กรุงเทพฯ--2 ก.พ.--พีซี แอนด์ แอสโซซิเอทส์ คอนซัลติ้ง
เปิดตัว แพลตฟอร์มใหม่และซอฟต์แวร์ไอพีสตอเรจ ช่วยเพิ่มความสะดวก ประหยัดค่าใช้จ่าย ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากเครือข่ายไอพี
อีเอ็มซี คอร์ปอเรชั่น เปิดตัวโซลูชั่นใหม่ล่าสุดสำหรับสตอเรจและระบบเวอร์ช่วลไลเซชั่น (virtualization) รวมถึงสตอเรจแอเรย์ระดับไฮเอนด์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและมีความยืดหยุ่นตามความต้องการของลูกค้ามากที่สุดในโลก พร้อมทั้งซอฟต์แวร์ระบบไฟล์แบบใหม่ และความสามารถด้านเวอร์ช่วลไลเซชั่นสำหรับอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบเชื่อมต่อเครือข่าย (Network Attached Storage - NAS) โดยโซลูชั่นเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความสะดวกและขยายคุณประโยชน์ของแนวทางการจัดการวงจรการใช้งานของข้อมูล (Information Lifecycle Management - ILM) ให้ครอบคลุมแอพพลิเคชั่นและข้อมูลต่างๆ ได้มากขึ้น โดยใช้เครือข่ายอินเทอร์เน็ตโปรโตคอล (ไอพี) ที่ได้รับการใช้งานอย่างแพร่หลายและมีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่า
การเปิดตัวในวันนี้ครอบคลุมเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ของอีเอ็มซี ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าสามารถผนวกรวมข้อมูลได้อย่างกลมกลืนมากยิ่งขึ้น (ดูเอกสารแนบ) ทั้งยังช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพและลดค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ
สิ่งที่อีเอ็มซีเปิดตัวในวันนี้คือ:
คอนฟิเกอเรชั่นระดับเริ่มต้นและระดับไฮเอนด์ของสตอเรจแอเรย์ EMC Symmetrix DMX-3 รวมถึงรุ่นที่ประกอบด้วยดิสก์ไดรฟ์ Fibre Channel (LC-FC) ขนาด 500 GB ซึ่งมีราคาถูกกว่า โดยนับเป็นครั้งแรกที่สตอเรจแอเรย์ระดับไฮเอนด์สามารถเพิ่มความจุจนเกินระดับ 1 เพทาไบต์ (1,024 เทราไบต์) คุณสมบัติใหม่นี้จะช่วยให้ลูกค้าสามารถจัดเก็บข้อมูลจากแอพพลิเคชั่นต่างๆ ไว้บนแอเรย์เดียวกันได้มากขึ้น และเพิ่มความสะดวกในการจัดการสตอเรจหลายระดับบนแพลตฟอร์ม Symmetrix DMX-3
ซอฟต์แวร์ระบบไฟล์ EMC Multi-Path File System for iSCSI (MPFSi) รุ่นแรกของอุตสาหกรรม จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดค่าใช้จ่ายอย่างเป็นรูปธรรมสำหรับสภาพแวดล้อมที่รองรับข้อมูลจำนวนมากและมีการประมวลผลไฟล์ขนาดใหญ่บนเครือข่ายไอพี รวมถึงระบบประมวลผลแบบกริด ริชมีเดีย การพัฒนาซอฟต์แวร์ และอื่นๆ
การปรับปรุงครั้งใหญ่สำหรับแพลตฟอร์ม EMC Rainfinity Global File Virtualization รวมถึง Global Namespace Management ซึ่งให้มุมมองที่ครบวงจรสำหรับไฟล์และระบบไฟล์ทั้งหมดที่อยู่ในไฟล์เซิร์ฟเวอร์จากผู้ผลิตหลายรายบนเครือข่ายไอพี นอกจากนี้แพลตฟอร์ม Rainfinity ยังประกอบด้วย Synchronous IP Replication ซึ่งช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการปกป้องข้อมูล
