กรุงเทพฯ--25 ธ.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
คำแนะนำการลงทุน Gold Futures
DAY TRADER
GFZ09 ซื้อในช่วงราคา 17400 - 17430 ขายในช่วงราคา 17660 - 17690
GFG10 ซื้อในช่วงราคา 17500 - 17530 ขายในช่วงราคา 17760 - 17790
SWING TRADER
ทิศทางทองคำเริ่มกลับตัวเป็นขาขึ้นในระยะสั้น หลังจากที่สามารถยืนอยู่ระดับ 1,100$ ได้
GFZ09 รอเข้าซื้อที่ระดับ 17650 รอขายที่ระดับ 17750
GFG10 รอเข้าซื้อที่ระดับ 17580 รอขายที่ระดับ 17680
ปัจจัยสำคัญ
High Light
? ตัวเลขชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกร่วงลง 28,000 คน แตะระดับ 452,000 คนในรอบสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งลดลงมากว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดไว้ที่ระดับ 470,000 คน และบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐฟื้นตัวขึ้นแล้ว
? ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ย.ดีดตัวขึ้น 0.2% หลังจากร่วงลง 0.6% ในเดือนต.ค. อย่างไรก็ตาม ยอดสั่งซื้อคงทนเดือนพ.ย.ดีดตัวขึ้นไม่มากนักเนื่องจากดีมานด์เครื่องบินพาณิชย์และยานยนต์หดตัวลงอย่างหนัก
? สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงเป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนสัญญาทองคำพุ่งขึ้น โดยเมื่อวานนี้ ICE Futures U.S. dollar index ร่วงลง 0.1% ซึ่งดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงจะกระตุ้นนักลงทุนให้เข้าถือครองสัญญาทองคำมากขึ้นเพราะมองว่าเป็นการลงทุนที่ปลอดความเสี่ยง
GOLD Market Recap : 24/12/2009
MORNING RECAP : ราคาทองคำต่างประเทศเปิดที่ระดับ 1,095 $ ส่วน Gold Future Z09 เปิดที่ 17,360 สมาคมค้าทองแท่งเปิดที่ 17,400 ปรับขึ้น 200 บาทจากวันทำการก่อน ตลาดทองคำมีทิศทางเป็นขาลง ราคาทองคำต่างประเทศระหว่างวันเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 1,094 — 1,105 $ โดยในช่วงบ่ายราคาทองคำต่างประเทศปรับขึ้นเหนือระดับ 1,100 $ ได้ โดยปิดตลาด Gold Future Z09 ปิดตลาดที่ 17,580 ในขณะที่ราคาทองคำแท่งของสมาคมค้าทองคำปรับขึ้น 100 บาท อยู่ที่ 17,500 นักลงทุนยังซื้อขายอย่างระมัดระวัง เนื่องจากพรุ่งนี้เป็นวันหยุด คริสมาสต์
NIGHT RECAP:
ราคาทองคำเปิดตลาดในประเทศไทยที่ระดับ 1094 เหรียญ โดยราคาเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1094 - 1106 เหรียญ ก่อนกลับมาปิดตลาดที่ 1104 เหรียญ ในเวลาประเทศไทย ต่อมาในตลาดลอนดอนและนิวยอร์ก ราคาทองคำมีการเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1098 - 1106 เหรียญ และมาปิดตลาดที่ 1104 เหรียญ
ข้อมูลทองคำวันนี้
ราคาสมาคม เปิดที่ 17,450 — 17,550
ราคา Gold Spot เปิดที่ 1,105
อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท 33.33 — 33.44
GFZ09 Hi- Low 17,590 - 17,360 ปิดที่ 17,580
Gold Insight
สัญญาทองคำตลาด COMEX
ส่งมอบเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 10.80 ดอลลาร์/ออนซ์ ปิดที่ 1,104.80 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1102.0 - 1104.8 ดอลลาร์/ออนซ์เพราะได้ปัจจัยบวกจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ซึ่งกระตุ้นนักลงทุนให้ เข้าซื้อเก็งกำไรสัญญาทองคำก่อนวันหยุดในเทศกาลคริสต์มาส ส่วนการซื้อขายในวันพฤหัสบดีที่ 24 ธ.ค.นั้น ตลาดปิดทำการเร็วกกว่ากำหนดเนื่องจากเป็นวันคริสต์มาส อีฟ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์
ดีดขึ้น 53.66 จุด หรือ 0.51% ปิดที่ 10,520.10 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 5.89 จุด หรือ 0.53% ปิดที่ 1,126.48 จุด หลังจากสหรัฐเผยตัวเลขว่างงานรายสัปดาห์ที่ปรับตัวลดลง และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนที่พุ่งขึ้น เกินคาด ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐมากขึ้น นอกจากนี้ การที่ สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงยังช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มโลหะดีดตัวขึ้นด้วย ทั้งนี้ ตลาดหุ้น นิวยอร์กปิดทำการเร็วกว่าปกติในวันพฤหัสบดีที่ 24 ธ.ค. คือในเวลา 1800 GMT หรือราว 01.00 น.ตาม เวลาไทยในวันศุกร์ เนื่องในวันคริสต์มาส อีฟ
น้ำมันดิบตลาด NYMEX
ส่งมอบเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 1.38 ดอลลาร์ หรือเกือบ 2% ปิดที่ 78.05 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัว ในช่วง 78.25 - 76.19 ดอลลาร์ เพราะได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง รวมทั้งสต็อกน้ำมันดิบ ของสหรัฐที่ลดลงเกินคาด และตัวเลขว่างงานรายสัปดาห์ที่ปรับตัวลดลง โดยข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุน มั่นใจว่าดีมานด์พลังงานในสหรัฐยังคงแข็งแกร่งและสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจที่ส่งสัญญาณการฟื้นตัว
กองทุน SPDR Gold Trust
SPDR กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือ ทองคำถึง ณ. 25 ธ.ค.ไม่มีการเปลี่ยนแปลงการถือครองที่ระดับ 1,132.71 ตัน
