ภาวะตลาดทองคำ ประจำวันที่ 23 ธ.ค. 52

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday December 23, 2009 10:37 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--23 ธ.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ คำแนะนำการลงทุน Gold Futures DAY TRADER GFZ09 ซื้อในช่วงราคา 17260 - 17310 ขายในช่วงราคา 17390 - 17410 GFG10 ซื้อในช่วงราคา 17390 - 17420 ขายในช่วงราคา 17480 - 17500 SWING TRADER ทิศทางระยะสั้นยังอยู่ในช่วงขาลง ควรจะ เข้า-ออก จากตลาดเร็วขึ้น GFZ09 รอเข้าซื้อที่ระดับ 17280 รอขายที่ระดับ 17420 GFG10 รอเข้าซื้อที่ระดับ 17340 รอขายที่ระดับ 17480 ปัจจัยสำคัญ High Light ? ยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ย.ในสหรัฐพุ่งขึ้น 7.4%แตะระดับ 6.54 ล้านยูนิต มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2.5% ? กระทรวงพาณิชย์สหรัฐประกาศปรับลดการประเมินตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 โดยประเมินว่าจีดีพีไตรมาส 3 ขยายตัวเพียง 2.2% ต่ำกว่าที่มีการประเมินไว้ก่อนหน้านี้ที่ 2.8% ? ดัชนี Chicago Board Options Exchange`s Volatility Index ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดความผันผวนของดอลลาร์ ลดลง 4.6% แตะที่ 19.55 จุด หลังจากที่เคยพุ่งขึ้นแตะระดับ 89.5 จุดในเดือนต.ค.ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดกระแสความวิตกกังวลเรื่องวิกฤตการณ์การเงิน GOLD Market Recap : 22/12/2009 MORNING RECAP : ราคาทองคำต่างประเทศเปิดที่ระดับ 1,095 $ ส่วน Gold Future Z09 เปิดที่ 17,350 สมาคมค้าทองแท่งเปิดที่ 17,350 ปรับลง 250 บาทจากวันทำการก่อน ตลาดทองคำมีทิศทางเป็นขาลง ราคาทองคำต่างประเทศระหว่างวันเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 1,092 — 1,097 $ โดยในช่วงบ่ายราคาทองคำต่างประเทศมีทิศทาง Side way โดยปิดตลาด Gold Future Z09 ปิดตลาดที่ 17,360 ในขณะที่ราคาทองคำแท่งของสมาคมค้าทองคำไม่เปลี่ยนแปลง อยู่ที่ 17,350 นักลงทุนทำ Short position เนื่องจากทิศทางราคาทองคำยังเป็นขาลง NIGHT RECAP: ราคาทองคำเปิดตลาดในประเทศไทยที่ระดับ 1093 เหรียญ โดยราคาเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1092 - 1097 เหรียญ ก่อนกลับมาปิดตลาดที่ 1095 เหรียญ ในเวลาประเทศไทย ต่อมาในตลาดลอนดอนและนิวยอร์ก ราคาทองคำมีการเคลื่อนตัวลงมาทำต่ำสุดที่ 1076 เหรียญ และมาปิดตลาดที่ 1085.5 เหรียญ ข้อมูลทองคำวันนี้ ? ราคาสมาคม เปิดที่ 17,150— 17,250 ? ราคา Gold Spot เปิดที่ 1,084 ? อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท 33.29 — 33.38 ? GFZ09 Hi- Low 17,390 - 17,290 ปิดที่ 17,360 Gold Insight สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนก.พ.ปิดที่ 1,086.70 ดอลลาร์/ออนซ์ ดิ่งลง 9.30 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในกรอบ 1095.- 1 1075.8 ดอลลาร์ ตลาดทองคำได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร เนื่องจากนักลงทุนเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวได้รวดเร็ซกว่าในยุโรป โดยเมื่อวานนี้ ดัชนี Chicago Board Options Exchange`s Volatility Index ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดความผันผวนของดอลลาร์ ลดลง 4.6% แตะที่ 19.55 จุด หลังจากที่เคยพุ่งขึ้นแตะระดับ 89.5 จุดในเดือนต.ค.ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดกระแสความวิตกกังวลเรื่องวิกฤตการณ์การเงิน ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ดีดขึ้น 50.79 จุด หรือ 0.49% ปิดที่ 10,464.93 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 3.97 จุด หรือ 0.36% ปิดที่ 1,118.02 จุด ทำสถิติปิดบวกติดต่อกัน 3 วันทำการ หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดขายบ้านที่เพิ่มขึ้นเกินคาด นับเป็นหลักฐานล่าสุดที่บ่งชี้ว่าภาคอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐฟื้นตัวในอัตราที่รวดเร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ปิดบวกในกรอบที่จำกัด หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐประกาศปรับลดการประเมินตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 น้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 68 เซนต์ หรือ 0.92% ปิดที่ 74.40 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 72.72 - 74.91 ดอลลาร์ หลังจากที่ประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) มีมติคงเพดานการผลิต ซึ่งบ่งชี้ว่าราคาน้ำมันยังคงมีเสถียรภาพในระยะนี้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตารายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ซึ่งกระทรวงพลังงานสหรัฐจะเปิดเผยในคืนวันพุธ กองทุน SPDR Gold Trust SPDR กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือ ทองคำถึง ณ. 22 ธ.ค.