การปรับปรุงระบบจัดเก็บข้อมูล Content Addressed Storage (CAS) ในตระกูล EMC Centera รวมถึงฟีเจอร์ซอฟต์แวร์ Base Retention-Event และ Litigation Hold จะช่วยให้ลูกค้าได้รับประโยชน์จากความปลอดภัย ความยืดหยุ่นตามความต้องการของลูกค้า และความสามารถในการควบคุมข้อมูลที่จัดเก็บระยะยาวเพื่อจุดประสงค์ทางด้านกฎหมายและการปฏิบัติตามกฎระเบียบ
“การจัดการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีที่มีขนาดใหญ่ขึ้นและมีความซับซ้อนเพิ่มมากขึ้นได้กลายเป็นปัญหาท้าทายที่สำคัญสำหรับลูกค้า ในปี 2548 ข้อมูลที่จัดเก็บไว้บนดิสก์แอเรย์จะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นกว่า 70% นอกจากนี้ยังมีเรื่องของความต้องการที่เปลี่ยนไปในด้านการบริหารองค์กรตามหลักธรรมาภิบาลและการคุ้มครองข้อมูล ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาในเรื่องของการจัดการข้อมูลและค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น เทคโนโลยีรุ่นใหม่ล่าสุดนี้ซึ่งใช้ประโยชน์จากเครือข่ายไอพีราคาประหยัด จะช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้ประโยชน์จากระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูลได้อย่างชาญฉลาด สะดวกง่ายดาย และประหยัดค่าใช้จ่าย ทั้งยังขยายขอบเขตของแนวทาง ILM ให้ครอบคลุมส่วนต่างๆ ได้อย่างทั่วถึง” ดร. ธัชพล โปษยานนท์ ผู้จัดการประจำประเทศของอีเอ็มซี ประเทศไทย กล่าว
รายละเอียดของการเปิดตัวผลิตภัณฑ์:
อีเอ็มซีนำเสนอสตอเรจแอเรย์ที่เร็วที่สุดและยืดหยุ่นตามความต้องการของลูกค้ามากที่สุดในโลก
อีเอ็มซีเปิดตัวสตอเรจแอเรย์รุ่นแรกของโลกที่รองรับความจุได้มากกว่า 1 เพทาไบต์ (1,024 เทราไบต์) ด้วยคอนฟิเกอเรชั่นของระบบ Symmetrix DMX-3 ซึ่งรองรับดิสก์ไดรฟ์ได้มากถึง 2,400 ตัว รวมถึงดิสก์ไดรฟ์ Fibre Channel (LC-FC) รุ่นราคาประหยัด ขนาด 500 กิกะไบต์ เทคโนโลยีดิสก์ไดรฟ์แบบใหม่นี้ซึ่งสามารถใช้งานร่วมกับระบบ Symmetrix DMX ทุกรุ่น จะช่วยให้ลูกค้าประหยัดค่าใช้จ่ายโดยรวมในการดูแลรักษาระบบ โดยจะสามารถรองรับข้อมูล แอพพลิเคชั่น และสตอเรจหลากหลายระดับไว้ภายในแอเรย์และเครือข่ายสตอเรจเดียวกัน ทั้งนี้อีเอ็มซีเป็นผู้ผลิตรายแรกที่นำเสนอเทคโนโลยีดิสก์ไดรฟ์รุ่นใหม่ในแอเรย์ระดับไฮเอนด์
