แบบจำลองดิจิตัลพบ BIM โดยซอฟท์แวร์ออโตเดสก์ Inventor

ข่าวเทคโนโลยี Friday December 18, 2009 11:43 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--18 ธ.ค.--พิตอน คอมมูนิเคชั่น ออโตเดสก์, อิงค์ (NASDAQ: ADSK) ผู้นำระดับโลกด้านซอฟท์แวร์เพื่อการออกแบบ วิศวกรรม และเอ็นเตอร์เทนเม้นท์แบบ 2D และ 3D แจ้งข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับสองบริษัทใหญ่ด้านการออกแบบก่อสร้างอาคารอย่าง Reilly Windows Doors (Reilly) และ Mestek วางใจใช้โซลูชั่น Digital Prototyping ของออโตเดสก์เพื่อการทำงานในคอนเซ็ปต์ BIM (building information modeling) และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานร่วมกับบริษัทสถาปัตย์, วิศวกรรมและก่อสร้าง (AEC) อีกด้วย ซึ่งการนำโปรดักส์ที่สามารถรองรับ BIM ได้นั้นช่วยให้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดลงสู่การออกแบบได้ตั้งแต่ต้น จนถึงการลงรายละเอียดการก่อสร้างในแต่ละขั้นตอน ดังนั้นจะเห็นได้ว่าโปรดักส์ดังกล่าวจะช่วยบริษัทก่อสร้างทำงานได้อย่างมั่นใจมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจเกี่ยวกับรูปแบบความลงตัวในการก่อสร้าง, สุนทรียภาพความงาม ความประณีตของรายละเอียดการก่อสร้าง รวมถึงการควบคุมดูแลค่าใช้จ่าย และในขณะเดียวกันก็เพิ่มความสามารถในการแข่งขันเพื่อชนะโครงการงานใหม่ๆ ได้อีกด้วย ควบคู่ไปกับการเติบโตของคอนเซ็ปต์ BIM คือ แบบจำลองโมเดล 3D ที่พร้อมรับงานออกแบบแนว BIM เพื่อใช้ในการเสนองานออกแบบ โดยที่ซอฟท์แวร์ Autodesk Inventor ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการสร้างแบบจำลองดิจิตัลของงานออกแบบ และพับลิชแบบจำลองอย่างง่ายออกมา โดยแสดงข้อมูลในแบบที่มีอินเทลลิเจ้นท์คอนเนคเตอร์ (Intelligent Connector) และออปเจ็คท์ของโปรดักส์ในรูปแบบ BIM objects ด้วย นอกจากนั้น ข้อมูลในรูปแบบเดียวกันนี้ สามารถนำมาใช้งานใน Autodesk Revit ซึ่งเป็นกลุ่มแอพพลิเคชั่นรองรับ BIM โดยตรง ออกแบบเพื่อสถาปนิก, วิศวกร และมือก่อสร้างโดยเฉพาะ จึงได้แบบจำลองที่ครบถ้วนด้วยข้อมูลสำคัญทุกแง่มุมของโปรดักส์ ที่รวมมาแม้กระทั่งข้อมูลแนวคิดการออกแบบเชิงนิเวศน์ (Green) เป็นการเตรียมพร้อมสู่ LEED certification การทำแบบจำลองดิจิตัลคือกลยุทธ์สู่อีกก้าวที่เหนือกว่าคู่แข่ง Reilly ออกแบบร่าง ผลิต และติดตั้งหน้าต่างประตูตามคำสั่งลูกค้าได้ผลความประทับใจที่แม้แต่ลูกค้าที่ยุ่งยากละเอียดจุกจิกที่สุดยังต้องยอมยกนิ้วให้ ดังนั้น เพื่อให้ได้มาซึ่งโปรดักส์คุณภาพเป็นเลิศ Reilly อาศัย Digital Prototyping workflow ที่มาจาก Autodesk Inventor ในการออกแบบ, ทำภาพเสมือนจริง และทำเลียนแบบของจริงในแบบดิจิตัล และทำเป็นโมเดลโปรดักส์ขึ้นมาให้สถาปนิกที่ใช้ซอฟท์แวร์ Autodesk Revit Architecture ได้ใช้งาน