กรุงเทพฯ--22 ธ.ค.--พม.
พม. เปิดเวทีระดมสมองพลังภาคีเครือข่ายพัฒนาเด็กและเยาวชนจากทั่วประเทศ รับ ๙ ข้อเสนอจากเวที นำเสนอนายกรัฐมนตรีประกาศเป็นวาระแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและเยาวชน ประจำปี ๒๕๕๓
นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่า การจัดงานสมัชชาการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ เป็นการเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนได้มีส่วนร่วมกันคิด วิเคราะห์ปัญหา สถานการณ์เด็กและเยาวชน หาแนวทางการขับเคลื่อน และเสนอข้อคิดเห็นจากระดับภาค เพื่อนำมากำหนดเป็นนโยบาย กลไกและกิจกรรมเพื่อพัฒนาศักยภาพให้เด็กและเยาวชนมีภูมิคุ้มกันในการป้องกันแก้ไขปัญหา มีค่านิยมที่เหมาะสม ดำรงชีวิตอยู่ในสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัย มีสุขอนามัยที่ดี มีครอบครัวที่อบอุ่น ได้รับการศึกษาและเรียนรู้ได้ตลอดชีวิต รวมทั้ง มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคมอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๐ มาตรา ๑๑ (๔) กำหนดให้คณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติมีหน้าที่ส่งเสริมสนับสนุนให้มีการจัดงานสมัชชาการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติอย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อวิเคราะห์สถานการณ์ด้านเด็ก เยาวชน ทบทวนกลไก กระบวนการทำงาน และพัฒนาองค์ความรู้ ทักษะ ทัศนคติในการพัฒนาเด็ก เยาวชนของประเทศ
นายอิสสระ กล่าวด้วยว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็ก เยาวชน ซึ่งถือเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่าและเป็นอนาคตของประเทศชาติ การจัดงานสมัชชาการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ เป็นการเปิดเวทีให้ทุกภาคส่วนของสังคมได้มีบทบาทนำเสนออย่างมีส่วนร่วมตามความต้องการที่จะจัดสภาพแวดล้อมที่น่าอยู่สำหรับเด็ก เยาวชน และที่สำคัญการจัดให้มีกิจกรรมสร้างสรรค์ เป็นพื้นที่ดีๆ สำหรับเด็ก เยาวชนในสังคม รัฐบาลตระหนักอยู่เสมอว่าเป็นสิ่งจำเป็นจึงได้กำหนดนโยบายในการพัฒนาเด็ก เยาวชนที่สอดคล้องกับความต้องการ เพื่อสนับสนุนและผลักดันให้เกิดการปฏิบัติอย่างแท้จริง โดยมีภาคีเครือข่ายเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อน การจัดงานสมัชชาฯ ในวันนี้ ได้นำสถานการณ์ของเด็ก เยาวชน ที่ได้จากการระดมความคิดของเวทีสมัชชาฯ ระดับภาค มาพิจารณาและหาข้อสรุปเพื่อนำเสนอต่อผู้เกี่ยวข้องต่อไป อาทิ ด้านความมั่นคงปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สิน ความสงบสุขและสมานฉันท์ เช่น การถูกละเมิดและใช้ความรุนแรงโดยผู้ใกล้ชิด เด็กในพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนใต้ ยังหวาดระแวงเรื่องความปลอดภัยไม่กล้ารวมกลุ่มทำกิจกรรม ด้านสุขอนามัย เช่น การกินอาหารไม่เป็นประโยชน์ มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน ด้านครอบครัวอบอุ่น เช่น ในครอบครัวมีความสัมพันธ์น้อยลง เป็นต้น
สำหรับข้อเสนอจากการประชุมสมัชชาการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ ที่จะนำเสนอนายกรัฐมนตรี เพื่อประกาศเป็นนโยบายและวาระแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและเยาวชน ประจำปี ๒๕๕๓ นั้น ประกอบด้วย
๑. เด็ก เยาวชน ต้องได้รับความปลอดภัยและมีความสุข โดยได้รับการเอาใจใส่ ดูแลจากภาครัฐในพื้นที่เป็นหลัก นอกเหนือจากครอบครัว ซึ่งจะทำให้เกิดความสมานฉันท์ตามมา
๒. เด็ก เยาวชน ต้องได้รับความเสมอภาคในการเข้าถึงและเข้ารับบริการทางการแพทย์ การสาธารณสุข โดยเฉพาะเด็ก เยาวชนในพื้นที่ห่างไกลและทุรกันดาร
๓. ให้มีการจัดกิจกรรมสำหรับครอบครัวเพื่อให้เกิดการปฏิสัมพันธ์ และพูดจาสื่อภาษาที่ดีต่อกันภายในครอบครัว
๔. เด็ก เยาวชนต้องได้รับบริการทางการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียมกัน
๕. ภาครัฐโดยเฉพาะท้องถิ่น ต้องจัดให้มีศูนย์การเรียนรู้อย่างต่อเนื่องและมั่นคงตลอดชีวิต สนับสนุนให้มีการเรียนรู้จากปราชญ์ชาวบ้าน รวมทั้งค้นหาและขยายโอกาสทางการศึกษาแก่เด็กด้อยโอกาส
๖. ผู้ทำงานกับเด็ก เยาวชนต้องเป็นผู้ที่มีความรู้และมีจิตวิทยาในการทำงานร่วมกับเด็ก เยาวชน
๗. เปิดโอกาสให้เด็ก เยาวชนเข้ามามีส่วนร่วมในทุกกระบวนการในการจัดกิจกรรมสำหรับเด็กเยาวชน
๘. ผลักดันให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องจัดทำแผน ยุทธศาสตร์การพัฒนาเด็ก เยาวชนในทุกพื้นที่ พร้อมสนับสนุนงบประมาณ อุปกรณ์ สถานที่ และอื่นๆ ในการจัดกิจกรรมสร้างสรรค์สำหรับเด็กและเยาวชนอย่างต่อเนื่องและมีคุณภาพ
๙. สื่อมวลชนต้องนำเสนอการทำกิจกรรมที่สร้างสรรค์ของเด็กและเยาวชนให้สังคมได้รับรู้มากยิ่งขึ้น เพื่อให้เป็นภาพลักษณ์และต้นแบบที่งดงามสำหรับเด็ก เยาวชน และผู้ใหญ่
นอกจากนี้ ที่ประชุมสมัชชาฯ ยังได้มีการพิจารณาเห็นว่า หัวข้อ “จังหวัดน่าอยู่สำหรับเด็กและเยาวชน” และ “กิจกรรมสร้างสรรค์สำหรับเด็กและเยาวชน” เป็นกิจกรรมสำคัญและเกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงกัน ดังนั้น จึงมีข้อเสนอและเรียกร้องให้รัฐบาลและทุกภาคส่วนเปิดพื้นที่ใจให้กว้าง เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์กิจกรรมที่มุ่งพัฒนาความรู้ ศักยภาพ และประสบการณ์ให้กับเด็กและเยาวชนอย่างกว้างขวางอีกด้วย