กรุงเทพฯ--28 ธ.ค.--นิว อินเตอร์ คลาสสิก เอ็กซิบิชั่น
สร้างความประทับใจครั้งใหญ่สมความตั้งใจของผู้จัดหน้าใหม่ไฟแรง บริษัท นิว อินเตอร์ คลาสสิก เอ็กซิบิชั่น จำกัด หรือ NICE (New Inter Classic Exhibition Co.,Ltd.) โดยมี 9 สุดยอดศิลปินของเมืองไทย อย่าง ปาล์มมี่, โมเดิร์นด็อก, กรู๊ฟ ไรเดอร์ส, ฟรายเดย์, ฟลัวร์, ซีล, ลิปตา และ พาราด็อกซ์ ที่ทุ่มเทสร้างความสนุกเต็มพิกัดท่ามกลางบรรยากาศหิมะโปรยปราย เคล้าวาระแห่งการเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่อย่างยิ่งใหญ่ กับเทศกาลดนตรีแห่งสายลมหนาว “Bangkok Winter Music Festival 2009” ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน หัวหมาก เมื่อวันเสาร์ 26 ธันวาคม ที่ผ่านมา
อุ่นเครื่องความประทับใจเปี่ยมไออุ่น ด้วยการร่วมแบ่งปันน้ำใจจากเหล่าศิลปินและผู้ชมที่พร้อมเพรียงกันพกผ้าพันคอ เสื้อกันหนาวผ้าห่ม และอุปกรณ์กันหนาวต่างๆ มาหย่อนใส่กล่องของขวัญใบยักษ์ เพื่อส่งต่อไออุ่นแก่น้องๆ และผู้ขาดแคลน รวมทั้งการออกบูธของหน่วยงานการกุศลทั้ง 9 ได้แก่ 1. มูลนิธิเพื่อเยาวชนชนบท 2. มูลนิธิธรรมรักษ์ วัดพระบาทน้ำพุ 3. สถานรับเลี้ยงเด็กยากจน บ้านครูน้อย 4. มูลนิธิบ้านเด็กตาบอดและพิการซ้ำซ้อน 5. มูลนิธิสถาบันแสงสว่าง 6. มูลนิธิเพื่อนช้าง 7. มูลนิธิเพื่อการรักษาสุนัขจรจัด 8. กองทุนโรคมะเร็งในเด็กในพระอุปถัมภ์ 9. กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ การกีฬาแห่งประเทศไทย ที่มาร่วมให้ข้อมูลและรับบริจาคเพิ่มเติมบริเวณทางเข้างาน
จากนั้นมาถึงคิวของการแสดงคอนเสิร์ตบนเวที ที่เหล่าศิลปินทยอยขึ้นมามอบความสุขสุดพิเศษแก่ผู้ชมแบบสนุกสนานต่อเนื่องนานร่วม 9 ชั่วโมง เริ่มด้วย ลิปตา คู่หูดูโอโรแมนติกป๊อป ที่มาพร้อมเพลงเพราะสุดฮิตอย่าง ปฏิเสธอย่างไร ฝืน คำถามโง่ๆ ลมหายใจของเมื่อวาน และการคัฟเวอร์เพลงที่ทั้งหวานทั้งสนุกอย่าง จูบ (Jetse’ter) สักวันฉันจะดีพอ (บอดี้สแลม) เรียกความคึกคักให้ผู้ชม ก่อนถึงคิวของ สามหนุ่มโรแมนติกรุ่นใหญ่ ฟรายเดย์ ที่ส่งให้เพลงคลาสสิกอย่าง กลับมา นิดนึงพอ ชั่วโมงต้องมนต์ ดังกระหึ่มราชมังฯ พร้อมหิมะที่เริ่มโปรยปรายเพิ่มบรรยากาศ ด้านคนดูก็ทยอยเข้ามาสมทบเรื่อยๆ เช่นเดียวกับบรรยากาศบนเวทีที่ร็อกร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อวงร็อกอย่าง ซีล ปรากฎตัว โซโล่เพลงมัน เพลงซึ้ง ไม่ว่าจะเป็น เหวี่ยง สองรัก หมดชีวิต เป็นชุดต่อเนื่องด้วย ฟลัวร์ ที่ไม่เพียงขนเพลงฮิตของตัวเอง อย่าง ปล่อยไปตามหัวใจ ฤดูที่ฉันเหงา กันและกัน (ost.รักแห่งสยาม) พร้อมเรียกหิมะให้แล้ว ยังคัฟเวอร์เพลง รักเธอประเทศไทย ของร็อกรุ่นใหญ่ หรั่ง ร็อกเครสตร้า กระตุ้นความรักชาติส่งท้ายปีได้กระหึ่มราชมังคลากีฬาสถานอีกครั้ง