นอกจากนี้อีเอ็มซียังได้แนะนำคอนฟิเกอเรชั่นระดับเริ่มต้นของระบบ Symmetrix DMX-3 โดยนับเป็นครั้งแรกที่ลูกค้าจะสามารถปรับระดับประสิทธิภาพและความจุบนแอเรย์เดียวกัน โดยเริ่มตั้งแต่ขนาด 7 เทราไบต์ ซึ่งใช้ดิสก์ไดรฟ์ 96 ตัว ไปจนถึงขนาด 1 เพทาไบต์ ซึ่งใช้ดิสก์ไดรฟ์ 2,400 ตัว ทั้งนี้ระบบ Symmetrix DMX-3 ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษเพื่อนำเสนอประสิทธิภาพ ความสามารถในการปรับขนาด และเสถียรภาพในระดับที่จำเป็นสำหรับการรองรับคอนฟิเกอเรชั่นระดับไฮเอนด์บนแอเรย์เดียวกัน ลูกค้าจะสามารถปรับระดับความจุและประสิทธิภาพได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่มีการหยุดชะงักเพื่อให้สอดรับกับความต้องการด้านการจัดเก็บข้อมูลที่เปลี่ยนไป สถาปัตยกรรม DMX จะช่วยให้ระบบ Symmetrix DMX-3 สามารถรองรับการปรับระดับประสิทธิภาพ ด้วยการเพิ่มเติมอุปกรณ์ควบคุมแชนเนล, อุปกรณ์ควบคุมหน่วยความจำ และอุปกรณ์ควบคุมดิสก์ให้กับระบบ
ระบบ Symmetrix DMX-3 ซึ่งเป็นระบบสตอเรจที่เร็วที่สุด ปรับขนาดได้มากที่สุด และยืดหยุ่นตามความต้องการของลูกค้ามากที่สุดในอุตสาหกรรม เปิดตัวเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนกรกฎาคม 2548 และเริ่มวางจำหน่ายในเดือนสิงหาคม 2548 โดยมีการนำเสนอคอนฟิเกอเรชั่นและฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดก่อนตารางเวลาที่กำหนดไว้
นอกเหนือจากคอนฟิเกอเรชั่นใหม่ของระบบ Symmetrix DMX-3 อีเอ็มซียังได้เปิดตัวส่วนปรับปรุงมากมายสำหรับเทคโนโลยีและซอฟต์แวร์ด้านการจัดการข้อมูลบนระบบ Symmetrix DMX-3 เช่น:
การสนับสนุน Native Gigabit Ethernet (GigE) สำหรับโฮสต์และการรีพลิเคตข้อมูลระยะไกลบนระบบ Symmetrix DMX-3 ซึ่งจะช่วยขจัดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับตัวแปลงแชนเนลภายนอกและเกตเวย์ที่ใช้ในการรีพลิเคตข้อมูลจำนวนมหาศาลบนเครือข่ายอีเธอร์เน็ตที่มีราคาถูกกว่า การสนับสนุนดังกล่าวจะสามารถรองรับแอเรย์ Symmetrix DMX รุ่นก่อนหน้านี้ และ Symmetrix 8000 series ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
การสนับสนุนระบบ Symmetrix DMX-3 สำหรับเซิร์ฟเวอร์ IBM iSeries ซึ่งนับเป็นสตอเรจแอเรย์เพียงรุ่นเดียวที่ไม่ใช่ของไอบีเอ็ม แต่สามารถทำงานร่วมกับแพลตฟอร์มเซิร์ฟเวอร์ขนาดกลางของไอบีเอ็มซึ่งได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย
ระบบ Symmetrix DMX-3 สนับสนุน TPF (Transaction Processing Facility) ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการแบบเรียลไทม์สำหรับสภาพแวดล้อมเมนเฟรมของไอบีเอ็ม
ซอฟต์แวร์ EMC z/OS Storage Manager ซึ่งรองรับการจัดการเมนเฟรมสำหรับระบบสตอเรจ Symmetrix ทุกรุ่น พร้อมทั้งปรับปรุงประสิทธิภาพในการจัดการสตอเรจแอเรย์ในสภาพแวดล้อมเมนเฟรม
RAINFINITY นำเสนอความสามารถด้านเวอร์ช่วลไลเซชั่น เพิ่มความสะดวกในการจัดการ NAS
ฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดของ EMC Rainfinity Global File Virtualization ประกอบด้วยฟีเจอร์ที่สำคัญ 2 ฟีเจอร์ ได้แก่ Global Namespace Management และ Synchronous IP Replication ซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถปรับปรุงการบริหารจัดการและการคุ้มครองข้อมูลในระดับไฟล์ตลอดอายุการใช้งาน
เทคโนโลยี EMC Rainfinity Global File Virtualization จะจัดหาระบบเวอร์ช่วลไลเซชั่นสำหรับ NAS และไฟล์เซิร์ฟเวอร์จากผู้ผลิตหลายราย ซึ่งจะช่วยให้สามารถใช้ประโยชน์จากสตอเรจบนเครือข่ายได้อย่างเต็มที่ ทั้งยังปรับปรุงประสิทธิภาพ เพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการผนวกรวมสตอเรจ และคุ้มครองข้อมูลอย่างยืดหยุ่นตามความต้องการของลูกค้า แพลตฟอร์ม Rainfinity นับเป็นส่วนเพิ่มเติมล่าสุดของเทคโนโลยีเวอร์ช่วลไลเซชั่นสำหรับสตอเรจและเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งครอบคลุมถึงแพลตฟอร์มเวอร์ช่วลไลเซชั่น EMC Invista บนเครือข่าย SAN (Storage Area Network) และความสามารถด้านระบบเซิร์ฟเวอร์ เวอร์ช่วลไลเซชั่น จาก VMware
ความสามารถ Global Namespace Management ของ Rainfinity จะแสดงมุมมองที่ครบวงจรสำหรับไฟล์และระบบไฟล์ทั้งหมดที่จัดเก็บไว้บนไฟล์เซิร์ฟเวอร์จากผู้ผลิตหลายราย รวมถึงอุปกรณ์ NAS บนเครือข่ายไอพี นอกจากนี้ความสามารถ Global Namespace ยังรวมศูนย์การจัดการบริการ namespace ของ Windows และ UNIX บนเครือข่ายที่กระจัดกระจาย ความสามารถ Synchronous IP Replication ของ Rainfinity จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการคุ้มครองข้อมูลสำหรับไฟล์และระบบไฟล์ที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยผ่านการรีพลิเคตข้อมูลแบบซิงโครนัสบนเครือข่ายไอพี ฟีเจอร์เพิ่มเติมได้แก่ การควบคุมการรีพลิเคตข้อมูลโดยละเอียดถึงระดับที่ต่ำกว่าอุปกรณ์สตอเรจและดิสก์โวลุ่ม รวมถึงการสนับสนุนสภาพแวดล้อมสตอเรจจากผู้ผลิตหลายราย
เทคโนโลยีเวอร์ช่วลไลเซชั่นเริ่มมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งสำหรับ NAS โดยจากการสำรวจข้อมูลของ Coughlin Associates พบว่าเทคโนโลยีเวอร์ช่วลไลเซชั่นสำหรับ NAS มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในปี 2549 และโซลูชั่นด้านระบบเวอร์ช่วลไลเซชั่นสำหรับ NAS ของอีเอ็มซีกำลังได้รับความนิยมจากลูกค้าในอุตสาหกรรมสำคัญๆ เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ ไบโอเทค การศึกษา สาธารณสุข การผลิต เทคโนโลยี และบริการด้านการเงิน ลูกค้าเหล่านี้ที่ปรับใช้โซลูชั่นดังกล่าวยังครอบคลุมถึงสถาบันการเงินรายใหญ่ที่สุด 4 ใน 5 รายของสหรัฐฯ
