กรุงเทพฯ--16 ธ.ค.--โตโยต้า มอเตอร์
นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์เดือนพฤศจิกายน 2552 ปริมาณการขาย 57,031 คัน เพิ่มขึ้น 23.8% ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 24,054 คัน เพิ่มขึ้น 32.3% รถเพื่อการพาณิชย์ 32,977 คัน เพิ่มขึ้น 18.2% รวมทั้ง รถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ จำนวน 28,885 คัน เพิ่มขึ้น 18.9%
สถิติการขายสะสม 11 เดือนของปี 2552 มีปริมาณทั้งสิ้น 476,786 คัน ลดลง 14.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยแบ่งออกเป็น รถยนต์นั่ง 199,606 คัน ลดลง 1.7% รถเพื่อการพาณิชย์ 277,180 คัน ลดลง 21.5% รวมทั้ง รถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซ็กเมนท์นี้จำนวน 240,262 คัน ลดลง 20.7%
ประเด็นสำคัญ
1. ตลาดรถยนต์เดือนพฤศจิกายน มีปริมาณการขาย 57,031 คัน เพิ่มขึ้น 23.8% เติบโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 และเป็นการเติบโตสูงสุดในรอบ 53 เดือน ทั้งนี้ ตลาดรถยนต์นั่งที่เติบโต 32.3% สูงสุดในรอบปี ส่วนหนึ่งเป็นผลจากความนิยมอย่างต่อเนื่องของรถยนต์นั่งหลายรุ่น รวมถึงรถยนต์รุ่นใหม่ที่มีการแนะนำเข้าสู่ตลาดในช่วงที่ผ่านมา ในขณะที่ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ มีอัตราการเติบโต 18.2% โดยตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 18.9% สูงสุดในรอบปีเช่นกัน เป็นผลมาจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ประกอบกับราคาสินค้าการเกษตรที่ปรับราคาสูงขึ้น
2. ตลาดรถยนต์สะสม 11 เดือนมีปริมาณการขาย 476,786 คัน ลดลง 14.3% เป็นอัตราการเติบโตที่หดตัวน้อยที่สุดของปี เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตลดลง 1.7% ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตลดลง 21.5% ทั้งนี้ยอดขายรถยนต์สะสมยังคงหดตัวแต่เป็นการหดตัวที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจต่างๆที่มีทิศทางเพิ่มขึ้น แสดงถึงการฟื้นตัวของระบบเศรษฐกิจ ประกอบกับราคาพืชผลทางการเกษตรที่ปรับขึ้น และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ อาทิ แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ที่งบประมาณถูกส่งเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจมาอย่างต่อเนื่อง
3. สำหรับตลาดรถยนต์เดือนธันวาคม คาดว่าจะมีปริมาณการขายดีขึ้น จากสถิติการขายแล้วเดือนธันวาคมเป็นเดือนที่มียอดขายสูงสุดของปี ประกอบกับค่ายรถยนต์ต่างๆ ได้มีการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ รุ่นพิเศษ ตลอดจนนำข้อเสนอพิเศษต่างๆมาเสนอต่อผู้บริโภคสำหรับงานมอเตอร์ เอ็กซ์โปและต่อเนื่องตลอดเดือน รวมถึงภาวะเศรษฐกิจโดยรวมมีสัญญาณการฟื้นตัวในทิศทางที่ดีขึ้น ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าตลาดรถยนต์จะสามารถบรรลุเป้าหมายการขายของปีที่ได้ประมาณการไว้ 520,000 คัน
ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์เดือนพฤศจิกายน 2552
1.) ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 57,031 คัน เพิ่มขึ้น 23.8%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 24,578 คัน เพิ่มขึ้น 24.3% ส่วนแบ่งตลาด 43.1% ส่วนต่าง - คัน
อันดับที่ 2 อีซูซุ 11,084 คัน เพิ่มขึ้น 8.6% ส่วนแบ่งตลาด 19.4% ส่วนต่าง 13,494 คัน
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 9,550 คัน เพิ่มขึ้น 21.6% ส่วนแบ่งตลาด 16.7% ส่วนต่าง 15,028 คัน
2.) ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 24,054 คัน เพิ่มขึ้น 32.3%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 10,035 คัน เพิ่มขึ้น 23.9% ส่วนแบ่งตลาด 41.7% ส่วนต่าง - คัน
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 9,366 คัน เพิ่มขึ้น 25.2% ส่วนแบ่งตลาด 38.9% ส่วนต่าง 669 คัน
อันดับที่ 3 มาสด้า 1,381 คัน เพิ่มขึ้น 335.6% ส่วนแบ่งตลาด 5.7% ส่วนต่าง 8,654 คัน
