กรุงเทพฯ--15 ธ.ค.--คต.
นายวิจักร วิเศษน้อย อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) เปิดเผยว่า สหภาพยุโรปได้ออกข้อกำหนดเกี่ยวกับฉลากประหยัดพลังงาน (Energy Labeling) ซึ่งประกอบด้วยระดับ A-G ต่อมาคณะกรรมาธิการยุโรปได้เสนอให้เพิ่มระดับบ่งชี้การประหยัดพลังงานใหม่อีก 2 ระดับ สูงกว่าระดับ A ได้แก่ A-20% และ A-40% ซึ่งหมายความว่าผลิตภัณฑ์นั้น ๆ จะใช้พลังงานน้อยกว่าผลิตภัณฑ์ที่มีการประหยัดพลังงานอยู่ในระดับ A ลงไปอีก 20% และ 40% ตามลำดับ อย่างไรก็ดี เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2552 สภายุโรปได้ลงคะแนนเสียงไม่เห็นชอบการเพิ่มระดับ A-20% และ A-40% เพราะเห็นว่าจะทำให้ผู้บริโภคสับสน คณะกรรมาธิการยุโรปจึงได้ปรับแก้ข้อเสนอการปรับปรุงฉลากแบบใหม่อีก 3 ระดับ เป็น A+, A++ และ A+++ ซึ่งสภายุโรปและคณะมนตรียุโรปได้ลงมติเห็นชอบให้ปรับปรุงฉลากประหยัดพลังงานแบบเดิมเป็น A+, A++ และ A+++ แล้วเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2552 รวมทั้งกำหนดให้มีสีบ่งชี้การประหยัดพลังงาน 7 ระดับ เช่น สินค้าที่มีระดับการประหยัดพลังงานสูงสุด A+++ จะได้รับการบ่งชี้ด้วยสีเขียวเข้ม และระดับการประหยัดพลังงานต่ำสุดอยู่ที่ D ได้รับการบ่งชี้ด้วยสีแดง
นอกจากนี้ อียูยังเสนอให้มีการติดผนึกฉลากประหยัดพลังงานลงในเอกสารโฆษณา ใบแสดงราคา เอกสารประชาสัมพันธ์ และในอินเตอร์เน็ท ไม่ว่าสินค้านั้นจะมีระดับการประหยัดพลังงานระดับใด โดยผู้ผลิตต้องรับผิดชอบเกี่ยวกับการบ่งชี้ระดับการประหยัดพลังงานบนสินค้า ระเบียบฉลากประหยัดพลังงานดังกล่าวจะบังคับใช้กับสินค้าในครัวเรือนที่เป็นสินค้าอิเล็กโทรนิกส์ที่ใช้พลังงาน เช่น เครื่องซักผ้า โทรทัศน์ ตู้เย็น ฯลฯ และสินค้าที่ใช้ในการพาณิชย์และอุตสาหกรรมที่ใช้พลังงาน เช่น ห้องเย็น ตู้โชว์สินค้า และเครื่องขายสินค้าแบบอัตโนมัติ โดยจะขยายขอบข่ายไปยังสินค้าที่จะมีส่วนช่วยในการประหยัดพลังงานทั้งทางตรงและทางอ้อมด้วย เช่น หน้าต่าง ขอบหน้าต่าง และประตู เป็นต้น อย่างไรก็ดี คณะทำงานของคณะกรรมาธิการยุโรปจะทำการปรับปรุงรายละเอียดด้านเทคนิคของกฎระเบียบดังกล่าวต่อไป
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศกล่าวเพิ่มเติมว่า ระเบียบว่าด้วยฉลากประหยัดพลังงานแบบใหม่จะต้องได้รับการลงมติเห็นชอบจากคณะมนตรียุโรปและสภายุโรปในช่วงต้นปี 2553 จากนั้นจะได้รับการประกาศใช้ใน EU Official Journal ซึ่งประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปมีเวลาอีก 12 เดือน ที่จะนำกฎระเบียบใหม่ดังกล่าวไปปรับใช้ คาดว่าผู้บริโภคจะเริ่มเห็นฉลากประหยัดพลังงานแบบใหม่ตั้งแต่ต้นปี 2553 เป็นต้นไป ผู้สนใจสามารถค้นหารายละเอียดเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์
http://europa.eu/rapid/pressReleasesAction.do?reference=IP/09/516
หรือ http://www.euractiv.com/en/energy-efficiency/eu-endorses-new-energy-labels/article-180930