กรุงเทพฯ--23 ธ.ค.--สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
กระทรวงการคลังเผยในช่วง 2 เดือนแรกปีงบประมาณ 2553 รัฐบาลจัดเก็บรายได้เกินเป้า เร่งเบิกจ่ายได้เพิ่มขึ้น และฐานะเงินคงคลังเข้มแข็ง
นายสาธิต รังคสิริ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ได้แถลงฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในเดือนพฤศจิกายน 2552 ว่า รัฐบาลสามารถจัดเก็บรายได้สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วค่อนข้างมากเป็นผลจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง และการปรับเพิ่มอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ภาษีสุรา เบียร์ และภาษียาสูบ ในขณะที่การเบิกจ่ายเงินงบประมาณเริ่มเร่งตัวขึ้น ภายใต้นโยบายงบประมาณขาดดุลนี้ทำให้รัฐบาลขาดดุลเงินงบประมาณ 71,973 ล้านบาท และส่งผลให้ในช่วง 2 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2553 รัฐบาลขาดดุลเงินสดรวม 113,228 ล้านบาท โดยรัฐบาลได้ออกพันธบัตรเพื่อชดเชยการขาดดุล 31,000 ล้านบาท ทำให้รัฐบาลขาดดุลเงินสดทั้งสิ้น 82,228 ล้านบาท ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2552 มีจำนวนทั้งสิ้น 211,606 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นระดับที่มีความมั่นคงต่อฐานะการคลัง
นายสาธิตสรุปว่า “จากผลการจัดเก็บรายได้ที่มีทิศทางดีขึ้นอย่างชัดเจน ในขณะที่การเบิกจ่ายงบประมาณเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเริ่มเร่งตัวขึ้น จึงมั่นใจว่าเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 4 ของปี 2552 จะสามารถกลับมาขยายตัว และเป็นแรงส่งให้เศรษฐกิจขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง”
ตารางฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในช่วง 2 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2553
(ตุลาคม— พฤศจิกายน 2552)
หน่วย: ล้านบาท
2 เดือนแรก เปรียบเทียบ
ปีงบประมาณ 2553 ปีงบประมาณ 2552 จำนวน ร้อยละ
1. รายได้ 232,391 185,421 46,970 25.3
2. รายจ่าย 278,953 258,918 20,035 7.7
3. ดุลเงินงบประมาณ -46,562 -73,497 26,935 -36.6
4. ดุลเงินนอกงบประมาณ -66,666 -90,253 23,587 -26.1
5. ดุลเงินสดก่อนกู้ (3+4) -113,228 -163,750 50,522 -30.9
6. เงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุล 31,000 25,000 6,000 24.0
7. ดุลเงินสดหลังกู้ (5+6) -82,228 -138,750 56,522 -40.7
ที่มา: กรมบัญชีกลาง และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
รายละเอียดเพิ่มเติม ดูได้จาก www.fpo.go.th
สำนักนโยบายการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร 0 2273 9020 ต่อ 3558