รายงานสถานการณ์อุทกภัย สภาวะอากาศ ปริมาณน้ำฝน และสภาพน้ำท่า วันที่ 17 ธันวาคม 2549 เวลา 07.00 น.

ข่าวทั่วไป Monday December 18, 2006 14:55 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--18 ธ.ค.--ปภ.
1. สรุปสถานการณ์อุทกภัยในลุ่มเจ้าพระยา
1.1 ระหว่างวันที่ 27-31 สิงหาคม 2549 วันที่ 9-12 กันยายน 2549 และวันที่ 18-23 กันยายน 2549 ร่องความกดอากาศต่ำหรือร่องฝนกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง พายุดีเปรสชั่นเคลื่อนตัวผ่าน (24-25 ก.ย.49) และพายุดีเปรสชั่น “ช้างสาร” (1-3 ต.ค.49) ทำให้มีฝนตกหนักมากในพื้นที่ ระดับน้ำในแม่น้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่ลุ่มริมฝั่งของลำน้ำหลายพื้นที่
1.2 พื้นที่ประสบภัย รวม 47 จังหวัด 442 อำเภอ 40 กิ่งอำเภอ 16 เขต 3,054 ตำบล 20,625 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 5,198,814 คน 1,430,085 ครัวเรือน ได้แก่ จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำพูน ลำปาง แพร่ พะเยา อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ พิษณุโลก สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิจิตร นครสวรรค์ ชัยนาท อุทัยธานี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี ปทุมธานี นนทบุรี นครปฐม นครนายก ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี จันทบุรี ตราด ชัยภูมิ ขอนแก่น อุดรธานี นครราชสีมา ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ สุรินทร์ อุบลราชธานี ยโสธร ร้อยเอ็ด ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พังงา และกรุงเทพมหานคร
1.3 ความเสียหาย
1) ผู้เสียชีวิต 331 คน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 72 คน พิจิตร 33 คน อ่างทอง 31 คน นครสวรรค์ 27 คน สิงห์บุรี 24 คน สุพรรณบุรี 18 คน สุโขทัย 15 คน ปราจีนบุรี 12 คน พิษณุโลก 11 คน ชัยภูมิ 11 คน ชัยนาท 11 คน ยโสธร 10 คน จันทบุรี 8 คน เชียงใหม่ 7 คน อุทัยธานี 7 คน ปทุมธานี 6 คน ลพบุรี 6 คน แม่ฮ่องสอน 3 คน ลำปาง 3 คน ร้อยเอ็ด 3 คน นครปฐม 3 คน กรุงเทพมหานคร 2 คน ศรีสะเกษ 2 คน เพชรบูรณ์ 1 คน พังงา 1 คน นครราชสีมา 1 คน อุตรดิตถ์ 1 คน อุดรธานี 1 คน และบุรีรัมย์ 1 คน
2) ด้านทรัพย์สิน บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 649 หลัง เสียหายบางส่วน 36,735 หลัง ถนน 10,391 สาย สะพาน 671 แห่ง ท่อระบายน้ำ 1,085 แห่ง ทำนบ/ฝาย/เหมือง 778 แห่ง พื้นที่การเกษตรคาดว่าจะเสียหาย 5,605,559 ไร่ (ข้อมูลจากการบูรณาการระหว่างกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมส่งเสริมการเกษตร กรมพัฒนาที่ดิน และกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) บ่อปลา/กุ้ง 113,260 บ่อ กระชังปลา 12,433 กระชัง ปศุสัตว์ 142,211 ตัว วัด 743 แห่ง โรงเรียน 682 แห่ง ความเสียหายอื่น ๆ อยู่ระหว่างการสำรวจ มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นเท่าที่สำรวจได้ ประมาณ 7,636,574,897 บาท
2. พื้นที่สถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายแล้ว 43 จังหวัด
3. ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย 4 จังหวัด ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี นครปฐม และนนทบุรี ในจำนวน 10 อำเภอ แยกเป็น
1) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอลาดบัวหลวง และอำเภอบางซ้าย ระดับน้ำสูง 0.20-0.30 ม. ระดับน้ำลดลง
2) จังหวัดสุพรรณบุรี ยังคงมีน้ำท่วมขังบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตร 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง ( ต.โคกโคเฒ่า) ระดับน้ำสูง 0.20-0.30 ม. อำเภอบางปลาม้า (7 ตำบล) ระดับน้ำสูง 0.40-0.85 ม. และอำเภอสองพี่น้อง (9 ตำบล) ระดับน้ำสูง 0.40-0.95 ม. ระดับน้ำลดลง
3) จังหวัดนครปฐม ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มที่ติดกับริมแม่น้ำท่าจีน ริมคลองพระยาบรรลือ คลองพระพิมล คลองบางเลน คลองมหาสวัสดิ์ คลองโยง และคลองทวีวัฒนา 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบางเลน อำเภอนครชัยศรี อำเภอพุทธมณฑล และอำเภอกำแพงแสน บางพื้นที่น้ำเริ่มเน่าเสีย ระดับน้ำสูง 0.30-0.50 ม.
