พพ. ชู ข้าวฟ่างหวาน เป็นพืชทางเลือกใหม่ผลิตเอทานอล เตรียมศึกษาวิจัยต่อยอด ก่อนส่งเสริมให้เกษตรกร เพาะปลูกเพื่อเพิ่มความมั่นคงในการผลิตเอทานอล

ข่าวทั่วไป Thursday December 31, 2009 09:00 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--31 ธ.ค.--พพ. นายไกรฤทธิ์ นิลคูหา อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน(พพ.)กระทรวงพลังงานเปิดเผยว่า จากแผนยุทธศาสตร์เพื่อส่งเสริมการใช้แก๊สโซฮอล์ ที่ พพ. ได้ตั้งเป้าหมายที่จะผลิตเอทานอลให้ได้ 3 ล้านลิตรต่อวัน ภายในปี 2554 โดยมีวัตถุดิบหลัก คือ กากน้ำตาล มันสำปะหลัง และอ้อย นั้น แต่ขณะนี้ พพ. ได้เตรียมหาวัตถุดิบทางเลือกอื่น เพื่อที่จะมาเพิ่มประสิทธิภาพของโรงงานผลิตเอทานอล โดยจากการศึกษาและวิจัย พบว่า ข้าวฟ่างหวาน (Sweet sorghum) เป็นพืชชนิดหนึ่งที่มีประสิทธิภาพสูงในการใช้เป็นวัตถุดิบผลิตเอทานอล ทั้งนี้ ในพืชข้าวฟ่างหวาน จะสามารถใช้ประโยชน์จากน้ำคั้นในลำต้น ซึ่งมีรสชาติหวาน คล้ายกับน้ำอ้อย และสามารถให้ผลผลิตลำต้นสด 5 - 10 ตัน/ไร่ ภายในระยะเวลา 100 — 110 วัน ซึ่งลำต้นสด 1 ตันจะ สามารถผลิตเอทานอลได้ประมาณ 60 — 70 ลิตร ใกล้เคียงกับอ้อย โดยข้าวฟ่างหวาน จะใช้เป็นทางเลือกในช่วงฤดูเก็บเกี่ยวข้องทั้งอ้อย และมันสำปะหลัง ที่อยู่ในช่วงใกล้เคียงกันคือ ระหว่างเดือน พฤศจิกายน ถึงเมษายน ซึ่งข้าวฟ่างหวานอาจจะเข้ามาเสริมเป็นทางเลือกหนึ่ง ในช่วงนอกฤดูเก็บเกี่ยวของอ้อยและมันสำปะหลัง เพื่อเพิ่มความมั่นคงด้านวัตถุดิบในการผลิตเอทานอล นอกจากนี้ ด้านการส่งเสริมการเพาะปลูกพืชข้าวฟ่างหวาน นั้น พพ. ได้มีโครงการที่จะศึกษาวิจัยและออกแบบเครื่องเก็บเกี่ยวและหีบน้ำหวานจากข้าวฟ่างหวานต้นแบบทดสอบใช้ในการผลิตเอทานอล ซึ่งภายในปี 2553 นี้ จะใช้งบประมาณจากกองทุนเพื่อการอนุรักษ์พลังงานประมาณ 6 ล้านบาท เพื่อวิจัยการใช้ข้าวฟ่างหวานให้สามารถเป็นพืชทางเลือก เพื่อเสริมเป็นแหล่งวัตถุดิบใหม่ในการผลิตเอทานอลในเชิงพาณิชย์ พร้อมจะได้ต้นแบบโรงงานที่ผลิตเอทานอลโดยใช้ข้าวฟ่างหวาน เป็นวัตถุดิบขนาด 1,000 ลิตรต่อวัน ก่อนที่ พพ.จะมีศึกษาต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมให้การปลูกพืชข้าวฟ่างหวานแบบเชิงพาณิชย์ ต่อไปในอนาคต

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