กรุงเทพฯ--17 ธ.ค.--ก.ล.ต.
สำนักงาน ก.ล.ต. มีคำสั่งอายัดทรัพย์สินของนายสมพงษ์ วิทยารักษ์สรรค์ นายสุริยา ลาภวิสุทธิสินนางสาวนิภาพร คมกล้า และนายสมชาย ศรีพยัคฆ์ ที่ถูกกล่าวโทษเพิ่มเติม กรณีทุจริตในบริษัท เอส.อี.ซี. ออโต้เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (“SECC”) และบริษัทย่อยรายบริษัท เอสอีซี โฮลดิ้ง จำกัด(“SECC Holding”) เป็นเวลา 180 วัน
สืบเนื่องจากสำนักงาน ก.ล.ต. ได้กล่าวโทษนายสมพงษ์ นางสาวนิภาพร และผู้ที่เกี่ยวข้อง กรณีทุจริตต่อทรัพย์สินของ SECC พร้อมทั้งมีคำสั่งอายัดทรัพย์สินของบุคคลดังกล่าวเป็นเวลา 180 วัน และศาลอาญาได้มีคำสั่งให้ขยายระยะเวลาอายัดทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดในคดีออกไปอีก 180 วัน ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 3 มกราคม 2553
ส่วนกรณีนายสุริยา สำนักงาน ก.ล.ต. ได้กล่าวโทษนายสุริยา และผู้ที่เกี่ยวข้องกรณียักยอกทรัพย์สินของบริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) พร้อมทั้งมีคำสั่งอายัดทรัพย์สินของบุคคลดังกล่าวเป็นเวลา180 วัน และศาลอาญาได้มีคำสั่งให้ขยายระยะเวลาอายัดทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดในคดีออกไปอีก 180 วัน ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 7 มีนาคม 2553
หลังจากนั้น สำนักงาน ก.ล.ต. ได้กล่าวโทษนายสมพงษ์ นายสุริยา นางสาวนิภาพร และนายสมชายเพิ่มเติม ในฐานะตัวการที่กระทำการทุจริตหรือผู้สนับสนุนการทุจริตใน SECC และ SECC Holding ในอีก 5 ประเด็น ได้แก่ การยักยอกเงินผ่านการให้กู้ยืมของ SECC Holding การยักยอกเงินฝากของSECC Holding การยักยอกเงินจากบัญชีจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ SECC การยักยอกชุดจดทะเบียนรถยนต์ และการตบแต่งบัญชีรายได้ค่าขายรถยนต์ของ SECC
เนื่องจากคำสั่งอายัดทรัพย์สินเดิมของนายสมพงษ์ นางสาวนิภาพร และนายสุริยา ใกล้จะครบอายุประกอบกับการกระทำความผิดของบุคคลทั้ง 3 รายดังกล่าว มีลักษณะอันอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประโยชน์ของประชาชน จึงมีเหตุอันควรเชื่อว่าผู้กระทำความผิดทั้ง 3 ราย จะยักย้ายหรือจำหน่ายทรัพย์สินของตนหลังครบกำหนดเวลาอายัดทรัพย์สินเดิม ส่วนกรณีนายสมชาย มีพฤติกรรมหลบหนี และการกระทำความผิดของนายสมชายเป็นความผิดที่กระทบต่อประโยชน์ของประชาชน จึงมีเหตุอันควรเชื่อว่านายสมชายจะยักย้ายหรือจำหน่ายทรัพย์สิน ดังนั้น สำนักงาน ก.ล.ต. ด้วยความเห็นชอบของคณะกรรมการ ก.ล.ต. จึงมีคำสั่งให้อายัดทรัพย์สินของบุคคลทั้ง 4 รายดังกล่าว เป็นเวลา 180 วันโดยกรณีนายสมพงษ์ และนางสาวนิภาพร ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2553 กรณีนายสุริยา ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2553 และกรณีนายสมชาย ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2552 เป็นต้นไป