ฐานะการคลังภาครัฐบาล (รัฐบาล และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น) ตามระบบ สศค. ไตรมาสที่ 4 ( กรกฎาคม — กันยายน 2552 ) และปีงบประมาณ 2552 (ตุลาคม 2551 — กันยายน 2552)

ข่าวทั่วไป Tuesday December 15, 2009 12:48 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--15 ธ.ค.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง ฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบ สศค.1 (ระบบ Government Finance Statistics : GFS) ในปีงบประมาณ 2552 (ตุลาคม 2551-กันยายน 2552) ภาครัฐบาล (รัฐบาลและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น2) อัดฉีดเงินสุทธิเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจหรือขาดดุลการคลังทั้งสิ้น 349,731 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 4.0 ของ GDP3 ซึ่งสะท้อนถึงบทบาทของนโยบายการคลังในการสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และเป็นไปตามเป้าหมาย การดำเนินนโยบายการคลังของรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเต็มที่ โดยรายละเอียดสรุปได้ ดังนี้ 1. ฐานะการคลังของภาครัฐบาลตามระบบ สศค. ในไตรมาสที่ 4 ของปีงบประมาณ 2552 1.1. รายได้ภาครัฐบาล มีจำนวนทั้งสิ้น 580,116 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 6.7 ของ GDP (ปีที่แล้วคิดเป็น ร้อยละ 7.1 ของ GDP) และลดลงเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีที่แล้ว 39,290 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.3 ทั้งนี้เนื่องจาก การจัดเก็บภาษีส่วนใหญ่ของรัฐบาลลดลงได้ส่งผลให้รายได้รัฐบาลและ อปท. ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 30,565 ล้านบาท และ 2,108 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.8 และ 2.8 ตามลำดับ ส่วนบัญชีเงินนอกงบประมาณ (กองทุนเงินนอกงบประมาณ และเงินฝากนอกงบประมาณ) มีรายได้ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 6,618 ล้านบาทหรือร้อยละ 7.0 เนื่องจากเป็นผลกระทบของการที่รัฐบาลมีรายได้ลดลงตามภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย ส่งผลให้รายได้รัฐบาลโดยรวมลดลงทั้งหมด 1.2 รายจ่ายของภาครัฐบาล (รวมการให้กู้หักชำระคืนตามนโยบายรัฐบาล) ซึ่งมีผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจจริงมีจำนวน 680,679 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 84,626 ล้านบาทหรือร้อยละ 14.2 เนื่องจากการเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาลที่เพิ่มขึ้นโดยมีจำนวน 507,703 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกัน ปีที่แล้ว 78,274 ล้านบาทหรือร้อยละ 18.2 ขณะที่ อปท. คาดว่าจะมีรายจ่ายจำนวน 109,863 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 6.3 และรายจ่ายจากบัญชีเงินนอกงบประมาณและเงินให้กู้หักชำระคืนตามนโยบายรัฐบาลรวม 60,905 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 2.6 ซึ่งมีสาเหตุหลักจากรายจ่ายเพื่อชดเชยราคาน้ำมันของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงลดลงจากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว ส่วนรายจ่ายเงินกู้ต่างประเทศที่เบิกจ่ายจำนวน 2,209 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,424 ล้านบาท 1 ระบบ สศค. : ระบบสถิติเพื่อการศึกษาและวิเคราะห์นโยบายการคลัง หรือ Government Finance Statistics (GFS) เป็นระบบสถิติที่รวบรวมกิจกรรมทาง เศรษฐกิจของรัฐบาลทั้งหมด โดยครอบคลุมการใช้จ่ายตามระบบงบประมาณ เงินฝากนอกงบประมาณ กองทุนหมุนเวียนนอกงบประมาณ เงินกู้ต่างประเทศและเงินช่วยเหลือต่างประเทศ 2 เป็นการประมาณการดุลการคลังโดยใช้ข้อมูลสิทธิเรียกร้องจาก อปท. ในระบบธนาคาร (Net Claims of Banking System on Local Government) 3 คาดการณ์ GDP ปีงบประมาณ 2552 และ GDP ปีงบประมาณ 2551 เท่ากับ 8,712.0 และ 9,107.2 พันล้านบาท ตามลำดับ 1.3 ดุลการคลังภาครัฐบาล จากการที่รายจ่ายสูงกว่ารายได้ทำให้ภาครัฐบาลขาดดุลการคลังจำนวน 100,563 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 1.2 ของ GDP) ขณะที่ช่วงเดียวกันปีที่แล้วที่เกินดุลจำนวน 22,436 ล้านบาท สำหรับดุลการคลังเบื้องต้นของรัฐบาล (Primary Balance) ในไตรมาสที่ 4 ของปีงบประมาณ 2552 ซึ่งเป็นดุลการคลังที่สะท้อนถึงผลการดำเนินงานของรัฐบาลและทิศทางของนโยบายการคลังของรัฐบาลอย่างแท้จริง (ไม่รวมรายได้และรายจ่ายดอกเบี้ย และการชำระคืนต้นเงินกู้) ขาดดุลทั้งสิ้น 21,605 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 0.2 ของ GDP) ในขณะที่ช่วงเดียวกันปีที่แล้วเกินดุล 88,831 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 1.0 ของ GDP ) ดุลการคลังของภาครัฐบาลตามระบบ สศค. ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีงบประมาณ 2552 หน่วย : ล้านบาท 2. ฐานะการคลังของภาครัฐบาลตามระบบ สศค. ตลอดทั้งปีงบประมาณ 2552 2.1 รายได้ภาครัฐบาล มีจำนวนทั้งสิ้น 2,175,839 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 25.0 ของ GDP (ปีที่แล้วร้อยละ 25.3 ต่อ GDP) และลดลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว 129,654 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.6 โดยเป็นผลมาจากการลดลงทั้งในส่วนของรายได้รัฐบาล และ อปท. ส่วนบัญชีเงินนอกงบประมาณสูงกว่าระยะเดียวกันปีที่แล้ว ดังนี้ 1) รัฐบาลมีรายได้ 1,470,550 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 16.9 ของ GDP (ปีที่แล้วคิดเป็นร้อยละ 17.8 ของ GDP) และลดลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้วร้อยละ 9.3 ทั้งนี้เนื่องจากการจัดเก็บรายได้ 3 กรมหลัก (กรมสรรพากร กรมสรรพสามิต และกรมศุลกากร) ลดลงจากปีก่อนโดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดเก็บ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีเงินได้ นิติบุคคล ภาษีสรรพสามิตรถยนต์ และอากรขาเข้า นอกจากนี้การนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจก็ลดลงเช่นกัน ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ส่งผลต่อประเทศไทยโดยตรง 2) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีรายได้ 332,531 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 3.8 ของ GDP (ปีที่แล้ว คิดเป็นร้อยละ 3.7 ของ GDP) และลดลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้วร้อยละ 2.1 ทั้งนี้เนื่องจากเงินที่รัฐบาลแบ่งให้ อปท. ลดลง 3) บัญชีเงินนอกงบประมาณ (ประกอบด้วยกองทุนนอกงบประมาณและเงินฝากนอกงบประมาณ) มีรายได้รวม 372,757 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 4.3 ของ GDP (ปีที่แล้วคิดเป็นร้อยละ 3.8 ของ GDP) และสูงกว่าปีที่แล้ว 28,308 ล้านบาท หรือร้อยละ 8.2 เนื่องจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีรายได้จากการนำส่งรายได้เข้ากองทุนจากภาษีน้ำมันเพิ่มขึ้นและกองทุนอ้อยและน้ำตาลมีรายได้จากการจำหน่ายน้ำตาลเพิ่มขึ้นในขณะที่ปีที่แล้วมีการปรับลดเงินเข้ากองทุนน้ำมัน 2.2 รายจ่ายของภาครัฐบาล (รวมการให้กู้หักชำระคืนตามนโยบายรัฐบาล) มีจำนวนทั้งสิ้น 2,525,570 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 223,648 ล้านบาท หรือร้อยละ 9.7 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นของรายจ่ายรัฐบาลเป็นสาเหตุหลักและรายจ่ายเงินกู้ต่างประเทศ ดังนี้ 1) รัฐบาลมีการเบิกจ่ายงบประมาณจำนวนทั้งสิ้น 1,891,851 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 21.7 ของ GDP (ปีที่แล้วคิดเป็นร้อยละ 18.2 ของ GDP) และสูงกว่าปีที่แล้ว 236,060 ล้านบาท หรือร้อยละ 14.3 2) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นคาดว่าจะมีจำนวนทั้งสิ้น 338,276 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 3.9 ของ GDP (ปีที่แล้วคิดเป็นร้อยละ 3.9 ของ GDP) ต่ำกว่าปีที่แล้ว 16,087 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.5 3) เงินกู้ต่างประเทศ มีการเบิกจ่ายทั้งสิ้น 7,808 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.1 ของ GDP สูงกว่า ปีที่แล้ว 6,384 ล้านบาท เนื่องจากในปีนี้มีการเร่งการเบิกจ่ายเงินกู้ (SAL) ให้แล้วเสร็จในปีงบประมาณ 2552 4) บัญชีเงินนอกงบประมาณ (รวมรายจ่ายและเงินให้กู้หักชำระคืนตามนโยบายรัฐบาล) จำนวน 287,635 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 3.3 ของ GDP (ปีที่แล้วคิดเป็นร้อยละ 3.2 ของ GDP) และเบิกจ่ายต่ำกว่า ปีที่แล้ว 2,709 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.9 2.3 ดุลการคลังภาครัฐบาล ขาดดุลการคลังจำนวน 349,731 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 4.0 ของ GDP) ขณะที่ปีที่แล้วเกินดุลเล็กน้อย (18 ล้านบาท) สำหรับดุลการคลังเบื้องต้น (ไม่รวมรายได้และรายจ่ายดอกเบี้ย และการชำระคืนต้นเงินกู้) ของรัฐบาล (Primary Balance) ในช่วงตลอดทั้งปีงบประมาณ 2552 ได้สะท้อนถึงทิศทางนโยบายการคลังของรัฐบาลขาดดุลรวมทั้งสิ้น 224,195 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 2.6 ของ GDP) ในขณะที่ปีที่แล้วเกินดุล 121,527 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 1.3 ของ GDP) ดุลการคลังของภาครัฐบาลตามระบบ สศค. ในปีงบประมาณ 2552 หน่วย : ล้านบาท รายละเอียดเพิ่มเติม ดูได้จาก www.fpo.go.th สำนักนโยบายการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร. 0 2273 9020 ต่อ 3584

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