กรุงเทพฯ--28 ธ.ค.--กทม.
กทม.เปิดงานเทศกาลปล่อยแสง 5 ตอนมหกรรมเครือข่ายดนตรี เปิดพื้นที่อิสระให้เหล่านักคิด ปลดปล่อยพลังความคิด สร้างสรรค์ผลงาน พร้อมสร้างเครือข่ายความร่วมมือในเชิงธุรกิจ นำอุตสาหกรรมดนตรีไทยก้าวไกลสู่สากล เพื่อสร้างรากฐานสำคัญ ร่วมกันผลักดันมหานครกรุงเทพฯ สู่เมืองแห่งความคิดสร้างสรรค์อย่างแท้จริง
นางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดงานเทศกาลปล่อยแสง 5 ตอน มหกรรมเครือข่ายดนตรี โดยมีนายอภิสิทธิ์ ไล่สัตรูไกล ผู้อำนวยการศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ ให้การต้อนรับ ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
เทศกาลปล่อยแสง 5 ตอน มหกรรมเครือข่ายดนตรี เป็นกิจกรรมภายใต้โครงการกรุงเทพฯ เมืองสร้างสรรค์ (Bangkok Creative City) ซึ่งเป็นโครงการที่ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) ดำเนินการเพื่อผลักดันให้มหานครกรุงเทพฯ ก้าวสู่การเป็นเมืองสร้างสรรค์ได้อย่างแท้จริง โดยได้เลือกการนำเสนอศักยภาพในการประกอบธุรกิจสร้างสรรค์ภายในกรุงเทพมหานครผ่านธุรกิจดนตรีสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบุคคลหลายกลุ่มหลายอาชีพ ในการจัดกิจกรรมได้รับการสนับสนุนจากกรุงเทพมหานคร ซึ่งเล็งเห็นความสำคัญและคุณค่าของการสร้างบรรยากาศแห่งการพบปะ แลกเปลี่ยน และการกระตุ้นให้คนไทยกล้าปลดปล่อยพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์ เพื่อแปรเปลี่ยนไอเดียให้เป็นทุน ในการผลิตชิ้นงานทางความคิดใหม่ๆที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม อันจะนำไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอุตสาหกรรมดนตรีไทย เทศกาลปล่อยแสง 5 ตอนมหกรรมเครือข่ายดนตรี ในครั้งนี้ประกอบด้วยกิจกรรม เวทีปล่อยแสง พื้นที่แสดงความคิดสร้างสรรค์จากบุคลากรชั้นนำในแวดวงดนตรี เวทีเสวนา ที่จัดขึ้นเพื่อการแลกเปลี่ยนมุมมองความคิดเห็นของคนดนตรี การเปิดพื้นที่ Music Industry Showcase เพื่อจัดแสดงที่สุดของผลงานสร้างสรรค์จากบุคคลในอุตสาหกรรมดนตรี ตั้งแต่เบื้องหน้าสู่เบื้องหลัง รวมถึงตลาดปล่อยแสง ซึ่งเปิดพื้นที่ให้ผู้ประกอบการทั้งในแวดวงดนตรีและแวดวงอื่นๆ ได้นำเสนอผลงานของตนเองสู่กลุ่มผู้บริโภคโดยตรง
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การจัดกิจกรรมในวันนี้ถือเป็นการต่อยอดการพัฒนากรุงเทพฯสู่เมืองสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นโครงการที่กรุงเทพมหานครและศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ ร่วมมือกันในการผลักดันกรุงเทพฯสู่การเป็นเมืองสร้างสรรค์อย่างเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น ซึ่งการจะพัฒนาเมืองสร้างสรรค์ให้เกิดขึ้นได้นั้น จำเป็นต้องอาศัยการพัฒนาสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการดำเนินธุรกิจ อีกทั้งต้องมีพื้นที่ให้นักคิดและผู้ประกอบการได้มีโอกาสพบปะพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น รวมถึงต้องมีพื้นที่ที่เปิดโอกาสให้เกิดการเรียนรู้ มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ก่อให้เกิดกระบวนการใช้ความคิดสร้างสรรค์ โดยมีสภาพแวดล้อมที่ดึงดูดให้เหล่านักคิดได้เข้ามามีส่วนร่วมเสาะแสวงหาแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์และพัฒนาผลงาน ทั้งนี้กรุงเทพมหานครพร้อมร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันและสนับสนุนให้มหานครกรุงเทพฯ ก้าวสู่เมืองสร้างสรรค์ เพื่อที่จะเป็นต้นแบบในการพัฒนาเมืองสร้างสรรค์เมืองอื่นๆของประเทศต่อไป