กรุงเทพฯ--22 ธ.ค.--เอ-ไทม์ มีเดีย
ถึงช่วงเวลาที่โรแมนติกที่สุดของปี หมอโอ๊ค สมิทธิ์ อารยะสกุล จึงถือโอกาสอันดี ลาพักร้อน(แอบหนี)คนไข้ที่คลินิก แท็คทีมกับดีเจเฟี๊ยต ธัชนนท์ จารุพัชนี เป็นไกด์พิเศษพาผู้โชคดีชาวกรีนเวฟ 106.5 เอฟเอ็ม ไปหนาวกันไกลถึงประเทศสหรัฐอเมริกา เยือนดินแดนแห่งแสงสี ลาสเวกัส และเที่ยวชม แกรนด์แคนย่อน 1 ในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ขึ้น ในทริปพิเศษส่งท้ายปี 2009 Green Trip #64: Grand Canyon-Las Vegas Amazing Of West America
เมื่อชาวคณะกรีนทริปพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ก็ถึงเวลาออกเดินทางด้วยเที่ยวบินพิเศษแบบนอนสต๊อป(ไม่ต้องเปลี่ยนเครื่อง) โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ทีจี 794 มุ่งตรงสู่สนามบิน LAX นครลอสแองเจลิส เมื่อประตูเครื่องบินเปิดก็สัมผัสได้ถึงอากาศแสนเย็นของฤดูหนาว ก่อนจะเข้าพักที่โรงแรมสุดหรูเพื่อชาร์ตพลังสำหรับตะลุยเที่ยวในวันต่อไป
รุ่งเช้าของวันใหม่ หมอโอ๊คและดีเจเฟี๊ยตไม่รอช้า พาชาวคณะมุ่งหน้าสู่ลาสเวกัส ดินแดนแห่งแสงสีและโชว์สุดตระการตา ที่สำคัญได้รับฉายาว่า เมืองคนบาป เพราะตลอด 2 ข้างทางของเมืองนี้เต็มไปด้วยโรงแรมระดับ 5 ดาวที่มีคาสิโนสุดหรูไว้เป็นจุดขาย รองรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาเสี่ยงโชคนั่นเอง นอกจากนี้หมอโอ๊คและดีเจเฟี๊ยตของเรายังพาไปชมสิ่งมหัศจรรย์ต่างๆของโลกที่ถูกจำลองไว้ ทั้งหอไอเฟล อนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ ประตูชัยฝรั่งเศส ปิรามิดและสฟิงซ์จำลอง เป็นต้น
เต็มที่กับมหานครแห่งแสงสีอย่างลาสเวกัสไปแล้ว ถึงคราวไปชมความยิ่งใหญ่ของสิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้นอย่าง แกรนด์แคนย่อน ซึ่งถ้าเดินทางด้วยรถปกติอาจต้องใช้เวลากันข้ามวัน แต่กรีนเวฟไม่ทำให้ชาวกรีนทริปผิดหวังจัดให้เดินทางด้วยสายการบินพิเศษ โดยสายการบินซีนิคที่ได้รับสัมปทานพิเศษจากทางการสหรัฐอเมริกา พาทุกคนมุ่งสู่จุดหมายด้วยเวลาเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งเมื่อทุกคนเดินทางไปถึง ก็ต้องตื่นตะลึงกับความใหญ่โตของชะง่อนหินผา ขุนเขา ที่มีรูปร่าง แสงสีที่ดูประหลาดตา ซึ่งความงดงามเหล่านี้เกิดจากแสงที่ตกกระทบหน้าผานั่นเอง เมื่อมาถึงที่นี่แล้วหมอโอ๊คและเฟี๊ยตก็ไม่พลาดที่จะพาทุกคนไปถ่ายรูปในจุดชมวิวที่สวยที่สุดของแกรนด์แคนย่อนแห่งนี้ นั่นก็คือที่จุดชมวิว สกายวอล์ค ซึ่งมีลักษณะเป็นสะพานแก้วคล้ายรูปเกือกม้าที่สร้างขึ้นด้วยงบประมาณสูงถึง 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และใช้เวลาก่อสร้างถึง 2 ปี กว่า ไว้ให้เป็นจุดถ่ายรูปสำหรับนักท่องเที่ยว เรียกว่าถ้าไม่มาสกายวอล์คแห่งนี้ ถือว่ามาไม่ถึงแกรนด์แคนย่อนก็ว่าได้
จากนั้นเดินทางกลับสู่ลาสเวกัสอีกครั้ง เพื่อไปชม โอโชว์ (O Show) โชว์ที่ถูกขนานนามว่าเป็นโชว์ที่ดีที่สุดในโลก ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างการเต้นบัลเล่ต์และการเต้นแบบคอนเทมโพรารี ประกอบด้วยเทคนิคการยิงแสงเลเซอร์สุดตระการตา โดยมีน้ำเป็นองค์ประกอบในทุกๆฉาก
วันสุดท้ายของการเดินทาง หมอโอ๊คและดีเจเฟี๊ยตขอพาชาวกรีนเวฟไปช้อปปิ้งที่ Dessert Hille Premium outlet แหล่งช้อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดในลอสแองเจลิส ให้ทุกคนได้ช้อปปิ้งกันตามอัธยาศัย ก่อนเดินทางสู่ย่าน ฮอลลีวูด เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดท้าย ให้ทุกคนได้ถ่ายรูปกับรอยมือรอยเท้าของดาราดังที่บริเวณหน้า โกดักเธียเตอร์ สถานที่จัดงานประกาศรางวัลออสการ์ ก่อนพาชาวคณะมุ่งสู่สนามบินนานานชาติลอสแองเจลิส พาทุกคนบินข้ามเส้นแบ่งเวลาสากล เดินทางกลับสู่ประเทศไทยโดยสวัสดิภาพ