กรุงเทพฯ--18 ธ.ค.--กองประชาสัมพันธ์ กทม.
เทศกิจทำงานในสมัยผู้ว่าฯ สุขุมพันธุ์ ครบขวบปี มีผลงานเข้าตาหลายด้าน เอาจริงทิ้ง-จับ-ปรับ ปี 53 เพิ่มเป็นเริ่มต้น 200 คาดคนทิ้งขยะไม่เลือกที่ลดลง ส่วนป้ายผิดกฎหมายในที่สาธารณะกำหนดมอบรางวัล 1 ป้าย 1 บาท กว่า 1 ล้านป้ายในวันวาเลนไทน์ปีหน้า ด้านโครงการช้างยิ้มตั้งเป้าวันปลอดช้างในพื้นที่กรุงเทพ 2 ก.ค. 53 อีกทั้งเอาผิดเจ้าหน้าที่ปล่อยให้ขายของบริเวณจุดกวดขันพิเศษ
ทิ้ง-จับ-ปรับ เอาจริงเพิ่มโทษ 200 บาท คาดผู้กระทำผิดลดลง
ดร.ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานของเทศกิจในรอบปีที่ผ่านมา ว่า จากการควบคุมดูแลงานด้านเทศกิจของกรุงเทพมหานครในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา การปฏิบัติงานในกรอบอำนาจหน้าที่ของเทศกิจเกี่ยวกับการทิ้ง จับ ปรับ ผู้กระทำผิด พ.ร.บ.รักษาความสะอาดของบ้านเมือง ซึ่งในการกวดขันอย่างจริงจังเดือน ต.ค. 52 มีการตักเตือน 575 ราย ดำเนินคดี 935 ราย และปรับเป็นเงิน 95,210 บาท เดือน พ.ย. 52 มีการตักเตือน 320 ราย ดำเนินคดี 656 ราย และปรับเป็นเงิน 67,280 บาท และระหว่างวันที่ 1-13 ธ.ค. 52 มีการตักเตือน 50 ราย ดำเนินคดี 91 ราย และปรับเป็นเงิน 9,300 บาท ซึ่งในปี 2553 จะมีมาตรการเข้มงวดมากขึ้นสำหรับผู้กระทำผิดทิ้งขยะไม่เลือกที่ โดยจะเพิ่มค่าปรับขั้นต่ำเป็นครั้งละ 200 บาท กวดขันการทิ้งขยะลงจากรถ และอาจปรับเปลี่ยนหรือเพิ่มจุดจับปรับตามสภาพของชุมชนทั่วกรุงเทพฯ ด้วย
ป้ายผิดกฎหมายในที่สาธารณะกำหนดมอบ 1 ล้านบาทแก่เทศกิจผู้จัดเก็บ 1 ล้านป้าย
สำหรับการดำเนินการกับป้ายผิดกฎหมายในที่สาธารณะ จากสถิติการนับจำนวนป้ายตั้งแต่เดือน มิ.ย. - 14 ธ.ค. 52 มีจำนวนป้ายทั้งสิ้น 108,613 ป้าย มีการปรับไปแล้วระหว่างวันที่ 1-14 ธ.ค. จำนวน 8 ราย เป็นเงิน 16,200 บาท โดยกรุงเทพมหานครมีโครงการสร้างขวัญกำลังใจสำหรับเจ้าหน้าที่เทศกิจของกทม. ที่ออกดำเนินการจัดเก็บและเอาผิดกับป้ายผิดกฎหมายให้รางวัล 1 ป้าย 1 บาท ซึ่งบริษัทเอกชนสนับสนุนรางวัลให้จำนวน 1 ล้านบาท จำนวน 1 ล้านป้าย และจะมีการมอบรางวัลครั้งแรกวันที่ 14 ก.พ. 53 ซึ่งเป็นวันแห่งความรักด้วย
“ช้างยิ้ม” ดำเนินต่อเนื่องกำหนด “วันปลอดช้าง กทม.” 2 ก.ค. 53
ด้านการดำเนินโครงการ “ช้างยิ้ม” นับตั้งแต่เริ่มโครงการ 26 มี.ค. 52 กรุงเทพมหานครประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ องค์กรต่างๆ รวมถึงภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการรณรงค์พร้อมๆ กับการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นจนนำไปสู่มาตรการ จับ-ปรับ-ยึด รวมถึงการให้รางวัลนำจับ 2,000 บาท แก่พลเมืองดีที่สามารถแจ้งเบาะแสและร่วมในกระบวนการจนขั้นตอนการจับสิ้นสุด ซึ่งสถานการณ์ปัจจุบันรัฐบาลผลักดันนโยบายการแก้ไขวิกฤติช้างไทยเป็นวาระแห่งชาติเมื่อวันที่ 29 ก.ย. 52 กรุงเทพมหานครได้เดินหน้าในการอนุรักษ์และผลักดันช้างคืนถิ่นอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าหมายให้มี “วันปลอดช้าง กทม.” ให้พื้นที่กรุงเทพฯ ปลอดจากช้างเร่ร่อนเด็ดขาดในวันที่ 2 ก.ค. 53 ซึ่งหากการดำเนินการเข้มข้นอย่างนี้คาดว่าวันปลอดช้าง กทม. จะมาถึงก่อนกำหนดอย่างแน่นอน
เอาผิดตั้งแต่ผู้บริหารเขตลงมาฐานปล่อยขายของในจุดกวดขันพิเศษ
ส่วนการกวดขันหาบเร่แผงลอย การทิ้งขยะ รุกล้ำ ปิดผิวจราจรในจุดกวดขันพิเศษ เพื่อให้ประชาชนผู้สัญจรบนท้องถนนและบาทวิถีได้รับความสะดวกสบายในบริเวณป้ายรถโดยสารประจำทาง สะพานลอย ทางขึ้นลงสะพานลอย สถานีรถไฟฟ้า ทางข้ามทางม้าลาย รอบตู้โทรศัพท์ และผิวการจราจร ซึ่งตั้งแต่เดือน ม.ค. 53 เป็นต้นไป จะให้เจ้าหน้าที่เทศกิจลงไปกวดขันอย่างเข้มงวด หากสำนักเทศกิจตรวจพบมีผู้ค้าตั้งวางขายของในบริเวณจุดกวดขันพิเศษจะมีการตักเตือนเจ้าหน้าที่เป็นลำดับแรก หากไม่แก้ไขจากการตรวจซ้ำจำนวน 3 ครั้ง จะมีการพิจารณาถึงเจตนาความบกพร่องหรือละเลยต่องานในหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ตั้งแต่ผู้อำนวยการเขต ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขต หัวหน้าฝ่ายเทศกิจและเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องตามลำดับต่อไป