3.) ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน* (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV) ปริมาณการขาย 28,885 คัน เพิ่มขึ้น 18.9%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 13,211 คัน เพิ่มขึ้น 24.6% ส่วนแบ่งตลาด 45.7% ส่วนต่าง - คัน
อันดับที่ 2 อีซูซุ 10,271 คัน เพิ่มขึ้น 7.5% ส่วนแบ่งตลาด 35.6% ส่วนต่าง 2,940 คัน
อันดับที่ 3 นิสสัน 2,087 คัน เพิ่มขึ้น 48.9% ส่วนแบ่งตลาด 7.2% ส่วนต่าง 11,124 คัน
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน: 3,082 คัน
โตโยต้า 1,583 คัน- อีซูซุ 719 คัน - มิตซูบิชิ 678 คัน - ฟอร์ด 102 คัน
4.) ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 25,803 คัน เพิ่มขึ้น 16.9%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 11,628 คัน เพิ่มขึ้น 22.3% ส่วนแบ่งตลาด 45.1% ส่วนต่าง - คัน
อันดับที่ 2 อีซูซุ 9,552 คัน เพิ่มขึ้น 5.0% ส่วนแบ่งตลาด 37.0% ส่วนต่าง 2,076 คัน
อันดับที่ 3 นิสสัน 2,087 คัน เพิ่มขึ้น 48.9% ส่วนแบ่งตลาด 8.1% ส่วนต่าง 9,541 คัน
5.) ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 32,977 คัน เพิ่มขึ้น 18.2%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 14,543 คัน เพิ่มขึ้น 24.6% ส่วนแบ่งตลาด 44.1% ส่วนต่าง - คัน
อันดับที่ 2 อีซูซุ 11,084 คัน เพิ่มขึ้น 8.6% ส่วนแบ่งตลาด 33.6% ส่วนต่าง 3,459 คัน
อันดับที่ 3 นิสสัน 2,109 คัน เพิ่มขึ้น 49.4% ส่วนแบ่งตลาด 6.4% ส่วนต่าง 12,434 คัน
สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม — พฤศจิกายน 2552
1) ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 476,786 คัน ลดลง 14.3%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 202,244 คัน ลดลง 14.4% ส่วนแบ่งตลาด 42.4% ส่วนต่าง - คัน
อันดับที่ 2 อีซูซุ 96,856 คัน ลดลง 20.6% ส่วนแบ่งตลาด 20.3% ส่วนต่าง 105,388 คัน
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 81,558 คัน เพิ่มขึ้น 1.9% ส่วนแบ่งตลาด 17.1% ส่วนต่าง 8,654 คัน
2) ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 199,606 คัน ลดลง 1.7%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 88,540 คัน ลดลง 8.5% ส่วนแบ่งตลาด 44.4% ส่วนต่าง - คัน
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 77,333 คัน เพิ่มขึ้น 7.6% ส่วนแบ่งตลาด 38.7% ส่วนต่าง 11,207 คัน
อันดับที่ 3 นิสสัน 7,831 คัน เพิ่มขึ้น 15.7% ส่วนแบ่งตลาด 3.9% ส่วนต่าง 80,709 คัน
3) ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน* (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV) ปริมาณการขาย 240,262 คัน ลดลง 20.7%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 102,870 คัน ลดลง 18.6% ส่วนแบ่งตลาด 42.8% ส่วนต่าง - คัน
อันดับที่ 2 อีซูซุ 90,325 คัน ลดลง 21.5% ส่วนแบ่งตลาด 37.6% ส่วนต่าง 12,545 คัน
อันดับที่ 3 นิสสัน 17,267 คัน ลดลง 19.5% ส่วนแบ่งตลาด 7.2% ส่วนต่าง 85,603 คัน
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน: 24,249คัน
โตโยต้า 13,585 คัน - อีซูซุ 5,090 คัน - มิตซูบิชิ 4,946 คัน - ฟอร์ด 628 คัน
4) ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 216,013 คัน ลดลง 23.6%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 89,285 คัน ลดลง 21.5% ส่วนแบ่งตลาด 41.3% ส่วนต่าง - คัน
อันดับที่ 2 อีซูซุ 85,235 คัน ลดลง 22.1% ส่วนแบ่งตลาด 39.5% ส่วนต่าง 4,050 คัน
อันดับที่ 3 นิสสัน 17,267 คัน ลดลง 19.5% ส่วนแบ่งตลาด 8.0% ส่วนต่าง 72,018 คัน
5) ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 277,180 คัน ลดลง 21.5%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 113,704 คัน ลดลง 18.5% ส่วนแบ่งตลาด 41.0% ส่วนต่าง - คัน
อันดับที่ 2 อีซูซุ 96,856 คัน ลดลง 20.6% ส่วนแบ่งตลาด 34.9% ส่วนต่าง 16,848 คัน
อันดับที่ 3 นิสสัน 17,580 คัน ลดลง 20.0% ส่วนแบ่งตลาด 6.3% ส่วนต่าง 96,124 คัน