กรุงเทพฯ--30 ธ.ค.--กบข.
กบข. ได้เลขาธิการคนใหม่เรียบร้อยแล้ว “โสภาวดี เลิศมนัสชัย” พร้อมสานต่อภารกิจบริหารเงินออมข้าราชการสมาชิกกว่า 1.18 ล้านคน ทั่วประเทศ
นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ปลัดกระทรวงการคลังในฐานะประธานกรรมการ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กล่าวถึงการแต่งตั้งเลขาธิการ คณะกรรมการ กบข. คนใหม่ ล่าสุดว่าคณะกรรมการ กบข. มีมติแต่งตั้งนางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย รองผู้จัดการสายงานการตลาดและงานบริการหลังการซื้อขายหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เข้ามาดำรงตำแหน่ง เลขาธิการคณะกรรมการ กบข. คนใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเชื่อมั่นว่าจะเข้ามาช่วยสานต่อภารกิจ กบข. ในการสร้างหลักประกันในวัยเกษียณให้กับข้าราชการสมาชิกที่มีกว่า 1.18 ล้านคนทั่วประเทศได้เป็นอย่างดี
สำหรับรายละเอียดในการสรรหาเลขาธิการคณะกรรมการ กบข. นั้น นายสถิตย์ กล่าวว่า คณะกรรมการ กบข. ได้พิจารณาเรื่องดังกล่าวและมีความเห็นว่าในการสรรหาบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการ กบข. นั้น ควรที่จะดำเนินการอย่างรอบคอบ ควรที่จะจ้างบริษัทที่ปรึกษา (Head Hunter) ที่เป็นมืออาชีพมาช่วยดำเนินการสรรหาและคัดกรองในเบื้องต้นด้วย ดังนั้น จึงได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมา 2 ชุด ชุดที่หนึ่งให้มีหน้าที่จัดจ้างบริษัทที่ปรึกษาและอีกชุดเป็นคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจเพื่อสรรหาเลขาธิการคณะกรรมการ กบข. ซึ่งคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจ ฯ ได้พิจารณาเห็นว่า เนื่องจากที่ผ่านมา กบข. อยู่ในช่วงที่ประสบปัญหาวิกฤติศรัทธาจากสมาชิก การดำเนินการต่าง ๆ ต้องดำเนินการอย่างโปร่งใส ดังนั้น นอกจากจะให้ที่ปรึกษาสรรหาผู้ที่เหมาะสมแล้ว ยังได้ดำเนินการประกาศรับสมัครทางหนังสือพิมพ์ด้วย ซึ่งการสรรหาดำเนินการเป็นขั้นตอน โดยได้มีการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครทุกคน จากสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. และธนาคารแห่งประเทศไทย ด้วย โดยที่คณะอนุกรรมการเฉพาะกิจ ฯ ได้ทำการพิจารณาประสบการณ์ ความรู้ความสามารถของผู้สมัครที่บริษัทที่ปรึกษาได้คัดสรรมาแล้วทุกรายอย่างละเอียดรอบคอบ และได้เชิญผู้สมัครที่ผ่านการคัดเลือกทุกรายมาสัมภาษณ์ ซักถามในทุกประเด็นจนเป็นที่พอใจ รวมถึงได้พิจารณาประเด็นสถานการณ์ของ กบข. ในปัจจุบันที่ต้องการผู้มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ที่เหมาะสม ที่จะนำพาองค์กร กบข. เพื่อสร้างความเชื่อมั่นกลับคืนมาด้วย ในที่สุด คณะกรรมการ กบข. จึงได้มีมติเลือก นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย เป็นเลขาธิการคณะกรรมการ กบข. คนใหม่ ซึ่งได้มีการลงนามในสัญญาจ้างกันในวันที่ 30 ธันวาคม 2552 และจะเริ่มเข้ามาปฏิบัติงานตั้งแต่วันที่ 18 มกราคม 2553 ระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง 4 ปี
