กรุงเทพฯ--21 ธ.ค.--สถาบันอาหาร
ทยอยลงพื้นที่สำรวจโรงเรียนที่ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมโครงการกันเป็นระยะๆ ...วันนี้ได้มีโอกาสแวะเยี่ยมเยียนการปฏิบัติงานของโรงเรียนวัดเสมียนนารี ซึ่งเป็นหนึ่งใน 10 โรงเรียนในสังกัด กทม.ที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นโรงเรียนนำร่องเข้าร่วม โครงการ “ครัวอนามัย อาหารปลอดภัยในโรงเรียน” กิจกรรมเพื่อสังคมที่ริเริ่มโดย สถาบันอาหาร กรุงเทพมหานคร สำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษาแห่งชาติ(สอศ.) และผลิตภัณฑ์นมผง S26 โดยบริษัท ไวเอท (ประเทศไทย) จำกัด
ด้วยความมุ่งหวังของสถาบันอาหาร ที่จะให้ทุกภาคส่วนของสังคมได้มาช่วยกันสร้างการรับรู้และปลูกฝังจิตสำนึกเรื่อง ความปลอดภัยด้านอาหารให้แก่เด็กนักเรียน บุคลากรผู้เกี่ยวข้องในโรงเรียน ผู้ปกครอง ตลอดจนเด็กนักเรียนอาชีวะเองที่เข้ามามีส่วนร่วมในการปรับปรุงด้านอาคาร สถานที่ให้แก่ครัวโรงเรียน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นเรื่องอาหารปลอดภัยให้แก่ประเทศไทยในอีกบทบาทหนึ่ง นอกเหนือไปจากภารกิจหลักที่มุ่งผลักดันไปยังภาคอุตสาหกรรมอาหารมาโดยตลอด
สถาบันอาหารจึงได้ให้การสนับสนุนทีมบุคลากรผู้เชี่ยวชาญมาทำหน้าที่ถ่ายทอดความรู้ความปลอดภัยด้านอาหาร แนะหลักปฏิบัติตามมาตรฐานการสุขาภิบาลอาหารที่ดีสำหรับโรงอาหาร ภายใต้เกณฑ์การรับรองของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข พร้อมปรับปรุงครัวโรงเรียนให้ได้มาตรฐานโดยส่งนักเรียนอาชีวะในสังกัดเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากผลิตภัณฑ์นมผง S26 ช่วงแรกคัดเลือก 10 โรงเรียนในสังกัดกทม. เข้าร่วม ได้แก่ 1. โรงเรียนสายไหม 2.โรงเรียนวัดพิชัย 3.โรงเรียนวัดบางยี่ขัน 4.โรงเรียนวัดคฤหบดี 5.โรงเรียนวัดพระยาศิริไอยสวรรค์ 6.โรงเรียนหมู่บ้านเกาะโพธิ์ 7.โรงเรียนศูนย์รวมน้ำใจ 8.โรงเรียนพหลโยธิน 9.โรงเรียนวัดจันทร์สโมสร และ10.โรงเรียนวัดเสมียนนารี
นางนพรัตน์ ศรีราตรี ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดเสมียนนารี กล่าวว่า “สภาพพื้นที่โรงอาหารของโรงเรียนรองรับนักเรียนได้ 200 ที่นั่ง ขณะที่มีจำนวนเด็กทั้งหมด 1,120 คน สำหรับเด็กชั้นอนุบาล ประถม 3-4 และชั้นอื่นๆ จะให้นำอาหารขึ้นไปทานที่ห้องเรียน ปัจจุบันโรงเรียนก็มีการพัฒนาเป็นลำดับ เริ่มจากการปรับปรุงด้านสถานที่รับประทานอาหาร สถานที่ประกอบอาหาร อุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้ รายการอาหารที่รับประทานอย่างปลอดภัย และรสชาติที่ทำให้เด็กทานได้อย่างมีความสุข พยายามผลักดันให้เด็กๆ เป็นนักประชาสัมพันธ์น้อยไปบอกพ่อแม่ว่าเราควรรับประทานอาหารที่ดี มีประโยชน์อย่างไร สำหรับเด็กโตก็จะแทรกความรู้เรื่องสุขอนามัยและโภชนาการเข้าไปในบทเรียน โดยส่วนตัวอยากให้สังคมมีความเอื้ออาทรเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาเด็ก โอกาสต่อไปอาจจะขยายไปสู่ชุมชนด้อยโอกาส คิดว่าโครงการนี้มีประโยชน์และขอเป็นตัวอย่างโครงการโรงเรียนนำร่องที่อยากทำให้เกิดการพัฒนาถึงขั้นได้รับการยอมรับ คือการยกระดับมาตรฐานและเป็นตัวอย่างได้ การเข้ามาของโครงการครัวอนามัย อาหารปลอดภัยในโรงเรียน จะช่วยเป็นแรงกระตุ้นให้แม่ครัวและผู้เกี่ยวข้องมีความตื่นตัวมากขึ้น ซึ่งจะทำให้โครงการบรรลุเป้าหมายได้รวดเร็วขึ้น”