USD/EU ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรา นิวยอร์กเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนลดการถือครองสกุลเงินดอลลาร์ก่อนวันหยุดเทศกาลคริสต์มาส หลังจาก สหรัฐเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่ที่ร่วงลงเหนือความคาดหมาย อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงในกรอบ ที่จำกัดหลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยตัวเลขว่าง งานที่ลดลงและยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ปรับตัวสูงขึ้น ค่าเงิน ดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.21% เมื่อเทียบกับยูโรที่ระดับ 1.4356 ยูโรต่อดอลลาร์ จากระดับของวันพุธที่ 1.4326 ยู โรต่อดอลลาร์ โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลยูโรเช้านี้เปิดตลาดยู่ที่ระดับ 1.43 60 ดอลลาร์ต่อยูโร
USD/JPY ดอลลาร์สหรัฐขยับลง 0.07% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 91.610 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 91.670 เยนต่อดอลลาร์ โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลเยนเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 91.40 เยนต่อ ดอลลาร์
USD/THB ค่าเงินบาทปิดตลาดเมื่ออังคารที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 33.31/33.39 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งมีการอ่อน ค่ามากขึ้นจากการเปิดตลาดในตอนเช้า โดยค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ระดับ 33.31/33.39 บาทต่อดอลลาร์
ข่าวเศรษฐกิจโลก
กระทรวงแรงงานสหรัฐที่ระบุว่า ตัวเลขชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกร่วงลง 28,000 คน แตะระดับ 452,000 คนในรอบสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งลดลงมากว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดไว้ที่ระดับ 470,000 คน และบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐฟื้นตัวขึ้นแล้ว
? กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ย.ดีดตัวขึ้น 0.2% หลังจากร่วงลง 0.6% ในเดือนต.ค. อย่างไรก็ตาม ยอดสั่งซื้อคงทนเดือนพ.ย.ดีดตัวขึ้นไม่มากนักเนื่องจากดีมานด์เครื่องบินพาณิชย์และยานยนต์หดตัวลงอย่างหนัก รายงานระบุว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรในเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 3.5% ยอดสั่งซื้อโลหะขั้นปฐมภูมิ อาทิ เหล็กกล้า เพิ่มขึ้น 1.4% ส่วนยอดสั่งซื้อคอมพิวเตอร์และสินค้าอิเล็กทรอนิกพุ่งขึ้น 3.7% ทำสถิติปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 10 เดือน อย่างไรก็ตาม ดีมานด์อุปกรณ์ด้านการขนส่งร่วงลง 5.5% เนื่องจากยอดสั่งซื้อยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์หดตัวลง 0.2% ซึ่งอ่อนแอที่สุดในรอบ 5 เดือน ส่วนดีมานด์เครื่องบินพาณิชย์ทรุดตัวลง 32.6%
? สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงเป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนสัญญาทองคำพุ่งขึ้น โดยเมื่อวานนี้ ICE Futures U.S. dollar index ร่วงลง 0.1% ซึ่งดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงจะกระตุ้นนักลงทุนให้เข้าถือครองสัญญาทองคำมากขึ้นเพราะมองว่าเป็นการลงทุนที่ปลอดความเสี่ยง
? เจ้าหน้าที่ตัวแทนจากกระทรวงการคลังญี่ปุ่น เรียกร้องคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ให้ความสนใจกับความเสี่ยงของเงินฝืด โดยกล่าวว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของญี่ปุ่นชะลอตัวลง จึงทำให้ญี่ปุ่นเผชิญกับภาวะเงินฝืดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งภาวะเงินฝืดถือเป็นความเสี่ยงที่กำลังบั่นทอนเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่น
? ธนาคารบาร์เคลยส์คาดการณ์ว่า การฟื้นตัวของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอาจสิ้นสุดลงในช่วงกลางปี 2553 เนื่องจากธนาคารกลางหลายแห่งทั่วโลกหลีกเลี่ยงการเพิ่มสกุลเงินดอลลาร์ในทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ และจากแนวโน้มที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่ช้ากว่าที่ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้บาร์เคลยส์คาดว่า ดีมานด์ในระยะยาวของสกุลเงินดอลลาร์จะชะลอตัวลง หลังจากเม็ดเงินดอลลาร์ในระบบทุนสำรองเงินตราต่างประเทศทั่วโลกช่วงไตรมาส 3 ร่วงลงเกือบ 30% ซึ่งเป็นการลดลงอย่างเหนือความคาดหมายในช่วงที่สกุลเงินดอลลาร์อ่อนแอลง โดยตั้งแต่ต้นเดือนธ.ค.จนถึงขณะนี้ ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงหนักสุดในรอบ 11 เดือนเมื่อเทียบกับ 16 สกุลเงินสำคัญของโลก ซึ่งเป็นผลมาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในปีหน้าเพราะเชื่อว่าเศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นตัว ดัชนี US Dollar Index ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับยูโร เยน ปอนด์ ดอลลาร์แคนาดา ฟรังค์สวิส และโครนาสวีเดน ดิ่งลง 4.2% ในปีน