กรุงเทพฯ--17 ธ.ค.--คอร์ แอนด์ พีค
บทความโดย บริษัท แซส ซอฟท์แวร์ (ไทยแลนด์) จำกัด
การสังเกตพฤติกรรมโดยใช้การวิเคราะห์เครือข่ายทางสังคมทำให้สามารถมองเห็นสิ่งซึ่งอาจเปลี่ยนวิธีที่เราคิดและรู้ว่าแท้จริงแล้วต้องทำสิ่งใดเพื่อปกป้องลูกค้า
กลุ่มธุรกิจผู้ให้บริการทางการเงินทั้งหลายต่างตกอยู่ภายใต้แรงกดดันให้เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานผ่านการนำข้อมูลมาใช้งานอย่างเหมาะสม ในขณะเดียวกันกลุ่มธุรกิจนี้จะต้องบริหารจัดการความเสี่ยงที่มีอยู่อย่างหลากหลายด้วย คำถามคือ ต้องทำอย่างไร? ในปัจจุบันผู้ประกอบการหลายแห่งได้นำการวิเคราะห์เครือข่ายทางสังคม (Social Network Analysis : SNA) มาใช้ เพื่อให้เกิดความอัจฉริยะเหนือกว่าเครือข่ายข้อมูล ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการฉ้อโกง
เอลเลน จอยเนอร์ โรเบอร์สัน ผู้จัดการฝ่ายการตลาดธุรกิจธนาคารทั่วโลกของ แซส ซอฟท์แวร์ กล่าวว่า เครื่องมือการวิเคราะห์เครือข่ายทางสังคมของแซส เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังที่จะสร้างความเข้าใจในโครงสร้างของเครือข่ายทางสังคมและองค์ประกอบของระบบเครือข่าย เป็นที่รู้กันว่า การวิเคราะห์ดังกล่าวเป็นการวิเคราะห์แบบเชื่อมโยง (Link Analysis) ซึ่ง SNA จะทำการจัดกลุ่มและวัดระดับความสัมพันธ์ รวมถึงตรวจสอบการไหลเวียนความสัมพันธ์ระหว่างผู้คน กลุ่มคน องค์กร เครื่องคอมพิวเตอร์ หรือ เอกลักษณ์ของการประมวลผลข้อมูล ตลอดจนความรู้อื่นๆ ขั้วโหนดที่อยู่ในเครือข่ายก็คือผู้คนและกลุ่มต่างๆ ขณะที่การเชื่อมโยงจะแสดงถึงความสัมพันธ์หรือการไหลเวียนระหว่างขั้วโหนดเหล่านี้ SNA ให้ทั้งการวิเคราะห์แบบที่ปรากฎเห็นได้ และการวิเคราะห์ทางคณิตศาตร์ของระบบมนุษย์ที่สลับซับซ้อน การนำเสนอการวิเคราะห์นี้มีความสำคัญในเชิงปฏิบัติ เพราะ SNA ได้รวมเอาเครื่องมือสำหรับสกัดข้อมูล เครื่องมือสำหรับการนำเอาข้อมูลมาใช้ประโยชน์ เครื่องมือสำหรับการวิเคราะห์ และเครื่องมือที่ปรากฎเห็นได้ เพื่อกลั่นกรองฐานข้อมูลที่มีอยู่มากมายมหาศาลให้เป็นข้อมูลที่ทำให้เห็นรูปแบบของการเชื่อมโยงที่ผิดปกติ หรืออธิบายอย่างสั้นคือ เครื่องมือนี้จะทำหน้าที่วิเคราะห์และนำเสนอข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เช่น ผู้ใดรู้จักกันบ้าง ผู้ใดที่เรียกหากัน และผู้ใดที่ทำธุรกิจร่วมกัน
การที่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยและการก่ออาชญากรรมในองค์กรเพิ่มมากขึ้น ทำให้ตลาดสินเชื่อระส่ำระสาย ส่งผลต่อการให้ความสำคัญในการมองหาหนทางใหม่เพื่อมาต่อสู้กับอาชญากรรมทางการเงินเป็นอย่างมาก ในภาวะแวดล้อมแบบใหม่เช่นนี้ทำให้เราได้เห็นอาชญากรที่สามารถหลบหลีกจากการประเมินความเสี่ยงแบบธรรมดาทั่วไป ข้อมูลแบบเดิมและเทคนิคบันทึก-จับคู่ข้อมูลแบบเดิมต้องต่อสู้กับข้อมูลคุณภาพต่ำ การที่ข้อมูลขาดหาย และการที่ข้อมูลผิดพลาดหรือล่าช้าหลายครั้ง ซึ่งทำให้ค้นพบความพยายามในการซ่อนร่องรอยที่สามารถระบุตัวตนได้อย่างรอบคอบของบรรดาอาชญากร ระบบที่ใช้กันมาส่วนมากใช้มาตรการการจับคู่ซึ่งคลาดเคลื่อนหรือคลุมเคลือ ซึ่งโน้มเอียงต่อการเกิดตัวเลขการจับคู่ที่ผิดพลาดอย่างมีนัยสำคัญ