สำหรับประวัติและประสบการณ์ของนางสาวโสภาวดี คือ เป็นผู้ที่มีความรู้และความสามารถ ประสบการณ์การบริหารจัดการองค์กรในฐานะผู้บริหารระดับสูงอย่างดี รวมทั้ง ปฏิบัติงานที่ตลาดหลักทรัพย์มากกว่า 30 ปี เป็นที่ยอมรับของคนในวงการตลาดทุนอย่างกว้างขวาง นอกจากนั้นด้วยบุคลิกลักษณะและความมุ่งมั่น เชื่อว่าจะสามารถนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้จากการทำงานกับภาคเอกชนมาส่งเสริมและสนับสนุนการบริหารงานของ กบข. สามารถดำเนินการต่อเนื่องและนำพาองค์กรให้บรรลุตามเจตจำนงของการเป็นแหล่งเงินออมที่ยั่งยืนและมั่นคงของสมาชิก กบข. กว่า 1.18 ล้านคนได้อย่างแน่นอน
สำหรับผลการดำเนินงานของ กบข. ตลอดปี 2552 ที่กำลังจะผ่านพ้นไปนี้ นายสถิตย์กล่าวว่า นับตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึง 24 ธันวาคม 2552 (งบยังไม่ได้ตรวจสอบ) การลงทุนของ กบข. สามารถสร้างผลตอบแทนสะสมได้ถึงร้อยละ 8.71 หรือคิดเป็นจำนวนเงิน 27,533.93 ล้านบาท โดยมีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิส่วนของเงินสมาชิก (ไม่รวมเงินสำรอง) จำนวนทั้งสิ้น 333,929.19 ล้านบาท
กล่าวได้ว่าผลตอบแทนดังกล่าวเป็นที่น่าพอใจเป็นอย่างยิ่ง โดยเป็นที่ทราบกันดีว่าในปี 2551 การลงทุนของ กบข. ติดลบที่ร้อยละ 5.17 หรือคิดเป็น 16,997 ล้านบาท ดังนั้นในปี 2552 กบข. สามารถพลิกฟื้นสถานการณ์กลับขึ้นมาโดยมีผลตอบแทนที่ดีขึ้นมาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี จนถึงสิ้นสุดการทำงานในปีนี้
สำหรับปัจจัยหลักที่ส่งผลให้ผลประกอบการของ กบข. ปรับตัวดีขึ้นนั้น มาจากภาวะตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวสูงขึ้น จาก 449.96 จุด ณ สิ้นปี 2551 เป็น 730.41 จุด หรือเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 62.33 ณ สิ้นปี 2552 หลังจากเศรษฐกิจโลกส่งสัญญาณการฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ ประกอบกับรัฐบาลทั่วโลกได้ใช้นโยบายการเงิน การคลัง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งผลให้เกิดความเชื่อมั่นต่อการลงทุนในตลาดหุ้นดีขึ้น
ส่วนเศรษฐกิจไทยก็มีสัญญาณดีขึ้นเรื่อย ๆ โดยการส่งออกมีออเดอร์มากขึ้น การผลิตเริ่มดีขึ้น ภาวะการจ้างงานรวมถึงตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นลำดับ โดยภาพรวมแล้วถือเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ถึงการเริ่มฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ในส่วนของตลาดหุ้นไทยนั้นก็มีแนวโน้มที่สดใสตามเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว โดยดูจากผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่เติบโตขึ้น คาดว่าจนถึงสิ้นปีนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยน่าจะยังคงปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องต่อไป
สำหรับสัดส่วนการลงทุนในปัจจุบันของ กบข. (24 ธ.ค.52) ประกอบด้วย ตราสารหนี้ไทยอยู่ที่ร้อยละ 69.49 ตราสารหนี้ต่างประเทศร้อยละ 4.21 อสังหาริมทรัพย์ไทยร้อยละ 4.08 การลงทุนทางเลือกอื่น ๆ ร้อยละ 3.62 ตราสารทุนไทยร้อยละ 9.22 ตราสารทุนต่างประเทศร้อยละ 9.38 ซึ่งถือเป็นการลงทุนส่วนใหญ่ในสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูงและให้ผลตอบแทนที่ค่อนข้างมั่นคง
ในขณะเดียวกันหากพิจารณาผลตอบแทนจากการลงทุนย้อนหลัง 3 ปี (ธ.ค.49-พ.ย.52) ร้อยละ 2.99 ย้อนหลัง 5 ปี (ธ.ค.47-พ.ย.52) ร้อยละ 4.39 และย้อนหลัง 12 ปี (มี.ค.40-พ.ย.52) ร้อยละ 7.12
ยุวพร นนท์ภาษโสภณ (เชอร์รี่)
กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ( กบข.)
Government Pension Fund
Tel. 02-636-1000 Ext.263 , 01-612-2322
Fax. 02-636-1691