กรุงเทพฯ--21 ธ.ค.--กองประชาสัมพันธ์ กทม.
กทม.รับมอบ 8 พื้นที่จาก สนง.ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เพื่อจัดตั้งบ้านหนังสือ กระจายแหล่งเรียนรู้สู่ชุมชน สร้างวัฒนธรรมรักการอ่านเพิ่มโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ เล็งขยายพื้นที่จัดตั้งบ้านหนังสือและห้องสมุดอย่างต่อเนื่อง ผลักดันกรุงเทพฯ สู่มหานครแห่งการเรียนรู้
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการแถลงข่าว เรื่อง การประสานความร่วมมือในการใช้พื้นที่เพื่อจัดตั้งบ้านหนังสือ ระหว่างกรุงเทพมหานครและสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ โดยมีนายจิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ร่วมแถลงข่าว ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกทม.(เสาชิงช้า)
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า กรุงเทพมหานครมีนโยบายสำคัญที่จะสร้างกรุงเทพฯ ให้เป็นมหานครแห่งการเรียนรู้ โดยเพิ่มจำนวนห้องสมุดและบ้านหนังสือให้ครบทุกเขต และพัฒนาห้องสมุดที่มีอยู่เดิมให้เป็นห้องสมุดมิติใหม่ ทันสมัยและสวยงาม มีระบบเทคโนโลยีสารสนเทศในการสืบค้นข้อมูล มีบริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง เป็นการสร้างแรงจูงใจให้แก่ผู้ใช้บริการและกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง เปิดโอกาสให้ประชาชนได้เข้าถึงแหล่งเรียนรู้โดยง่ายและทั่วถึง เพื่อสร้างวัฒนธรรมการอ่าน พัฒนาความรู้และความคิด และสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่สนับสนุนให้การอ่านเป็นวาระแห่งชาติ สร้างรากฐานในการพัฒนาตนเอง และนำความรู้ที่ได้ไปพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น
นายจิรายุ ได้กล่าวถึงความร่วมมือในการใช้พื้นที่เพื่อจัดตั้งบ้านหนังสือว่า สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ได้สำรวจพื้นที่และความต้องการของชุมชนในพื้นที่รับผิดชอบ และประสานขอรับการสนับสนุนบ้านหนังสือจากกรุงเทพมหานคร เพื่อเสริมสร้างกระบวนการเรียนรู้ให้กับเด็ก เยาวชน และประชาชนที่อาศัยอยู่ในชุมชนบนพื้นที่สำนักงานทรัพย์สินฯ รวมทั้งชุมชนบริเวณโดยรอบให้ได้มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ เพื่อพัฒนาศักยภาพทั้งในด้านความคิด อารมณ์ สติปัญญา อันเป็นส่วนสำคัญยิ่งสำหรับการเสริมสร้างและเติมเต็มความรู้ให้กับคนในสังคม
ทั้งนี้ บ้านหนังสือเป็นห้องสมุดขนาดเล็กที่นำตู้คอนเทนเนอร์ ขนาด 3x6 เมตร จำนวน 2 ตู้ มาประกอบ และตกแต่งภายในเป็นห้องสมุดที่มีลักษณะคล้ายบ้าน ตั้งอยู่ในชุมชนต่างๆ ในเขตกรุงเทพฯ เพื่อพัฒนาและขยายบริการด้านห้องสมุดในเชิงรุก เพิ่มโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ได้โดยง่าย ปัจจุบันเปิดให้บริการแล้ว 116 แห่ง โดยในครั้งนี้มีชุมชนเข้าร่วมโครงการ จำนวน 8 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนทรัพย์สินใหม่ เขตวังทองหลางน ชุมชนริมคลองพลับพลา เขตวังทองหลาง ชุมชนท่าน้ำสามเสน เขตดุสิต ชุมชนสิตาราม เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ชุมชนหลังตลาดเก่าวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม ชุมชนวัดอินทร์บรรจง เขตบางคอแหลม ชุมชนทรัพย์สินพัฒนา เขตบางขุนเทียน และ ชุมชนหลังตลาดเจริญนคร เขตคลองสาน ซึ่งกรุงเทพมหานครจะดำเนินการก่อสร้างในปีงบประมาณ 2553