วิธีไปสู่เป้าหมายแบบเดิมไม่สามารถมองเห็นว่าความสัมพันธ์นั้นมาแทนที่กันได้อย่างไร โครงสร้างของความสัมพัน์เหล่านี้สามารถสร้างขึ้นมาได้ โดยการเฝ้าดูรูปแบบของชุมชนระหว่างขั้วโหนดของเครือข่าย การระบุโครงสร้างของเครือข่ายที่ไม่เป็นมิตรออกมาได้ จะทำให้เกิดการแสดงตัวของขั้วโหนดที่สำคัญและความสัมพันธ์ของขั้วโหนดเหล่านั้น อย่างไรก็ตามการวิเคราะห์นี้เป็นการต่อสู้กลับเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น การวิเคราะห์เพื่อคาดการณ์ล่วงหน้าจะเป็นไปไม่ได้เลยถ้าปราศจากความเข้าใจเรื่อง “รูปแบบของชีวิต” ภายในเครือข่ายนั้น การวิเคราะห์เครือข่ายและการวิเคราะห์เพื่อคาดการณ์ไปพร้อมๆ กัน จะทำให้สถาบันการเงินสามารถแยกแยะเครือข่าย ตีความเป้าหมายสำคัญ และคาดการณ์ได้ว่าเมื่อใดและที่ไหนของเป้าหมายที่อาจจะได้รับประโชน์จากโอกาสที่เกิดขึ้น
โรเบอร์สันยกตัวอย่างของการฉ้อโกงบุคคลที่หนึ่งและการฉ้อโกงที่สามารถหลบหนีไปได้ ในฐานะที่เป็นต้นเหตุแห่งการสูญเสียที่กำลังขยายตัวในธุรกิจธนาคาร สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ไม่ใช่แค่หนี้เครดิตเสียเท่านั้น ธนาคารหลายแห่งกำลังจัดตั้งบัญชีเฉพาะที่เกิดการฉ้อโกง ตามที่โรเบอร์สันกล่าว ระบบตรวจวัดแบบมาตรฐานทั่วไปเริ่มไม่สามารถตรวจพบข้อมูลเหล่านี้ หรืออาจใช้เวลาหลายปีกว่าที่จะตรวจพบหากปราศจากโซลูชั่น เช่น SNA โซลูชั่นนี้ให้การแสดงผลเครือข่ายที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งทำให้ผู้สอบสวน เห็นจุดเชื่อมต่อตามความเป็นจริง เพื่อที่พวกเขาจะสามารถเปิดโปงความสัมพันธ์ที่ไม่รู้มาก่อนหน้านี้ ทำให้มีประสิทธิภาพในการสอบสวนมากขึ้น
การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ทางสังคมเป็นประโยชน์อย่างมากในการต่อสู้กับองค์กรอาชญากรรมทางโทรศัพท์ อาชญากรรมองค์กร SNA จะเปิดเผยจุดเชื่อมโยง ซึ่งช่วยผู้สอบสวนและผู้วิเคราะห์ได้อย่างมากในการหาข้อมูลลับที่สามารถใช้ฟ้องร้องได้ การใช้เทคนิคนี้สามารถเปิดเผยการฉ้อโกงได้เร็วขึ้น รวมถึงสามารถระบุอาชญากรรมทางอ้อม และรูปแบบลวงตา ตลอดจนรวมข้อมูลเชื่อมโยงตัวผู้ฉ้อโกงกับการกระทำผิดได้ การหลอกลวงทางโทรศัพท์ที่ช่ำชองอาจจะไม่สามารถถูกตรวจสอบพบได้ด้วยการเฝ้าดูเฉพาะการทำธุรกรรมส่วนบุคคล ระบบตรวจสอบแบบธรรมดาใช้วิธีการนี้และใช้เพียงแค่กฎเกณฑ์พื้นฐานในการวิเคราะห์ แต่ด้วยการวิเคราะห์แบบรวมขั้นสูงผนวกกับกฎเกณฑ์ทางธุรกิจที่มีอยู่ ผู้ใช้สามารถรวมกฎการวิเคราะห์ธุรกิจที่แตกต่างกันและความผิดปกติเช่น การวิเคราะห์กลุ่มก้อน ความหมายและมาตรฐานที่เบี่ยงเบน เหมืองข้อมูล และการการวิเคราะห์เพื่อคาดการณ์แบบอื่นๆ ให้เข้าเป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อที่จะมีกลุ่มพันธมิตรที่มีอำนาจอย่างเต็มที่ในการคาดการณ์และป้องกันการฉ้อโกงได้ ด้วยการรวมการผสมผสานนำเสนอเพื่อการวิเคราะห์เครือข่ายนี้ ธนาคารจะสามารถใช้สิ่งที่ลงทุนไปแล้วได้อย่างเหมาะสม และพัฒนากระบวนการตรวจสอบของพวกเขาให้มีความอัจฉริยะมากขึ้น รวมถึงกลั่นกรองเรื่องการเฝ้าระวังภัยและขั้นตอนการตรวจสอบให้ดียิ่งขึ้นด้วย
