กรุงเทพฯ--16 ธ.ค.--ปตท.
วันนี้ (16 ธันวาคม 2552) ณ อาคารสำนักงานใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ เป็นประธานในพิธีมอบไม้เทนนิสมือสองจากกิจกรรม “พลังแร็กเก็ต เพื่อเด็กไทย” ผ่านองค์กรสาธารณกุศลและสถาบันการศึกษาที่ขาดแคลนอุปกรณ์กีฬา เพื่อใช้ประโยชน์ในการพัฒนาศักยภาพด้านกีฬาแก่เยาวชน และมอบรางวัลไม้เทนนิสจากนักหวดระดับโลกแก่ผู้มีใจกุศลที่ร่วมบริจาคไม้เทนนิสรวม 10 ราย นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท.เปิดเผยถึงความเป็นมาของกิจกรรม “พลังแร็กเก็ต เพื่อเด็กไทย” ว่า เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่จัดขึ้นระหว่างการแข่งขันเทนนิสชายในรายการ PTT Thailand Open 2009 ที่ ปตท. และ บริษัท บีอีซี เทโรเอ็นเตอร์ เทนเม้นท์ จำกัด จัดขึ้น ระหว่างวันที่ 26 กันยายน — 4 ตุลาคม ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ที่สนใจทั่วไปเข้าร่วมชมการแข่งขันเป็นจำนวนมาก และ ปตท. ยังได้จัดกิจกรรม “พลังแร็กเก็ต เพื่อเด็กไทย” ขึ้น เพื่อรับบริจาคไม้เทนนิสเก่าที่ยังสามารถใช้งานได้ ณ สถานีบริการน้ำมัน ปตท. 20 แห่งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยจะนำไม้เทนนิสที่ได้รับการบริจาคไปมอบให้แก่ สมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย มูลนิธิสวนหลวง ร.๙ ศูนย์ฝึกกีฬาเยาวชน สังกัดกรุงเทพมหานคร และ โรงเรียนบ่อไร่วิทยาคม จ.ตราด ซึ่งเป็นโรงเรียนที่อยู่ในโครงการโรงเรียนในฝันของ ปตท. เพื่อใช้เป็นอุปกรณ์กีฬาสำหรับเยาวชนที่มีทักษะด้านกีฬาเทนนิสแต่ขาดแคลนอุปกรณ์ โดยได้รับความอนุเคราะห์จาก Wilson เป็นผู้ซ่อมแซมไม้เทนนิสที่รับบริจาครวม 303 อัน และสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้จำนวน 237 อัน ซึ่งผู้ที่ร่วมบริจาคนอกจากจะได้รับบัตรเทนนิสเพื่อเข้าชมการแข่งขันแล้ว ยังมีสิทธิได้รับรางวัลไม้เทนนิสของนักหวดระดับโลกทั้งไทยและต่าง ประเทศเป็นที่ระลึกอีกจำนวน 10 รางวัล อาทิ จีลส์ ซีมง, วิคเตอร์ ทรอยซกี้, โจ-วิลฟรีด ซองก้า และ ดนัย อุดมโชค ซึ่งได้มีการจับรางวัลผู้โชคดีไปแล้วเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2552
นายประเสริฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปตท. และ บริษัทในกลุ่ม ปตท. มุ่งมั่นในการพัฒนาศักยภาพและยกระดับนักกีฬาของไทยทั้งในระดับเยาวชนและระดับมืออาชีพอย่างต่อเนื่อง ตามนโยบายการพัฒนากีฬาของชาติ โดยสนับสนุนการกีฬาทั้งในระดับภูมิภาคและระดับชาติ เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการเล่นกีฬา โดยเฉพาะในกลุ่มของเยาวชนเพื่อให้รู้จักการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และสามารถพัฒนาศักยภาพและทักษะทางด้านกีฬาสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศต่อไป