กรุงเทพฯ--22 ธ.ค.--ดับเบิลอิมแพค มาร์เก็ตตื้ง คอมมิวนิเคชั่นส์
สามีคาสซาโนวา ภรรยาเสี่ยงมะเร็งปากมดลูก
กับ แผนกประกันสังคม รพ.กล้วยน้ำไท 1
โดย นพ. อรรณพ ตัณฑะจินะ
สูตินรีแพทย์ แผนกประกันสังคม โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท 1
นพ. อรรณพ ตัณฑะจินะ สูตินรีแพทย์ แผนกประกันสังคม โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท 1 เปิดเผยว่า โรคมะเร็งปากมดลูก เกิดจากเชื้อไวรัส HPV ( Human papilloma virus ) เมื่อเชื้อไวรัส HPV เข้าไปในร่างกาย ทำเกิดให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการแบ่งตัวของเซลล์ ทำให้เซลล์เจริญเติบโตแบบผิดปกติ และเกิดเนื้องอกชนิดที่เป็นมะเร็ง
สามีดิฉันน่าจะเป็นคาสซาโนว่า กลัวมะเร็งฯ ทำอย่างไรดี ?
วิธีที่ดีที่สุดคือ ควรให้สามีเลิกสำส่อนทางเพศ เพราะเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัส HPV ที่ก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูก ฯลฯ แต่ถ้ายังไม่แน่ใจ คุณควรป้องกันตัวเอง
- ให้สามีใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์
- ไม่ควรสูบบุหรี่ เนื่องจากบุหรี่ทำให้ร่างกายมีความบกพร่องต่อกลไกการป้องกันเชื้อไวรัส HPV
- ถ้าสามีเป็นโรคที่ติดต่อได้ทางเพศสัมพันธุ์ ควรให้รีบรักษา และงดการมีเพศสัมพันธุ์ในขณะนั้น ( แต่ไม่ควรนิ่งนอนใจ เนื่องจากบางครั้งสามีอาจรับเชื้อมาโดยที่ไม่มีอาการแสดงใด ๆ )
- ควรฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก
- ตรวจหามะเร็งปากมดลูกทุก 1 ปี
ถ้าคุณมีอาการเหล่านี้ ควรรีบตรวจภายใน
มะเร็งปากมดลูก ในขั้นแรกจะไม่แสดงอาการ จนกว่าโรคจะลุกลามไปมากแล้ว ซึ่งจะมีอาการ
- เลือดออกหลังมีเพศสัมพันธุ์
- มีเลือดออกทางช่องคลอดทั้งที่ไม่ได้อยู่ในช่วงมีประจำเดือน
- มีอาการอ่อนเพลีย ผิวซีด น้ำหนักลด เบื่ออาหาร
- ตกขาวมีกลิ่นเหม็น ลักษณะเหมือนหนอง หรือบางครั้งเป็นเหมือนน้ำออกมาจากทางช่องคลอด
- บางครั้งมีเลือดออกกระปริบกระปรอย
อาการดังกล่าว ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นมะเร็งปากมดลูกเสมอไป อาจเป็นโรคอื่นที่เกี่ยวกับอวัยวะสืบพันธุ์ได้ แต่ก็ควรรีบไปพบสูติ นรีแพทย์เพื่อทำการตรวจภายใน
ฉีดวัคซีนช่วยป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้ ?
สาเหตุหลักในการเกิดมะเร็ง
1. เกิดจากการติดเชื้อไวรัส HPV
2. เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเพศ เพราะฮอร์โมนเพศทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเซลล์มดลูก ปากมดลูก และช่องคลอด ซึ่งผู้หญิงที่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธุ์อาจเป็นมะเร็งปากมดลูกได้จากสาเหตุนี้
** แต่มักจะพบสาเหตุข้อแรกมากกว่า
สายพันธุ์ที่อันตรายคือ HPV 16,18,31และ45 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง HPV 16 และ 18 นั้น เป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งปากมดลูกประมาณ 70%
วัคซีนจึงไม่สามารถป้องกันได้ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่สามารถทำให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันเชื้อไวรัส HPV จากสายพันธุ์ที่เป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งปากมดลูกคือ สายพันธุ์ 16 และ 18 ได้
เพื่อป้องกันให้ได้ผลสูงสุด จึงควรฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันเชื้อ HPV ควบคู่กับการตรวจภายใน ( Pap Smear ) แม้จะฉีดวัคซีนไปแล้วแต่ยังไม่มั่นใจในพฤติกรรมของสามี ก็ควรตรวจภายในเป็นประจำแม้จะฉีดวัคซีนไปแล้ว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องมะเร็งปากมดลูก และการฉีดวัคซีน โทร. 0-2769-2000 ต่อ 1100-1101 เวลา 7.00-17.00 น.
ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อได้ที่
วรรณภา ประจงศักดิ์ - ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาด
บริษัท ดับเบิลอิมแพค มาร์เก็ตตื้ง คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด
โทร 0-2769-2000 ต่อ 5303