กรุงเทพฯ--14 ธ.ค.--กองประชาสัมพันธ์ กทม.
ครบรอบสถาปนากรุงเทพมหานครปีที่ 37 คณะผู้บริหารพร้อมใจมอบของขวัญตามพันธะสัญญ “ทั้งชิวิต...เราดูแล” เชิญประชาชนร่วมชมนิทรรศการโครงการพระราชดำริ และผลงานเด่นของกทม. เลือกซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคราคาประหยัดจากผู้ผลิตโดยตรง พร้อมชมกิจกรรมบันเทิงมากมายตลอดสัปดาห์ 14-18 ธ.ค.นี้
ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ุ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดงานเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนากรุงเทพมหานคร ครบ 37 ปี ภายใต้ชื่องาน “กทม.ก้าวสู่ปีที่ 38 ทั้งชีวิต...เราดูแล Happy Birthday Happy Bangkok” ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-18 ธ.ค.52 ตั้งแต่เวลา 10.00 - 21.00 น. ณ บริเวณลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร โดยมี ดร.พงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกรุงเทพมหานคร นายกิตพล เชิดชูกิจกุล ประธานสภากรุงเทพมหานคร สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร พร้อมคณะผู้บริหาร ข้าราชการและลูกจ้างในสังกัด ร่วมพิธีเปิด และเปิดกล่องของขวัญปล่อยลูกโป่งจำนวน 1,568 ใบซึ่งเท่ากับขนาดพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร 1,568 ตารางกิโลเมตร เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่า กทม.จะดูแลคนกรุงเทพฯ ทุกคนทุกพื้นที่ให้มีแต่รอยยิ้มและอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ อย่างมีความสุข
โอกาสนี้ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวแสดงความขอบคุณข้าราชการ ลูกจ้าง และเจ้าหน้าที่ของกรุงเทพมหานคร ทุกยุคทุกสมัยที่ร่วมกันร่วมกันทำงานแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยตระหนักถึงคุณภาพชีวิตของคนกรุงเทพฯ และร่วมกันสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับเมืองหลวงแห่งนี้ตลอดระยะเวลา 37 ปีที่ผ่านมา พร้อมทั้งกล่าวเป็นพันธะสัญญาว่า กทม.พร้อมดูแลชีวิตคนกรุงเทพฯ “ทั้งชีวิต...เราดูแล”
บวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นสิริมงคล
สำหรับกิจกรรมช่วงเช้าคณะผู้บริหาร ได้ร่วมในพิธีเจริญพระพุทธมนต์และพิธีบังสุกุล ณ ห้องเจ้าพระยา ชั้น 1 ศาลาว่าการกทม. จากนั้นร่วมสักการะพระพุทธนวราชบพิตร บริเวณหน้าหอพระพุทธนวราชบพิตร และพิธีบวงสรวงศาลไทยและศาลจีน ณ ชั้น 5 ศาลาว่าการ กทม. ทั้งนี้ ข้าราชการและลูกจ้างกรุงเทพมหานครได้ร่วมทำบุญเพื่อความเป็นสิริมงคลด้วย
ร่วมซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณพร้อมชมกิจกรรมมากมาย ณ ลานคนเมือง
กิจกรรมหลักที่จะจัดขึ้นบริเวณลานเมือง ประกอบด้วย ส่วนที่1 เป็นหอภาพยนตร์ “ด้วยใจภักดี” ซึ่งเป็นมินิเธียเตอร์ รูปทรงหัวใจ สำหรับฉายมัลติมีเดียที่แสดงถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงมีต่อพสกนิกร ส่วนที่ 2 จัดทำกล่องของขวัญ “จากใจ...ให้คนกรุงเทพฯ” เป็นมินิเธียเตอร์ อีกส่วนหนึ่งนำเสนอมัลติมีเดีย 3 เรื่อง เรื่องที่ 1 ให้ชื่อว่า “ทั้งชีวิต..เราดูแล” เรื่องที่ 2 “หอมกลิ่นความหลัง...ที่บางกอก” และเรื่องที่ 3 “ตะลุยเมืองฟ้า...หาเรื่องเที่ยว” โดยจัดฉายเป็นรอบๆ ส่วนที่ 3 เป็นโซนแสดงนิทรรศการผลงานและกิจกรรมของ กทม. ที่ได้ดำเนินงานเพื่อบริการประชาชนที่เป็นรูปธรรมภายใต้แนวคิด “ยิ้มได้ทั้งชีวิต...เมื่อเราดูแล” โดยแบ่งออกเป็น 4 โซนคือ โซน “ยิ้ม...อยู่สบาย”, โซน “ยิ้มรับ...คุณภาพชีวิตดี” , โซน “ยิ้มรับ...เมืองสดใส” และโซน “ยิ้มรับ...อนาคต”
ส่วนที่ 4 “สื่อใจ...ที่ลานสายรุ้ง” เป็นเวทีที่ใช้ในพิธีเปิดงาน การแสดง ซึ่งผู้ชมงานสามารถถ่ายรูปที่ระลึกได้ และส่วนที่ 5 จะมีจุดบริการประชาชน ซึ่งนำบริการต่างๆ ของกทม.มาให้บริการประชาชน เช่น บริการงานทะเบียนราษฎร ณ หน่วยบริการจุดเดียวเบ็ดเสร็จ บริการด้านสุขภาพ บริการด้านการบริหารเงินออม บริการรับจองกล้าสักมงคลออนไลน์ และบริการรถรางเข้าชมงาน เป็นต้น สำหรับผู้เข้าชมงานจะได้รับ Birthday Card เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมในส่วนต่างๆ ซึ่งจะได้รับการประทับตรา และเมื่อชมงานครบทุกส่วนสามารถนำไปแลกรับของที่ระลึกภายในงาน
ชมกิจกรรมบันเทิงพร้อมเลือกซื้อสินค้าราคาประหยัดจากมือผู้ผลิตสู่มือผู้บริโภค
กรุงเทพมหานครได้จัดให้มีการจำหน่ายและแสดงสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน อาหารอร่อย ชวนชิมของดีจาก 6 กลุ่มเขต และการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคในราคาประหยัดเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนได้มีโอกาสซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตในราคาประหยัดจากผู้ผลิตหรือผู้จำหน่ายโดยตรง เป็นการลดรายจ่าย ลดค่าครองชีพของประชาชน และส่งเสริมให้ประชาชน กลุ่มอาชีพชุมชน ผู้ผลิต ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์กรุงเทพมหานคร ได้มีสถานที่จำหน่ายแสดงสินค้า เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ด้วย สำหรับกิจกรรมบันเทิงบนเวทีนั้น ประกอบด้วยการแสดงศิลปวัฒนธรรมของไทย การแสดงความสามารถพิเศษของนักเรียนโรงเรียนสังกัดกทม. และการแสดงอื่นๆ อีกมากมาย
ร่วมส่ง SMS แสดงความเห็นเพื่อพัฒนากทม.สู่เมืองน่าอยู่อย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครยังเปิดโอกาสให้ประชาชนที่มาร่วมงานสามารถส่ง SMS ข้อความที่ หมายเลข 4276333 (ครั้งละ 3 บาท) ที่ต้องการสื่อไปยังคณะผู้บริหาร และข้าราชการ กทม.ซึ่งข้อความจะแสดงอยู่บนจอกล่องของขวัญยักษ์ ทุกๆ ความเห็น กทม. จะนำไปปรับปรุงและพัฒนาให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองน่าอยู่อย่างยั่งยืนต่อไป