ซื้อเข้า 6.01 ตัน เปลี่ยนแปลงการถือครองจากระดับ 1,126.61 ตัน เข้าสู่ระดับ 1,132.71 ตัน USD/EU ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่เชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวได้รวดเร็ว กว่ายุโรป หลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซ ซึ่งเป็นผลมาจากยอดขาดดุลงบประมาณและหนี้สาธารณะ นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนจากรายงานยอดขายบ้านที่พุ่งขึ้นเกินคาดในสหรัฐด้วย ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.23% เมื่อเทียบกับยูโรที่ระดับ 1.4250 ยูโรต่อดอลลาร์ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.4283 ยูโรต่อดอลลาร์โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลยูโรเช้านี้เปิดตลาดยู่ที่ระดับ 1.4256 ดอลลาร์ต่อยูโร USD/JPY ดอลลาร์สหรัฐทะยานขึ้น 0.70% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 91.790 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 91.150 เยนต่อดอลลาร์ โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลเยนเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 91.81 เยนต่อดอลลาร์ USD/THB ค่าเงินบาทปิดตลาดเมื่ออังคารที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 33.22/33.29 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งมีการแข็งค่ามากขึ้นจากการเปิดตลาดในตอนเช้า โดยค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ระดับ 33.27/33.34 บาทต่อดอลลาร์ ข่าวเศรษฐกิจโลก ? สมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐเปิดเผย ยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ย.ในสหรัฐพุ่งขึ้น 7.4% แตะระดับ 6.54 ล้านยูนิต มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2.5% บ่งชี้ว่าภาคอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐฟื้นตัวขึ้นรวดเร็วกว่าที่ประมาณการไว้ในเบื้องต้น ? กระทรวงพาณิชย์สหรัฐประกาศปรับลดการประเมินตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 โดยประเมินว่าจีดีพีไตรมาส 3 ขยายตัวเพียง 2.2% ต่ำกว่าที่มีการประเมินไว้ก่อนหน้านี้ที่ 2.8% กระทรวงพาณิชย์ระบุว่า สาเหตุที่ทางกระทรวงตัดสินใจปรับลดการประเมินจีดีพีไตรมาส 3 มาจากหลากหลายปัจจัยด้วยกัน รวมถึงการที่ผู้บริโภคเพิ่มการใช้จ่ายเพียงเล็กน้อย, การก่อสร้างอาคารพาณิชย์ที่ยังคงชะลอตัว, การลงทุนด้านอุปกรณ์และซอฟแวร์ยังคงอ่อนตัว และบริษัทเอกชนปรับลดสินค้าในสต็อก ? ดัชนี Chicago Board Options Exchange`s Volatility Index ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดความผันผวนของดอลลาร์ ลดลง 4.6% แตะที่ 19.55 จุด หลังจากที่เคยพุ่งขึ้นแตะระดับ 89.5 จุดในเดือนต.ค.ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดกระแสความวิตกกังวลเรื่องวิกฤตการณ์การเงิน ? สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ได้ลดอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซลงหนึ่งขั้น สู่ระดับ BBB+ จากเดิมที่ระดับ A- และเตือนว่าจะลดอันดับเครดิตลงอีก พร้อมกับแนะนำให้นายจอร์จ พาพันเดรอู นายกรัฐมนตรีของกรีซดำเนินการปรับลดยอดขาดดุลงบประมาณ ซึ่งในขณะนี้ยอดขาดดุลงบประมาณของกรีซพุ่งขึ้นสูงสุดในบรรดาชาติสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) การประกาศลดอันดับเครดิตของ S&P และมูดีส์ มีขึ้นหลังจากที่ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศลดอันดับเครดิตของกรีซลงสู่ระดับ BBB+ เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.ที่ผ่านมา พร้อมกับเตือนให้นายพาพันเดรอูเร่งลดยอดขาดดุลงบประมาณโดยเร็ว ? รายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 2.1 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินอาจเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจเพิ่มขึ้น 0.4% ? ที่ประชุมโอเปคมีมติเป็นเอกฉันท์ไม่เปลี่ยนแปลงเพดานการผลิตน้ำมัน เนื่องจากโอเปคพอใจราคาน้ำมันดิบในปัจจุบันเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับประมาณ 75 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนการประชุมโอเปคครั้งต่อไปจะมีขึ้นในวันที่ 17 มี.ค.2553 นายโฮเซ่ มาเรีย โบเทลโฮ เดอ วาสคอนเซลอส ประธานโอเปคออกแถลงการณ์หลังการประชุมเมื่อวานนี้ว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกอยู่ในอัตราที่เร็วขึ้น ซึ่งเป็นผลพวงของการเติบโตในตลาดเอเชีย อย่างไรก็ตาม นายโฮเซ่เตือนว่าภาคการเงินทั่วโลกยังอยู่ในภาวะที่ไม่แน่นอน ขณะที่ตลาดแรงงานยังคงตึงตัว นอกจากนี้ โอเปคยังกังวลว่ารัฐบาลในหลายประเทศอาจถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเร็วเกินไป สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษรายงานผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 ที่ได้รับการปรับทบทวนใหม่ เป็นหดตัว 0.2% ดีกว่าที่ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ และนับเป็นสัญญาณ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