4) จังหวัดนนทบุรี น้ำยังคงมีน้ำท่วมขังบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำจากทุ่งเจ้าเจ็ดผ่านคลองพระยาบรรลือ และคลองพระพิมล อำเภอไทรน้อย ระดับน้ำสูง 0.40-0.95 ม. ระดับน้ำลดลง
4. การดำเนินการของกระทรวงมหาดไทย
1) ได้ระดมกำลัง เครื่องจักรกล 228 คัน/เครื่อง เรือท้องแบน 202 ลำ รถผลิตน้ำดื่ม 2 คัน เต็นท์ยกพื้นพักอาศัยชั่วคราว 555 หลัง พร้อมเจ้าหน้าที่ 642 คน ไปปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัย
2) จ่ายเงินค่าจัดการศพ 316 ราย รายละ 15,000 บาท กรณีเป็นหัวหน้าครอบครัว รายละ 40,000 บาท เป็นเงิน 8,215,000 บาท (คงเหลือ 15 ราย อยู่ระหว่างดำเนินการ)
3) จัดส่งถุงยังชีพ ข้าวสาร อาหารแห้ง สนับสนุนจังหวัดที่ประสบภัยคิดเป็นมูลค่า 41,649,800 บาท
4) จังหวัดที่ประสบภัยได้ใช้จ่ายเงินช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ ไปแล้ว 719.52 ล้านบาท
5. สภาพน้ำท่าในลุ่มน้ำเจ้าพระยา (ข้อมูลวันที่ 16 ธ.ค.49) โดยกรมชลประทาน
- ปริมาณน้ำไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์ 475 ลบ.ม./วินาที
- ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท 120 ลบ.ม./วินาที
- ปริมาณน้ำไหลผ่านอำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 640 ลบ.ม./วินาที
6. กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ ประจำวันที่ 17 ธันวาคม 2549 ออกประกาศเวลา 06.00 น.
ความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานคร และภาคตะวันออกมีอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา โดยมีอากาศหนาวเย็นลงอีกกับมีลมแรง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพในระยะนี้ สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ยังคงมีกำลังแรงในช่วงวันที่ 17-20 ธันวาคม 2549 ทำให้ภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปมีฝนตกหนักบางพื้นที่ คลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าว
7. ปริมาณน้ำฝน ตั้งแต่ 01.00 น วันที่ 16 ธ.ค.49 ถึง 01.00 น วันที่ 17 ธ.ค.49 วัดได้ ดังนี้
จังหวัดสงขลา (อ.หาดใหญ่) 72.7 มม. จังหวัดระนอง (อ.เมือง) 33.3 มม.
8. สำนักเลขาธิการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้แจ้งเตือนให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 6,7,8,9,10 จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา ลำพูน ลำปาง แพร่ น่าน ตาก เลย หนองบัวลำภู หนองคาย นครพนม อุดรธานี และสกลนคร เพื่อเตรียมการป้องกันและ แก้ไขปัญหาอันเกิดจากสภาพอากาศหนาวถึงหนาวจัดและมีลมแรง อาจสร้างความเสียหายให้แก่ชีวิต ทรัพย์สิน ผลิตผลทางการเกษตร และสัตว์เลี้ยงของประชาชน รวมทั้งศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 11,12 จังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา พัทลุง ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล เตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอันอาจเกิดจากสภาพอากาศฝนตกหนัก ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินถล่ม และคลื่นลมแรง อาจสร้างความเสียหายให้แก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ในระยะ 4 - 5 วันนี้ (16 - 20 ธ.ค.49)
9. ศูนย์อำนวยการบรรเทาสาธารณภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ หากมีสถานการณ์คืบหน้าประการใด จักได้ติดตามและรายงานให้ทราบต่อไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