กรุงเทพฯ--10 พ.ค.--กระทรวงพลังงาน
กระทรวงพลังงาน ขอให้ประชาชนช่วยกันประหยัดไฟฟ้าหลังการใช้ไฟฟ้ามีอัตราเพิ่มขึ้นที่ลดลง ระบุ 4 เดือน ก.พ.-พ.ค. 49 หากมีปริมาณการใช้ไฟฟ้าสูงขึ้นไม่เกิน 4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 48 เอฟทีรอบใหม่มีสิทธิ์เพิ่มขึ้นไม่มาก
นายวีระพล จิรประดิษฐกุล รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า ปริมาณการใช้ไฟฟ้าของประเทศในช่วงที่ผ่านมามีอัตราการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนเมษายน 2549 อยู่ที่ระดับ 11,644 ล้านหน่วย สูงขึ้นเพียง 2.96% เมื่อเทียบกับเดือนเมษายน 2548 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 11,309 ล้านหน่วย ทั้งนี้ เนื่องจากประชาชนมีการใช้ไฟฟ้าที่ลดลงภายหลังการรณรงค์ประหยัดพลังงานจากภาครัฐ และสาเหตุของฝนตกที่เริ่มมาเร็วกว่าปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม หากดูปริมาณการใช้ไฟฟ้าในช่วง 3 เดือน (กุมภาพันธ์ — เมษายน 2549) ซึ่งเป็นช่วงสำคัญในการคำนวณค่าไฟฟ้าตามสูตรการปรับอัตราค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ (เอฟที) มีปริมาณการใช้ไฟฟ้าอยู่ที่ระดับ 35,143 ล้านหน่วย สูงขึ้นจากช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา 4.74% (3 เดือนปี 2548 อยู่ที่ระดับ 33,553 ล้านหน่วย) ทั้งนี้ หากถึงเดือนพฤษภาคม 2549 ยังมีการใช้ไฟฟ้าที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง และเมื่อคำนวณปริมาณการใช้ไฟฟ้าในช่วง 4 เดือนมีปริมาณการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นไม่เกิน 4% มีโอกาสที่จะทำให้ค่าเอฟทีเพิ่มขึ้นไม่มากได้
ส่วนค่าความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (Peak) เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2549 เกิด Peak ครั้งใหม่อยู่ที่ระดับ 21,064 เมกะวัตต์ ทำลายสถิติ Peak ที่พึ่งเกิดขึ้นวันที่ 28 มีนาคม 2549 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 20,745 เมกะวัตต์ และเป็นการทำลายสถิติ Peak ในปี 2548 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 20,538 เมกะวัตต์
“ปัจจุบันประเทศต้องประสบกับปัญหาสถานการณ์ราคาพลังงานที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นในช่วงนี้จึงเป็นโอกาสสำคัญที่ทุกคนจะช่วยกันประหยัดพลังงาน และหากทุกคนสามารถช่วยกันประหยัดไฟฟ้าลงได้มากในช่วงเวลาที่เหลือ ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ประชาชนลดการจ่ายเงินค่าไฟฟ้าลงได้แล้ว ยังทำให้ประเทศชาติสามารถลดการนำเข้าพลังงานอีกด้วย” นายวีระพล กล่าว