ซึ่งทางมร. ไมเคิล จอห์น ไอวานิสโก ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ได้ให้การสนับสนุนถึงการที่สถาปนิกใช้โมเดล 3D นั้นว่า “เพิ่มมูลค่าในการทำงาน เพิ่มคุณภาพ เพิ่มประสิทธิภาพ แต่ไม่ต้องมาเสียเวลาประดิษฐ์โมเดลของจริงขึ้นมาอีกต่อไป” ข้อดีที่ทาง Reilly ได้รับประโยชน์เด่นชัดด้านการตลาด คือ การนำเสนองานต่อลูกค้าด้วยโมเดล 3D ที่ลงรายละเอียดได้มากเท่าที่ต้องการ และสามารถถ่ายทอดข้อมูลสำคัญเหล่านั้นไปยังทีมงานสร้างสรรค์งานสถาปัตย์ได้ทุกกระเบียดนิ้ว ลูกค้าได้สินค้าดั่งใจ เราเองมีความโดดเด่นด้านบริการอย่างทิ้งห่างคู่แข่งอื่นๆ ไปไกล” ที่บริษัท Mestek, Inc. นั้นเป็นลักษณะครอบครัวผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทำความร้อน, ระบบระบายอากาศ และระบบปรับอากาศถึง 30 เจ้ารวมอยู่ด้วยกันมากว่า 40 ปีแล้ว ถือได้ว่าเป็นที่หนึ่งของการสร้างสภาพแวดล้อมภายในอาคารที่เหนือชั้นกว่าใคร และเมื่อไม่นานมานี้ บริษัทได้ขยายงานด้านการออกแบบ BIM จึงพิจารณานำซอฟท์แวร์ Autodesk Inventor มารองรับงานทำแบบจำลองดิจิตัลให้ออกมาเป็น BIM object และปัจจุบันก็ได้รวบรวมออปเจ็คท์เหล่านี้ไว้ได้กว่า 300 ออปเจ็คท์ที่สามารถเข้าไปดาวน์โหลดมาใช้ใน Revit ได้แล้ว ถือเป็นจุดเด่นของการนำออปเจ็คท์กลับมาใช้ใหม่ในการทำดิจิตัลโมเดล แตกต่างกันไปโดยปรับตามวัตถุประสงค์การใช้งาน “การสร้าง BIM objects เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับการทำงานของเรา เนื่องจากรูปแบบของชิ้นงานนั้นมีความซับซ้อน ละเอียดอ่อน และต้องอาศัยความเที่ยงตรงแม่นยำในการตั้งค่าทุกขั้นตอน ดังนั้น BIM object ที่เรานำกลับมาปรับใช้ใหม่ได้นั้น จึงช่วยลดเวลา และเพิ่มความถูกต้องแม่นยำในชิ้นงานได้มาก ในเวลาอันสั้น” มร. ไมค์ เคเลอร์ ผู้จัดการทั่วไป ของบริษัท Mestex สาขาเมืองดัลลัสของ Mestek กล่าว ทั้งนี้ “การนำออปเจ็คท์ เหล่านี้มาแบ่งกันใช้ในงานชิ้นใหม่ในกลุ่มสถาปนิก วิศวกรนั้น ได้รับการยืนยันว่าเป็นการประหยัดเวลา ลดขั้นตอนยุ่งยากลงไปได้มาก เนื่องจากทีมงานไม่ต้องเสียเวลาสร้างของเดิมๆ จากศูนย์กันใหม่ทั้งหมดนั่นเอง” มร. โรเบิร์ต ‘บัซ’ ครอส รองประธานอาวุโส กลุ่มอุตสาหกรรมการผลิต ออโตเดสก์ กล่าวว่า “ความแข็งแกร่งของออโตเดสก์ในกลุ่มอุตสาหกรรมด้านออกแบบและก่อสร้าง (AEC) รวมทั้งตลาดการผลิตโปรดักส์ เป็นส่วนสำคัญในการวางรากฐานที่มั่นคงของการสื่อสารและการประสานงาน การทำงานร่วมกันระหว่างกลุ่มงานที่ต่างกัน” และ “การที่เรามีซอฟท์แวร์โซลูชั่น Inventor นั้นช่วยให้กลุ่มผู้ผลิตก้าวไปไกลยิ่งกว่า 3D สู่ Digital Prototyping และยังทำให้ลูกค้ากลุ่มงานก่อสร้างอาคารได้รับประโยชน์จากการที่ฝ่ายให้บริการใช้ Revit ทำโมเดลดิจิตัล หรือเวิร์คโฟลต่างๆ ของการทำงานด้วย”

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