ศปถ. เข้มงวดตั้งจุดตรวจบนถนนสายหลัก เน้นตรวจจับรถโดยสาร-รถบรรทุกคน

ข่าวทั่วไป Wednesday December 30, 2009 12:17 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--30 ธ.ค.--ศปถ. ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2553 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนวันแรกของการรณรงค์ (วันที่ 29 ธ.ค. 52) เกิดอุบัติเหตุทางถนนรวม 448 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 40 ราย บาดเจ็บ 496 ราย สาเหตุหลักเกิดจากเมาแล้วขับ ขับรถเร็วเกินกำหนด พร้อมสั่งการจังหวัดเตรียมแผนการจัดการจราจรในเส้นทางสายหลัก เข้มงวดการจัดตั้งจุดตรวจบนถนน สายหลัก ตรวจสอบรถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุกคนจำนวนมาก เน้นการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์และการตรวจจับความเร็ว ตลอดจนกำชับเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจปฏิบัติงานอย่างเข้มข้นในช่วงที่มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุสูง (24.00 — 08.00 น.) เพื่อป้องกันอุบัติเหตุรายใหญ่ นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ประธานแถลงข่าว สถิติอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2553 ประจำวันที่ 30 ธ.ค. 52 เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2553 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนในวันแรกของการรณรงค์ 7 วันขับขี่ปลอดภัย เทิดไทองค์ราชัน (วันที่ 29 ธ.ค.2552) พบว่า เกิดอุบัติเหตุ รวม 448 ครั้ง น้อยกว่าปี 2552 (596 ครั้ง) ลดลง 148 ครั้ง ร้อยละ 24.83 ผู้เสียชีวิต 40 คน น้อยกว่าปี 2552 (56 ราย) ลดลง 16 ราย ร้อยละ 28.57 ผู้บาดเจ็บ 496 คน น้อยกว่าปี 2552 (635 คน) ลดลง 139 คน ร้อยละ 21.89 สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เมาสุรา ร้อยละ 41.29 รองลงมา ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 16.96 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 79.91 ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ 59.38 บนถนนทางหลวงแผ่นดิน ร้อยละ 37.28 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงกลางคืน ร้อยละ 71.88 โดยเฉพาะช่วงเวลา 16.01 — 20.00 น. ร้อยละ 32.92 ผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยแรงงาน อายุ 30 — 39 ปี ร้อยละ 18.84 รองลงมา อายุระหว่าง 40 — 49 ปี ร้อยละ 14.93 จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ จันทบุรี 5 ราย รองลงมา ได้แก่ พิษณุโลก 3 ราย จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต 52 จังหวัด จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ เพชรบูรณ์ 19 คน รองลงมา ได้แก่ ลำปาง และสมุทรสาคร จังหวัดละ 17 คน และจังหวัดที่ไม่มีผู้บาดเจ็บ จำนวน 5 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชัยภูมิ ยโสธร สมุทรสงคราม และอำนาจเจริญ จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ลำปาง 16 ครั้ง รองลงมา จันทบุรี เชียงใหม่ และเพชรบูรณ์ 14 ครั้ง จังหวัดที่ยังไม่เกิดอุบัติเหตุจำนวน 4 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชัยภูมิ ยโสธร และอำนาจเจริญ ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 2,652 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 64,484 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 495,377 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดีตามมาตรการ 3 ม. 2 ข. 1 ร. รวม 47,475 ราย ส่วนใหญ่ไม่มีใบขับขี่ 16,015 ราย คิดเป็นร้อยละ 33.73 รองลงมา ไม่สวมหมวกนิรภัย 13,816 ราย คิดเป็นร้อยละ 29.10 นายอนุชา เปิดเผยต่อไปว่า วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการทำงาน คาดว่าประชาชนจะเริ่มทยอยเดินทางกลับสู่ภูมิลำเนาในช่วงบ่าย ส่งผลให้ถนนสายหลักทุกสายมีปริมาณรถหนาแน่น โดยเฉพาะบนถนนทางหลวงแผ่นดินที่มุ่งสู่ภูมิภาคต่างๆ จึงได้กำชับให้จังหวัดที่มีเส้นทางสายหลักผ่านไปยังจังหวัดใกล้เคียง ประสานหน่วยงานในพื้นที่วางแผนการใช้เส้นทาง การอำนวยความสะดวกในการระบายรถ และพิจารณาเปิดช่องทางเดินรถพิเศษกรณีที่การจราจรคับคั่ง เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการเดินทางของประชาชน โดยต้องคำนึงความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนรวมถึงความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน เป็นหลัก นอกจากนี้ ให้เข้มงวดการตั้งจุดตรวจบนเส้นทางสายหลักเป็นพิเศษ ควบคุมรถโดยสารสาธารณะและรถกระบะที่บรรทุกคนเป็นจำนวนมาก รวมถึงการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์และมาตรการ 3 ม. 2 ข. 1 ร. อย่างจริงจัง โดยเฉพาะเวลากลางคืนตั้งแต่ 20 .00 — 24.00 น. ซึ่งมักเกิดอุบัติเหตุจากการใช้ความเร็วสูง เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุรายใหญ่ ทั้งนี้ ขอให้เจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจและรถตำรวจทางหลวงเปิดไฟสัญญาณกระพริบ เพื่อเตือนผู้ขับขี่มิให้ใช้ ความเร็วสูง รวมถึงให้จุดตรวจ/ด่านตรวจทุกจุด จัดเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานอย่างเข้มข้นในช่วงที่มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุสูง (24.00 — 08.00 น.) เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่มีสาเหตุมาจากการหลับใน สำหรับการให้บริการรถโดยสารสาธารณะ ได้กำชับกรมการขนส่งทางบก ให้ตรวจสอบและควบคุมพนักงานขับรถอย่างเคร่งครัด มิให้ขับรถติดต่อกันนานเกิน 4 ชั่วโมง และจัดให้มีพนักงานขับรถสับเปลี่ยนทุกๆ ระยะทาง 400 กิโลเมตร เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง ของประชาชน ทั้งนี้ ขอฝากเตือนประชาชนที่เดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ ให้ปฏิบัติตามกฎจราจรและมาตรการ 3 ม. 2 ข. 1 ร. อย่างเคร่งครัด คาดเข็มขัดนิรภัยและสวมหมวกนิรภัยทุกครั้งที่ขับขี่หรือโดยสารยานพาหนะ ไม่ขับรถเร็ว ไม่แซง ไม่เปลี่ยนช่องทางหรือหยุดรถกะทันหัน มีมารยาทและน้ำใจให้กับผู้ร่วมใช้เส้นทาง รวมทั้งให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจ เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2553 และถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