แพลตฟอร์ม Rainfinity ยังประกอบด้วยแอพพลิเคชั่นด้านการจัดการความจุ การจัดการประสิทธิภาพ และการจัดการสตอเรจแบบแบ่งระดับชั้น ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายโดยรวมในการดูแลรักษาระบบด้วยการปรับปรุงประสิทธิภาพของสภาพแวดล้อม NAS ที่ประกอบด้วยอุปกรณ์จากผู้ผลิตหลายราย ฟังก์ชันการจัดการความจุจะค้นหาและแก้ไขปัญหาเรื่องความจุ และจัดสรรพื้นที่จัดเก็บข้อมูลอย่างลงตัวเพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากทรัพยากรสตอเรจได้อย่างเต็มที่ ในทำนองเดียวกัน แอพพลิเคชั่นด้านการจัดการประสิทธิภาพจะระบุและแก้ไขปัญหาเรื่องประสิทธิภาพ และขจัดปัญหาการติดขัดและจุดเชื่อมต่อต่างๆ ส่วนฟังก์ชั่นการจัดการสตอเรจแบบแบ่งระดับชั้นจะใช้ประโยชน์จากความสามารถด้านการเปลี่ยนย้ายของ Rainfinityโดยใช้ข้อมูลที่มีการเรียกใช้เป็นประจำเพื่อระบุข้อมูลที่ไม่มีการจัดโครงสร้างสำหรับการเคลื่อนย้ายสตอเรจแบบเนียร์ไลน์ที่มีราคาถูกกว่า ซึ่งจะช่วยให้ได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลระดับที่หนึ่ง (tier-one)
ซอฟต์แวร์ไอพีสตอเรจใหม่จากอีเอ็มซี สมรรถนะเหนือกว่า ใช้ง่ายกว่า
ด้วยซอฟต์แวร์ไฟล์แชริ่งใหม่ อีเอ็มซีกำลังทำให้สมรรถนะของระบบไอพีสตอเรจสูงขึ้นไปอีกระดับ ขณะเดียวกันก็ให้ลูกค้าได้รับความคุ้มค่าสูงสุดในการอัพเกรดโครงข่ายไอพีสตอเรจที่ใช้อยู่ EMC Multi-Path File System for iSCSI (MPFSi) คือซอฟต์แวร์ไฟล์แชริ่งใหม่ที่ใช้มาตรฐาน NAS และโปรโตคอล iSCSI เพื่อความรวดเร็วและประสิทธิภาพในการส่งบล็อกข้อมูลผ่านเครือข่ายไอพี และในฐานะที่ MPFSi เป็นองค์ประกอบหนึ่งของแพลตฟอร์มสตอเรจของอีเอ็มซี นั่นหมายถึงสมรรถนะที่เหนือกว่าระบบไฟล์ทั่วไป ในราคาที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับ SAN
MPFSi ยังให้สมรรถนะการทำงานที่เหนือชั้นกว่าสำหรับลูกค้าที่การทำงานส่วนใหญ่เกี่ยวพันกับข้อมูลปริมาณมากๆ เช่น การพัฒนาซอฟต์แวร์, การออกแบบเชิงวิศวกรรม, ริชมีเดีย และกริดคอมพิวติ้ง ซึ่งต้องการมากกว่า NAS ทั่วๆไป นักพัฒนาโอเพ่นซอร์สสามารถหาไคลเอนต์โค้ดของซอฟต์แวร์ดังกล่าวได้ที่ SourceForge.Net ในชื่อ iRoad (http://sourceforge.net/projects/fmp-road) สำหรับสามารถปรับแต่งเทคโนโลยีให้เข้ากับความต้องการหรือสภาพแวดล้อมในการทำงาน
EMC Celerra NAS นอกจากจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับลูกค้าแล้ว ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พื้นที่จัดเก็บข้อมูลหรือสตอเรจด้วยซอฟต์แวร์ Celerra Virtual Provisioning ใหม่ บ่อยครั้งที่เจ้าของแอพพลิเคชั่นต้องการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลมากกว่าที่จะต้องใช้งานจริง ความสามารถด้านเวอร์ชวลโปรวิชั่นนิ่งของ Celerra ช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวได้ โดยการทำให้ระบบไฟล์และ iSCSI LUNs (logical unit numbers) เป็นลอจิกคอลสตอเรจเพื่อตอบสนองความต้องการของเจ้าของแอพพลิเคชั่น และเป็นฟิสิกคอลสตอเรจสำหรับการจัดเก็บข้อมูลจริง นอกจากนี้ผู้ดูแลระบบสตอเรจยังสามารถเพิ่มหรือลดพื้นที่จัดเก็บข้อมูลได้แบบ "on the fly" หรือทุกเวลาที่ต้องการ ขณะเดียวกันก็ยังสามารถตอบสนองความต้องการได้ทั้งหมดด้วย