วิธีการ SNA ในบริบทของการตรวจสอบการฉ้อโกงหรืออาชญากรรมที่ดำเนินอยู่สามารถกำจัดการคำนวณแบบคร่าวๆ ที่ล้าสมัยและการทำรายงานเฉพาะกิจ แม้ว่าวิธีการเหล่านั้นจะช่วยให้ประหยัดแต่มันไม่ได้ให้ความยืดหยุ่นที่จะตามรอยของการเชื่อมโยงซึ่งไม่ได้แสดงออกมาอย่างชัดเจนในขณะนั้น ระบบการรายงานผลแบบมีปฎิสัมพัทธ์จะทำให้ผู้ตรวจสอบและผู้วิเคราะห์สามารถจัดเรียงข้อมูล และค้นหาการเชื่อมโยงที่น่าสนใจหรือผิดปกติได้ โดยภาพรวม SNA ช่วยลดเวลาในการตรวจจับสถานการณ์การฉ้อโกง ขณะที่ทำให้การตรวจสอบเวลาที่ต้องการใช้ในการตัดสินใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเครือข่ายโดยที่ไม่ได้คาดคิดมาก่อน ที่บริษัทนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ในการเลือกพฤติกรรมที่ผิดกฏหมายและมีเค้าลางว่าผิด ซึ่งไม่สามารถตรวจพบได้ เป็นไปอย่างอัตโนมัติ
แซสได้แนะนำโซลูชั่น SNA เมื่อเดือนเมษายน 2009 ให้กับกลุ่มธุรกิจธนาคาร ประกันภัย ธุรกิจเพื่อสุขภาพ และหน่วยงานของรัฐ มีผู้ค้าจำนวนไม่มากที่นำเสนอเทคโนโลยีนี้ แพลทฟอร์มของแซสที่นำเสนอไปนั้นมีคุณสมบัติการตรวจจับการฉ้อโกงที่ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น ที่สำคัญมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในหน้าที่บริหาร SAR อีกทั้งยังช่วยพัฒนาประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน ขณะที่ลดการใช้จ่ายเกี่ยวกับการฉ้อโกงลงไป
SAS Fraud Framework เป็นเฟรมเวิร์คที่ให้เทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐานสำหรับป้องกัน ตรวจสอบ และบริหารอาชญากรรมทางการเงินที่จะเกิดขึ้นในทั่วทุกสายธุรกิจที่มีอยู่ แพลทฟอร์มนี้จะช่วยจับคู่ 3 องค์ประกอบของการตรวจจับ การจัดการการแจ้งเตือน และการจัดการเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่ได้จัดให้มีหมวดหมู่ขั้นตอนการทำงานเฉพาะ การจัดการเนื้อหา และการวิเคราะห์ขั้นก้าวหน้า ส่วนประกอบเหล่านี้จะรวมเข้ากับ SNA อย่างสมบูรณ์ และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ทั้งจากระดับล่างขึ้นบนและบนลงล่างในการเปิดเผยเครือข่ายที่ซ่อนตัวอยู่และเป็นเครือข่ายที่มีความเสี่ยง ด้วยการทำงานขั้นสูง การวิเคราะห์เครือข่ายขนาดใหญ่จะทำงานทั่วทั้งแหล่งข้อมูลภายในและภายนอก เพื่อเชื่อมโยงลูกค้าและฐานบัญชีรายชื่อในคุณลักษณะปกติหรือในรูปแบบของพฤติกรรมที่ผิดปกติ การแจ้งเตือนและการใส่เครื่องหมายในการค้นหาที่ไม่เปิดเผยก่อนหน้านี้ สามารถถูกส่งกลับไปยังกระบวนการตรวจสอบการเตือนภัยสำหรับปรับแต่งความสามารถในการตรวจจับการฉ้อโกงโดยการรวม SNA เข้าไว้ในกระบวนการเฟรมเวิร์คของการฉ้อโกงทั้งหมดได้ และสิ่งเหล่านี้สามารถนำมารวมเข้ากับเฟรมเวิร์คการฉ้อโกงของแซสได้ หรือสามารถติดตั้งลงบนโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ขององค์กรได้เลย
ขณะที่ การวิเคราะห์เครือข่ายทางสังคมได้ถูกนำเสนอในบางรูปแบบในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา การนำเอาแนวคิดเพื่อป้องกันการฉ้อโกงคือเรื่องที่บริษัทที่เป็นผู้นำแห่งยุคจะเพ่งเล็งในปีที่กำลังจะมาถึง SNA เป็นเครื่องมือที่มีศักยภาพสูงและคิดถึงวิธีการแก้ปัญหาบนความเป็นจริงอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับหนทางที่มนุษย์ปฎิสัมพันธ์ต่อกัน การเฝ้าสังเกตพฤติกรรมผ่าน SNA ทำให้มองเห็นสิ่งซึ่งอาจจะเปลี่ยนวิธีคิดของเราและรู้ว่าแท้จริงแล้วเราต้องทำสิ่งใดเพื่อปกป้องลูกค้า