุกชนิดลงให้ผู้บริโภค 50 สตางค์/ลิตร (ยกเว้นน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85) ส่งผลให้ราคาน้ำมันขายปลีกในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (12 ธ.ค.52) เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป เป็นดังนี้
หน่วย : บาท/ ลิตร
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 (พีทีที E 85 พลัส) 18.72
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 (พีทีที E 20 พลัส) 28.94
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 (พีทีที แก๊สโซฮอล์ พลัส 95) 31.24
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 (พีทีที แก๊สโซฮอล์ พลัส 91) 30.44
น้ำมันเบนซิน 91 (พีทีที อัลฟา เอ็กซ์ 91) 34.84
น้ำมันไบโอดีเซล (พีทีที B5 พลัส) 26.29
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว (พีทีที เดลต้า เอ็กซ์) 27.69
นายวิทยา กล่าวต่อไปว่า ราคาน้ำมันในตลาดเอเชียนั้น ยังคงแข็งแกร่งและมีอัตราการลดลงที่น้อยกว่าราคาน้ำมันทางทวีปยุโรปและอเมริกา เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ จีน อินเดีย และญี่ปุ่น มีแนวโน้มที่ดีกว่า อย่างไรก็ตาม จากการแข็งค่าขึ้นอีกครั้งของสกุลเงินเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับสกุลเงินเหรียญยูโร ประกอบกับความไม่มั่นใจในทิศทางการฟื้นตัวเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และยุโรปที่ไม่ชัดเจนมากนัก รวมถึงประเทศผู้ผลิตน้ำมันดิบหลายๆ ประเทศได้เร่งเพิ่มปริมาณการผลิต ส่งผลทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกอ่อนตัวลงมาในช่วงนี้ ซึ่งคงจะจับตามองการประชุม OPEC ในวันที่ 22 ธ.ค.52 ที่ Luanda ประเทศแองโกลา และตัวเลขปริมาณสำรองน้ำมันดิบ รวมทั้งค่าเงินเหรียญสหรัฐ ล้วนเป็นปัจจัยที่จะกระทบต่อราคาน้ำมันในช่วงระยะสั้นแทบทั้งสิ้น