iSCSI คือหัวใจของ ILM ดังนั้นการปกป้องข้อมูลโดยใช้ iSCSI จึงเป็นคีย์สำคัญ ซอฟต์แวร์ EMC Celerra Replicator for iSCSI มีความยืดหยุ่นตามความต้องการของลูกค้าสูง สามารถรองรับการขยายตัวขององค์กรในระดับเอนเตอร์ไพรซ์ได้อย่างสบาย และให้ลูกค้าสามารถจัดทำรีพลิเคชั่นได้มากกว่า โดยในเบื้องต้นคือมากกว่า 1,000 iSCSI LUNs นี่ช่วยในเรื่องการปกป้องข้อมูลและความยืดหยุ่นตามความต้องการของลูกค้า ด้วยธุรกิจยังคงดำเนินต่อไปได้ในขณะที่ตัวมันทำงาน ทั้งยังสามารถสั่งแบ็คอัพข้อมูลได้จากระยะไกลด้วย และเพราะมีเพียงข้อมูลที่มีการเปลี่ยนแปลงเท่านั้นที่ถูกส่งออก ดังนั้นการใช้งานแบนด์วิธจึงต่ำมาก ซึ่งผลก็คือประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นของเครือข่าย รวมถึงประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นของการทำก็อปปี้และการลดภาระค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ Celerra Replicator ยังรองรับการทำรีพลิเคชั่นจากระยะไกลด้วย ซึ่งจะช่วยเสริมในเรื่องการปกป้องและความพร้อมของข้อมูล
EMC CENTERA ฟีเจอร์ใหม่สำหรับรีเทนชั่น
วันเดียวกันนี้ อีเอ็มซีได้เปิดตัวซอฟต์แวร์บริหารรีเทนชั่นที่แอดวานซ์กว่าสำหรับแพลตฟอร์มซีเอเอส (EMC Centera Content Addressed Storage; CAS) ออกมาด้วย เพื่อช่วยลูกค้าในการจัดการกับความต้องการในแต่ละวันของหน่วยงานต่างๆ ความสามารถของมันจะช่วยให้องค์กรสามารถจัดเก็บข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดช่วงวงจรชีวิตของข้อมูล
EMC Centera ยังคงเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับการตอบรับและความนิยมสูงสุดสำหรับการจัดเก็บข้อมูล ในปี 2005 มีคนเลือกใช้ Centera มากกว่า 2,300 ราย และพื้นที่ประมาณ 70 เพตะไบต์ (70,000 ล้านล้านไบต์) สำหรับเป็นสตอเรจแบ็คโบน เพื่อการจัดเก็บข้อมูลตามแผนบริการวงจรชีวิตข้อมูล หรือไอแอลเอ็ม (Information Lifecycle Management; ILM) ของลูกค้า ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2004 จนถึงปัจจุบัน มีผู้ใช้ Centera เพิ่มขึ้นมากกว่า 200% ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการยอมรับของตลาดทั่วโลก
