กรุงเทพฯ--14 ธ.ค.--บีโอไอ
รัฐมนตรีชาญชัย นำทัพกระทรวงอุตสาหกรรมและบีโอไอ เดินทางไปชักจูงการลงทุน 3 ประเทศชั้นนำในยุโรป ได้แก่ เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ และอิตาลี เตรียมกล่อมค่ายรถยนต์และผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ชั้นนำให้มาลงทุนในไทย อาทิ เบนซ์ บีเอ็มดับเบิลยู บอช พร้อมพบปะหารือกับ 10 บริษัทชั้นนำในเยอรมนี และรัฐมนตรีของรัฐบาเดิน เวอร์ทเทมแบร์ก จากนั้นจะเดินทางไปหารือกับกลุ่มนักธุรกิจสวิสและอิตาลี
นางอรรชกา สีบุญเรือง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 14 — 24 ธันวาคม 2552 นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วยนายสรยุทธ เพ็ชรตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และผู้บริหารเจ้าหน้าที่กระทรวงอุตสาหกรรมและบีโอไอ จะเดินทางไปชักจูงการลงทุนใน 3 ประเทศสำคัญของกลุ่มสหภาพยุโรป ได้แก่ เยอรมนี สวิสเซอร์แลนด์ และอิตาลี ซึ่งถือเป็นกิจกรรมเดินสายชักจูงการลงทุนจากต่างประเทศครั้งสุดท้ายของปี 2552
ทั้งนี้ การเดินทางไปชักจูงการลงทุนใน 3 ประเทศ ก็เพื่อพบปะหารือและชี้แจงนโยบายส่งเสริมการลงทุนใหม่ๆ ให้กับนักลงทุนทั้งรายเก่าและรายใหม่ให้เห็นถึงโอกาสการเข้ามาลงทุนในประเทศไทย และการจัดตั้งศูนย์ OSOS หรือ ONE START ONE STOP INVENTMENT CENTERซึ่งเป็นศูนย์กลางการให้บริการเกี่ยวกับการทำธุรกิจในประเทศไทยและช่วยอำนวยความสะดวกในการจัดตั้งบริษัทของบริษัทต่างชาติในไทย เพื่อให้ข้อมูลและคำปรึกษาตลอดจนการออกใบอนุญาตต่างๆ
สำหรับการเดินทางไปเยอรมนี จะมีการพบปะหารือกับผู้บริหารระดับสูงของบริษัทชั้นนำด้านยานยนต์ใน 2 เมืองใหญ่ คือ สตุ๊ดการ์ด และมิวนิก ประกอบด้วย เมอร์ซิเดส เบนซ์, บีเอ็มดับเบิลยู และบริษัทบอช ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ชั้นนำของเยอรมนี
นอกจากนี้ คณะของไทยจะได้พบปะหารือกับบริษัทชั้นนำ 10 รายของเยอรมนี ซึ่งครอบคลุมธุรกิจหลายสาขา อาทิ ธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ กิจการโทรคมนาคมและการสื่อสาร การขนส่งสินค้าทางเรือ และกลุ่มผู้ผลิตแว่นและเลนส์
เลขาธิการบีโอไอกล่าวต่อไปว่า คณะของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและบีโอไอจะได้พบปะหารือกับ นายเดราท์ ริชาร์ด รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเศรษฐกิจของรัฐบาเดิน เวอร์ทเทมแบร์ก (BADEN WUTTEMBERG) เพื่อเสริมสร้างเครือข่ายกับหน่วยงานพันธมิตร รวมทั้งรับฟังและหารือโอกาสการการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนของทั้งสองประเทศ
ทั้งนี้ รัฐบาเดิน-เวอร์ทเทมแบร์ก (BADEN WUTTEMBERG) มีศักยภาพอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมด้านยานยนต์ และมีศักยภาพในด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และด้านวิจัยและพัฒนา ซึ่งทั้งสามอย่างนี้ สอดรับกับนโยบายหลักของประเทศไทย
ระหว่างปี 2004 จนถึงครึ่งปีแรกของปีนี้ นักลงทุนเยอรมันได้ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนกว่า 1.15 พันล้านยูโร การลงทุนจากเยอรมนีในไทยกว่าครึ่งเป็นกิจการที่เกี่ยวกับเครื่องจักรและโลหะ รองลงมาคือกิจการเกี่ยวเนื่องกับเคมีภัณฑ์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และเซรามิกส์
สำหรับการเดินทางไปชักจูงการลงทุนในสวิตเซอร์แลนด์ กระทรวงอุตสาหกรรมและบีโอไอได้ร่วมกับหอการค้าสวิส-เอเชีย จัดสัมมนาการลงทุน เพื่อตอกย้ำนโยบายส่งเสริมการลงทุนของต่างประเทศของไทยไม่มีการเปลี่ยนแปลง มีแต่การปรับปรุงให้สอดรับกับสถานการณ์และการดำเนินธุรกิจมากยิ่งขึ้น และชี้ให้เห็นว่าภาวะเศรษฐกิจไทยได้ฟื้นตัวแล้ว โดยคาดว่าจะมีนักธุรกิจชั้นนำของสวิสเซอร์แลนด์เข้าร่วมไม่น้อยกว่า 100 ราย
นับจากปี 2004 จนกระทั่งถึงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา มีมูลค่าเงินลงทุนสะสมจากประเทศสวิสที่ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนกว่า 1 พันล้านฟรังก์สวิส โดยหนึ่งในสามของคำขอส่งเสริมการลงทุนนั้น เป็นกิจการในประเภทอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า อุตสาหกรรมยานยนต์ เคมีภัณฑ์ บริการ และเซรามิกซ์ เป็นต้น
สำหรับการเดินทางไปประเทศอิตาลี จะเป็นการพบปะหารือกับบริษัทดาเนียเล่ ผู้ผลิต เครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมเหล็กของอิตาลี ซึ่งลงทุนในไทยอยู่แล้ว เพื่อชักชวน ให้ดาเนียเล่ขยายการลงทุนในไทยในอนาคต และหารือกับบริษัทชั้นนำในธุรกิจการต่อและซ่อมบำรุงเรือยอร์ชของอิตาลี