กรุงเทพฯ--23 ธ.ค.--IR PLUS
"บี เตชะอุบล" ปลื้มหลังตลาดหลักทรัพย์ประกาศนำ CGS เป็นหลักทรัพย์คำนวณดัชนี SET100 รอบล่าสุด โดยจะเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-30 มิถุนายน 2553 ระบุเป็นการตอกย้ำให้รู้ว่าบริษัทมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งและสภาพคล่องสูง ที่สำคัญส่งผลต่อภาพลักษณ์เชิงบวกทางด้านการลงทุน กระตุ้นความสนใจจากนักลงทุน ย้ำแผนงานปี 2553 พร้อมเดินหน้าลุยสุดตัว ตั้งเป้าครองมาร์เก็ตแชร์ 10%
นายบี เตชะอุบล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (CGS) เปิดเผยว่าตามที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้คัดเลือกหลักทรัพย์ชุดใหม่ โดยใช้ข้อมูลการซื้อขายหลักทรัพย์ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2551 ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2552 สำหรับการคำนวณดัชนี SET50 และดัชนี SET100 ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2553 ที่จะเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-30 มิถุนายน 2553
สำหรับการคำนวณดัชนี SET100 ปรากฏว่า CGS ติดอยู่ในรายชื่อหลักทรัพย์สำหรับดัชนี SET100 นั้นสะท้อนว่าเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีมูลค่าตามราคาตลาดรวมหรือ Market Capitalization สูง มีสภาพคล่องในการซื้อขายอย่างสม่ำเสมอ และมีสัดส่วนผู้ถือหุ้นรายย่อย (Free-float) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ซึ่งหมายถึงความเชื่อมั่นของ นักลงทุนที่มีต่อ CGS จึงทำให้ตัดสินใจเข้ามาลงทุน
“ผมว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับ CGS ที่ตลาดหลักทรัพย์ นำหุ้นเข้าไปคำนวณดัชนี SET100 จากจำนวนหลักทรัพย์ทั้งหมดที่มีจำนวนหลายร้อยหลักทรัพย์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า บล.คันทรี่ กรุ๊ป อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานทั้งในด้านมาร์เก็ตแค็ป สภาพคล่อง และจำนวนนักลงทุนที่ให้ความมั่นใจเข้ามาถือหุ้นจำนวนมากจึงถือเป็นปัจจัยที่ส่งผลบวกกับบริษัทอย่างมาก เนื่องจากทำให้นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจหุ้นของเรามากขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของกองทุนในประเทศที่มีการลงทุนในลักษณะตามดัชนีก็จะกระจายการลงทุนมาที่หุ้น CGS มากขึ้น ขณะเดียวกันนักลงทุนทั่วๆ ไปก็จะให้ความสนใจในตัวบริษัทมากขึ้นด้วยเช่นกัน" นายบีกล่าวในที่สุด
ทั้งนี้ การคัดเลือกหลักทรัพย์ที่ใช้ในการคำนวณดัชนี SET100 ตลาดหลักทรัพย์จะพิจารณาจากหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดเฉลี่ยต่อวันย้อนหลัง 12 เดือนสูงสุด 200 อันดับแรก และนำหลักทรัพย์ดังกล่าวมาพิจารณาคุณสมบัติ ซึ่งประกอบด้วยการเป็นหุ้นสามัญที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไม่น้อยกว่า 6 เดือนและเป็นหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าซื้อขายสม่ำเสมอ โดยพิจารณาจากสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายบนกระดานหลักเทียบกับมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อหุ้นของหุ้นสามัญทั้งตลาดในเดือนเดียวกัน รวมทั้ง การพิจารณาหลักเกณฑ์อื่นๆ ตามที่กำหนด โดยใช้ข้อมูลการซื้อขายหลักทรัพย์ระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2551 ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2552 นอกจากนี้ยังได้พิจารณาคุณสมบัติตามเกณฑ์อื่น ๆ ประกอบ ได้แก่ การมีสัดส่วนผู้ถือหุ้นรายย่อย (Free-float) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 และต้องไม่เป็นหลักทรัพย์ที่เข้าข่ายถูกเพิกถอนตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์ ในเวลาอันใกล้ รวมทั้ง ไม่อยู่ในระหว่างการห้ามซื้อขายเป็นเวลานาน หรือไม่เป็นหลักทรัพย์ที่มีแนวโน้มที่จะถูกห้ามการซื้อขายเป็นเวลานานอีกด้วย
ด้าน ดร.ประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (CGS) กล่าวเพิ่มเติมว่ารู้สึกภูมิใจและเป็นเกียรติสำหรับ CGS ที่ได้รับการคัดเลือกจากตลาดหลักทรัพย์ในการนำไปใช้สำหรับการคำนวณดัชนี SET100 ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงการทำงานของคณะผู้บริหารชุดปัจจุบันว่าประสบความสำเร็จในการทำงาน นอกจากนี้ยังหวังว่าในอนาคตนักลงทุนจะให้ความสนใจหุ้น CGS มากขึ้นอีกด้วยสำหรับแผนงานในปี 2553 บริษัทฯ ไม่มีความกังวลแม้ในอนาคตคาดว่าการแข่งขันธุรกิจจะมีความร้อนแรงเพิ่มขึ้นก็ตาม โดยได้ตั้งเป้าส่วนแบ่งทางการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) ไว้ที่ไม่น้อยกว่า 10% และอยู่ในอันดับ 1 ใน 2 ของผู้ประกอบการธุรกิจหลักทรัพย์ เนื่องจากปัจจุบันบริษัทมีการเตรียมความพร้อมไว้หมดทุกด้าน อาทิ ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายสามารถรองรับความต้องการของนักลงทุนได้อย่างครบถ้วน เช่น การซื้อขาย TFEX Gold Futures ธุรกรรม SBL และการซื้อขายกองทุน เป็นต้น โดยบริษัทฯ มีทีมเจ้าหน้าที่การตลาดที่สามารถให้คำแนะนำได้อย่างครอบคลุมและรอบด้าน การขยายสาขาเพิ่มขึ้นและความทันสมัยของเทคโนโลยีที่พร้อมให้บริการกับลูกค้า ซึ่งถือได้ว่าเป็นโบรกเกอร์ One Stop Service มีความพร้อมในทุกๆ ด้าน
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ IR PLUS :
คุณหัสยา ศรีเฟือง (โหน่ง) Tel. 02-554-9394 E-mail : hadsaya@irplus.in.th