โดยมุ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้า อีเอ็มซีได้พัฒนาฟีเจอร์ใหม่ให้กับ Centera เพื่อความง่ายในการพิสูจน์ตัวตนของผู้ใช้แอพพลิเคชั่นและผู้ดูแลระบบ รวมถึงการขยายระยะรีเทนชั่นสำหรับข้อมูลหรืออบเจ็กต์พิเศษใน Centera ฟีเจอร์อีเวนต์เบสรีเทนชั่น หรืออีบีอาร์ (Event-based Retention; EBR) และลิติเกชั่นโฮลด์ (Litigation Hold) ช่วยให้ลูกค้า Centera Governance Edition และ Centera Compliance Edition Plus รับมือกับสถานการณ์ต่างๆได้มากขึ้น ตัวอย่างเช่น อีเมลและเอกสารที่กำหนดให้ถูกลบโดยอัตโนมัติ เราสามารถพิสูจน์ข้อมูลเหล่านั้นได้อย่างง่ายดายว่าถูกกฎหมาย ถูกกฎเกณฑ์ หรือถูกอีเวนต์หรือไม่ และสามารถทำรีเทนชั่นได้อย่างสะดวก โดยที่เรายังสามารถลบเรคคอร์ดหรือออบเจ็กต์ได้ตามเหมาะสมด้วย
นอกจากนี้ อีเอ็มซียังได้เปิดตัวซีเคียวริตี้ฟีเจอร์ใหม่สำหรับ Centera ออกมาด้วยสำหรับอีกระดับของการควบคุม ความสามารถในการสร้างและบริหารโปรไฟล์ทำให้องค์กรมีความยืดหยุ่นตามความต้องการของลูกค้ามากขึ้นสำหรับการตรวจสอบว่าใครสามารถเข้าถึงข้อมูลอะไรได้และที่ระดับไหน ตัวอย่างเช่น ฝ่ายไอทีอาจได้รับอนุญาตให้ทำการปรับแต่งและบำรุงรักษาระบบจัดเก็บข้อมูล แต่การแก้ไขและสร้างรีพอร์ตจะทำได้โดยผู้ที่ได้รับอนุญาตเฉพาะจากบริษัทหรือฝ่ายกฎหมายของบริษัทเท่านั้น ฟีเจอร์ใหม่ยังมาพร้อมเครื่องมือที่ครบถ้วนสำหรับการตรวจสอบกิจกรรมการติดตั้งและการบริหารจัดการด้วย
เพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานและการเพิ่มพื้นที่จัดเก็บข้อมูล
นอกจากฟีเจอร์ใหม่ที่ออกมาเสริมการทำงานของซอฟต์แวร์แล้ว อีเอ็มซียังเปิดตัว Content Parity Protection สำหรับ Centera 8-Node เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งานสตอเรจด้วย ฮาร์ดไดร์ฟความจุ 500GB (กิกะไบต์) ก็เป็นอีกหนึ่งโซลูชั่นใหม่ที่เข้ามาเสริมฮาร์ดไดร์ฟความจุ 320GB ที่ใช้อยู่เดิม อย่างไรก็ตามฮาร์ดไดร์ฟขนาด 320GB ยังคงถูกใช้ใน Centera 4-Node เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดของระบบสำรองข้อมูลสำหรับองค์กรขนาดกลาง
ข้อมูลเกี่ยวกับอีเอ็มซี
อีเอ็มซี เป็นผู้นำแห่งโลกธุรกิจระบบสตอเรจ ที่คิดค้นทั้งระบบ, ซอฟต์แวร์, ระบบเครือข่าย และ การให้บริการต่างๆ ทั้งยังพัฒนาโซลูชั่นสำหรับการบริหารระบบเครือข่ายข้อมูลเพื่อช่วยให้หน่วยงานต่างๆ ทั่วโลกสามารถดึง และปรับใช้ข้อมูล
ต่างๆ ที่มีอยู่ในแต่ละส่วนของวงจรข้อมูลนั้นๆ ได้ในระดับสูงสุดโดยใช้ต้นทุนต่ำที่สุด ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอีเอ็มซี สามารถรับได้ผ่านทางเว็บไซต์ www.EMC.com
สำหรับสื่อมวลชน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Khoo Yin
Senior Marcom Specialist
EMC South Asia
Tel: +65-6427-1741
Fax: +65-6333-6878
Email: khoo_yin@emc.com
Local PR agency contact
จตุพร ไตรทาน
บริษัท พีซี แอนด์ แอสโซซิเอทส์ คอนซัลติ้ง จำกัด
Tel: 0-2971-3711
Fax : 0-2521-9030
Email : Jatuporn@pc-a.co.th--จบ--