ด้านนางสาวธนพรรษ หมื่นภักดี ครูโภชนาการ และนางอุบล ขนสันเทียะ แม่ครัวประจำโรงเรียนวัดเสมียนนารี กล่าวตรงกันว่า “รู้สึกดีใจที่หลายฝ่ายเข้ามาให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยด้านอาหารของเด็กนักเรียนในโรงเรียน แม้ว่าตามปกติเราจะเน้นเรื่องความสะอาดและอาหารที่มีคุณค่าถูกหลักโภชนาการให้แก่เด็กๆ อยู่แล้ว แต่หากจะให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของโรงอาหารตามมาตรฐานสุขาภิบาลอาหาร กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข และเป็นไปตามเกณฑ์ที่ทางนักวิชาการของสถาบันอาหารได้มาชี้แนะก็คงต้องปรับปรุงหลายอย่างเพื่อให้เด็กๆ ได้รับประทานอาหารอย่างมีความปลอดภัยสูงสุด โดยเฉพาะบริเวณที่ปรุงอาหาร ภาชนะ อุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งต้องใช้งบประมาณค่อนข้างสูง”
นายอมร งามมงคลรัตน์ รักษาการผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กล่าวว่า โครงการ ครัวอนามัย อาหารปลอดภัยในโรงเรียน เป็นหนึ่งในกิจกรรมเพื่อสังคมของสถาบันอาหารที่ดำเนินการให้สอดคล้องกับภารกิจขององค์กร ที่เกิดจากแนวคิดเพื่อพัฒนาคุณภาพมาตรฐานอาหารของเด็กนักเรียนและบุคลากรในโรงเรียน โดยการพัฒนาปรับปรุงสถานที่ปรุงและสถานที่จำหน่ายรวมทั้งถ่ายทอดความรู้ความปลอดภัยด้านอาหาร และหลักปฏิบัติตามมาตรฐานการสุขาภิบาลอาหารที่ดีสำหรับครัวโรงเรียนให้กับบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะเน้นสนับสนุนทางด้านวิชาการให้คำปรึกษา แนะนำแม่ครัวและอาจารย์ผู้รับผิดชอบดูแลโรงครัวและร้านอาหารใน โรงอาหาร นักวิชาการของสถาบันอาหารเข้าไปดำเนินการอบรม หัวข้อมาตรฐานการสุขาภิบาลอาหารสำหรับ โรงอาหารให้กับแม่ครัวและบุคลากรผู้รับผิดชอบโรงอาหารของโรงเรียนเพื่อพัฒนาศักยภาพของแม่ครัว ผู้ประกอบการร้านอาหาร ซึ่งขณะนี้ได้เข้าไปดำเนินการอบรมบุคลากรที่เกี่ยวข้องให้กับโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานครที่เข้าร่วมโครงการแล้วจำนวน 7 โรงเรียน โดยมีแม่ครัวและอาจารย์ผู้รับผิดชอบได้รับการอบรมแล้ว 54 คน ได้แก่ ร.ร.วัดคฤหบดี, ร.ร.วัดพระยาศิริไอยสวรรค์, ร.ร.วัดจันทร์สโมสร, ร.ร.หมู่บ้านเกาะโพธิ์, ร.ร.ศูนย์รวมน้ำใจ, ร.ร.สายไหม, ร.ร.พหลโยธิน และล่าสุด ร.ร.วัดเสมียนนารี
