กรุงเทพฯ--23 ธ.ค.--ก.ไอซีที
นายสือ ล้ออุทัย ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยความคืบหน้าโครงการขยายผลการเชื่อมโยงระบบสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์ให้สามารถลงนามโดยใช้ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ ว่า ในอนาคตการใช้ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์จะมีเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากการประกาศใช้กฎหมายพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2544 ซึ่งมีหลักการสำคัญ คือ การที่เอกสารอิเล็กทรอนิกส์สามารถใช้แทนเอกสารกระดาษได้ ซึ่งกระทรวงฯ มีนโยบายที่จะสนับสนุนให้เกิดธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพทั้งการให้บริการประชาชนและการบริหารราชการ จึงได้ศึกษาแนวทางในการกำหนดกรอบแนววิธีการและมาตรฐานกลางเพื่อให้การพัฒนาระบบข้อมูลเป็นไปอย่างมีเอกภาพ มีความเป็นกลาง และสามารถพัฒนาได้อย่างต่อเนื่องยั่งยืน
กระทรวงไอซีทีได้ทำการพัฒนากรอบแนวทางมาตรฐานการแลกเปลี่ยนข้อมูลแห่งชาติ (Thailand e-Government Interoperability Framework) หรือ TH e-GIF โดยได้เลือกระบบงานสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์ในการจัดทำมาตรฐานข้อมูลและเชื่อมโยงระหว่างหน่วยงาน ช่วงแรกมีหน่วยงานเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 30 หน่วยงาน ต่อมาได้เพิ่มจำนวนเป็น 40 หน่วยงาน และขณะนี้กำลังดำเนินการเพิ่มอีกกว่า 10 หน่วยงาน ซึ่งการพัฒนาระบบงานสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์นั้น กระทรวงฯ ได้เริ่มต้นพัฒนาการรับส่งหนังสือราชการจากรูปแบบการลงลายมือชื่อในหนังสือกระดาษ แล้วจึงสแกนให้อยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ต่อมาจึงได้มีโครงการขยายผลการเชื่อมโยงระบบสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์ให้สามารถลงนามโดยใช้ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ได้
“ในการส่งเสริมให้เกิดการใช้ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ในหน่วยงานภาครัฐนั้น กระทรวงฯ ได้ศึกษาวิเคราะห์ และดำเนินการทดสอบการใช้ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ในการเชื่อมโยงรับส่งข้อมูลหนังสือราชการระหว่างระบบสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์ โดยใช้ลักษณะการเชื่อมโยงตามแนวทางการพัฒนาซอฟต์แวร์แบบ SOA เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานทางเทคนิคที่ยอมรับกันระดับสากลซึ่งมีหน่วยงานเข้าร่วมดำเนินการ ได้แก่ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง สำนักงานปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร จึงถือได้ว่าเป็นการเริ่มต้นใช้งานลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์อย่างเป็นรูปธรรม”
และเพื่อให้การใช้งานลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์แพร่หลายกว้างขวางมากขึ้น กระทรวงฯ ได้ร่วมกับสถาบันวิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดทำร่างแผนมาตรการขยายผลการใช้ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ขึ้น และได้จัดการสัมมนาระดมความคิดเห็นต่อร่างดังกล่าวเมื่อเดือนกันยายน 2552 ที่ผ่านมา
“กระทรวงฯ ได้สรุปความคิดเห็นที่ได้จากผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ 40 แห่งในการสัมมนาระดมความคิดเห็นครั้งที่ 1 มาปรับปรุงและแก้ไขในร่างแผนงานมาตรการฯ ดังกล่าว และได้จัดการสัมมนาระดมความคิดเห็นครั้งที่สอง เพื่อรับฟังความคิดเห็นเพิ่มเติมในร่างแผนงานมาตรการขยายผลการใช้ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ฉบับปรับปรุงใหม่ ซึ่งข้อคิดเห็นที่ได้จากการสัมมนาฯ ครั้งที่ 2 จะนำไปสู่การดำเนินการปรับปรุงแก้ไขอีกครั้ง ทั้งนี้ เพื่อให้ได้แผนงานมาตรการขยายผลการใช้ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ฉบับสมบูรณ์และพร้อมใช้ดำเนินงานจริงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2553” นายสือ กล่าว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 021416747 ทวิติยา