รู้สึกตัวอีกทีพื้นที่ด้านล่างของ Bangkok Winter Music Festival 2009 ก็แน่นไปด้วยสาวก อีทีซี เมื่อวงดนตรีมากฝีมือวงนี้รายงานตัวด้วยเพลงฮิตๆ ที่ร้องตามกันได้ทุกเพลงอย่าง เธอคือใคร นางฟ้า และ สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าหัวใจ ที่โอเล่ (ไพโรจน์ ธรรมรส) มือกีตาร์และหัวหน้าวงเป็นแกนนำ ทำเสียง จั๊ด จา ด่า จา ดา จั๊ด เลียนแบบลูกสาวซึ่งร้องออริจินัลในเพลงนี้ได้น่ารักและเหมือนต้นฉบับอย่างไม่น่าเชื่อ แถมด้วยการคัฟเวอร์ดูโอในตำนาน ไฮดรา ในเพลง น.ส. หุ่นยนต์ ก่อนจะส่งต่อเวทีให้วงที่เป็นเหมือนหุ่นยนต์ดิสโก้ฟังก์ กรู๊ฟไรเดอร์ส ที่ทำให้เวทีนี้ร้อนไปด้วยลีลามันๆ เริ่มด้วย She’s Hot Lift แถมเรียกประชากรบนอัฒจันทร์ชั้นบนมาดิ้นร่วมกันด้านล่าง ส่วนช็อตซึ้งๆ อย่าง แค่เธอก็พอ เธอทั้งนั้น รักไม่ได้ พี่ๆ เขาก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เช่นเดียวกับร็อกตัวพ่อ โมเดิร์นด็อก ที่จัดเพลงโดดมากระชากเวทีเป็นชุด ทั้ง บุษบา กันและกัน ติ๋ม ขอบคุณ ปิดท้าย ด้วย ตาสว่าง ที่โดดกันแบบไม่ลืมหูลืมตา
ก่อนจะตื่นตาตี่นใจกับการปรากฏตัวในชุดกระโปรงและหน้ากากแฟนซีสุดแนวของศิลปินสาวหนึ่งเดียวบนเวที ปาล์มมี่ ที่แฟนๆ ไม่สามารถนั่งดูได้อีกต่อไป ต้องลุกมาเต้นกับเธอข้ามคืนกันเลย เพราะเข็มนาฬิกาเลยเที่ยงคืนไปแล้ว แต่ก็หยุดไม่อยู่แล้วกับเพลงอย่าง ติ๊กต่อก ทำเป็นไม่ทัก อยากร้องดังๆ รวมถึง Poker Face ที่ปาล์มมี่คัฟคัฟเวอร์เพลงฮิตของ Lady Gaga ได้เด็ดสะระตี่และน่ารักเรียกเสียงกรี๊ดได้หายคิดถึง จนสาวปาล์มมี่แสดงอาการปลาบปลื้มบนเวทีอย่างเห็นได้ชัด จากนั้นก็ถึงคิวสุดท้ายบนเวที ที่แม้เวลาจะล่วงเลยไปมาก แต่วงร็อกแฟนตาซีจ๋าอย่าง พาราด็อกซ์ ไม่เคยหวั่น ปรากฏตัวในลุกแซนตี้สองพาราด็อกซ์ พร้อมขบวนเคโรโระ ยอดมนุษย์ และแน่นอนของเล่น ลูกเล่น มากมาย ทั้งลูกบอลเล็ก ลูกบอลใหญ่ ลูกโป่งลอยฟ้าที่มากันเป็นมหกรรม แถมลอยขึ้นฟ้าในยามเกือบตีสองได้อย่างไม่ขาดสาย พร้อมด้วยเพลงสนุก โดด ดิ้น กันแบบพาราด็อกซ์ ทั้ง Sexy โอ้ความรัก ส่งรักส่งยิ้ม ชูวับ บอลลูน ผงาดง้ำค้ำโลก ฤดูร้อน นักมายากล จบด้วย รด.แดนซ์ และหิมะระลอกสุดท้ายที่โปรยปรายแบบหลากสีสัน
ปิดท้าย Bangkok Winter Music Festival 2009 ไปอย่างสนุกไม่มียั้ง ทั้งศิลปิน ทั้งแฟนเพลงเพลิดเพลินกับคอนเสิร์ตกันข้ามคืนจนเข้าสู่เช้าวันใหม่ ณ สนามราชมังคลากีฬาสถานแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวกันเลย แต่ที่รู้แน่ๆ คือทั้งสนุกและได้บุญ เพราะรายได้ส่วนหนึ่งหลังหักค่าใช้จ่าย มอบให้ 9 มูลนิธิที่ทำประโยชน์ให้สังคมไทยอีกด้วย เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งเทศกาลดนตรีแห่งสายลมหนาวในกรุงเทพฯ ที่ยิ่งใหญ่ ไม่เหมือนใคร และที่สำคัญ...สนุกเต็มอิ่ม อิ่มอก อิ่มใจ และอิ่มบุญกันถ้วนหน้า