“ถ้าเราสามารถปลูกฝังเรื่องความปลอดภัยของอาหารตั้งแต่เด็ก เมื่อเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ ก็จะสามารถพัฒนาประเทศให้เป็นประเทศที่มีอาหารปลอดภัย คิดว่าเป็นส่วนหนึ่งที่เราต้องพยายามผลักดัน แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จเพื่อให้โรงเรียนอื่นๆ ได้มีการตระหนักและดำเนินการในเรื่องมาตรฐานความปลอดภัย สถาบันอาหารจึงนำเอาประสบการณ์ในการดำเนินการด้านความปลอดภัยในภาคอุตสาหกรรมมาประยุกต์ใช้กับโรงอาหารของโรงเรียน ซึ่งบุคลากรในโรงเรียนจะมีส่วนสำคัญในการผลักดันให้ประสบความสำเร็จ โดยสถาบันอาหารได้ส่งนักวิชาการมาให้ความรู้ เป็นพี่เลี้ยงประเมินเบื้องต้นว่าควรจะดำเนินการไปในแนวทางใด เพื่อให้เป็นมาตรฐานที่สามารถยอมรับได้ หลังจากดำเนินการแล้วจึงให้โรงเรียนขอการรับรองจากกรมอนามัย และรักษาระบบมาตรฐานนี้ให้คงอยู่ต่อไป มีความคาดหวังว่าการดำเนินการครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่จะสร้างเครือข่ายใยแมงมุม ไปยังเด็กๆ ครู อาจารย์ แม่ครัว และผู้ปกครอง จะได้รับการแทรกซึมมีความตระหนักในเรื่องความปลอดภัยของการรับประทานอาหารต่อไป” นายอมร กล่าว
นายไพโรจน์ สันตนิรันดร์ ผู้อำนวยการกองสุขาภิบาลอาหาร สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร กล่าวเสริมว่า “กรุงเทพมหานครมีโรงเรียนในสังกัดกทม.ไม่น้อยกว่า 1,500 แห่ง เน้นเรื่องอาหารปลอดภัย ซึ่งเป็นเรื่องในชีวิตประจำวัน โดยให้ความสำคัญตลอดมา และในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา ได้ริเริ่มให้มีการจัดเครือข่ายเข้ามารับผิดชอบในระดับมหาวิทยาลัย และในระดับโรงเรียนมัธยม พยายามสร้างความยั่งยืนให้เครือข่ายปลอดภัยมาโดยตลอด สำหรับโครงการครัวอนามัย อาหารปลอดภัยในโรงเรียนนี้นับเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่จะมีส่วนช่วยในการปลูกฝังให้เด็กๆ ตลอดจนผู้เกี่ยวข้องในโรงเรียนตระหนักถึงเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในอาหารกันอย่างจริงจัง เพื่อสร้างความมั่นใจและความอุ่นใจให้กับผู้ปกครองได้มากขึ้น”
ด้านนายวิริยะ จงไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไวเอท(ประเทศไทย) จำกัด เจ้าของผลิตภัณฑ์นมผง S26 ในฐานะผู้สนับสนุนโครงการฯ กล่าวว่า “นับแต่เริ่มเปิดตัวโครงการฯ การลงพื้นที่สำรวจที่โรงเรียนวัดเสมียนนารีถือเป็นโรงเรียนนำร่อง เพื่อไปสู่เป้าหมายการทานอาหารให้ถูกหลักโภชนาการ สถาบันอาหารและไวเอท มีความมุ่งมั่นที่จะร่วมกันในการดำเนินโครงการนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอกย้ำเจตนารมณ์ในการสนับสนุนโภชนาการและสุขอนามัยของเด็กไทย โดยได้เข้ามาสำรวจครัวของโรงเรียนเพื่อดำเนินการพัฒนาให้ได้คุณภาพมาตรฐาน สะอาดและปลอดภัย และไวเอทยังได้เสริมกิจกรรมรณรงค์ภายใต้แนวคิด super school super milk เพื่อสนับสนุนให้เด็กไทยดื่มนม ซึ่งมีสารอาหารโภชนาการตามที่ร่างกายต้องการ”
หวังว่าโครงการครัวอนามัย อาหารปลอดภัยในโรงเรียน จะมีส่วนช่วยจุดประกายให้ทุกภาคส่วนของสังคมหันมาช่วยกันคนละไม้คนละมือเพื่อให้ลูกหลานของเราได้รับประทานอาหารที่ดี มีประโยชน์ ถูกสุขลักษณะ มีคุณค่าทางโภชนาการ มีมาตรฐานด้านความปลอดภัย ซึ่งเด็กๆ เหล่านี้จะเติบโตเป็นบุคลากรชั้นนำของประเทศในอนาคตต่อไป