กรุงเทพฯ--13 ธ.ค.--เอส.อี.ซี. ออโต้เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส
SECC โชว์ความสำเร็จในงาน Motor Expo 2006 ยอดขายซูเปอร์คาร์-รถประหยัดพลังงานพุ่ง หลังขนรถยนต์ประหยัดพลังงานสายพันธุ์อนาคต และรถยนต์หรูซูเปอร์คาร์ กว่า 40 คัน มาเปิดตัวกับคนไทย ระบุยังครองใจลูกค้าอย่างเหนียวแน่นเพราะเลือกรถยนต์ได้สอดคล้องกับความต้องการ การบริการหลังการขายที่โดดเด่น และชื่อเสียงของบริษัทที่เป็นที่ยอมรับของลูกค้ามาเป็นเวลานาน ล่าสุดตัดสินใจแตกแผนกซูเปอร์คาร์ดูแลตลาดเต็มตัว เชื่อสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าเพิ่มขึ้น
นายไพบูลย์ สุขสุธรรมวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส.อี.ซี. ออโต้เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ SECC กล่าวถึง ความสำเร็จ ภายหลังการเข้าร่วมงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 23 หรือ Motor Expo 2006 ซึ่งจัดขึ้นที่ IMPACT Challenger 3 เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 30 พ.ย.-11 ธ.ค.49 ที่ผ่านมาว่า การร่วมงานมหกรรมยานยนต์ในปีนี้บริษัทได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา ทั้งในแง่ยอดขายและความสนใจต่อรถยนต์ที่นำไปจัดแสดง รวมทั้งเทคโนโลยีด้านยานยนต์ ประเภทประหยัดพลังงาน
สายพันธุ์อนาคต ภายใต้ชื่อเทคโนโลยี “ไฮบริด” ที่บริษัทนำเข้ามาเปิดตัวในงาน Motor Expo 2006 เป็นครั้งแรก
"ในงาน Motor Expo ที่จัดขึ้นครั้งนี้ บูธของ เอส.อี.ซี. ได้รับความสนใจจากลูกค้ากลุ่มเป้ามายเป็นอย่างมาก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ เราได้จัดตกแต่งบูธไว้อย่างโดดเด่น มีเนื้อที่กว้างขวางกว่า 1,800 ตารางเมตร มีรถยนต์ เข้าไปจัดแสดงถึง 40 คัน ประกอบกับ รถยนต์ที่เรานำเข้าไปจัดแสดงยังเป็นรุ่นที่อยู่ในความสนใจของลูกค้า โดยเฉพาะรถยนต์หรูซูเปอร์คาร์ รถยนต์ประเภท MPV (รถยนต์นั่งเอนกประสงค์) และรถยนต์ไฮบริด ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ประหยัดพลังงานที่กำลังอยู่ในความสนใจของประชาชนในขณะนี้"
นายไพบูลย์กล่าวอีกว่า นอกเหนือจาการนำรถยนต์หลากหลายรุ่นที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าไปจัดแสดงแล้ว ชื่อเสียงของ เอส.อี.ซี.กรุ๊ป ที่ได้รับการยอมรับและเป็นที่เชื่อถืออย่างกว้างขวางในกลุ่มลูกค้าก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้บริษัทประสบความสำเร็จในการจัดงานครั้งนี้ เนื่องจากที่ผ่านมา เอส.อี.ซี. ถือเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์ระดับหรู ที่มีการให้บริการก่อนและหลังการขายอย่างโดดเด่น โดยลูกค้าที่จองรถจากในงานสามารถรับรถได้ทันทีโดยไม่ต้องรอ แม้จะเป็นรถยนต์นำเข้าจากต่างประเทศก็ตาม เนื่องจากบริษัทได้บริหารสต็อกรองรับการขยายธุรกิจไว้เป็นอย่างดี ในขณะเดียวกันยังมีโชว์รูมและศูนย์บริการไว้ให้บริการหลังการขายกับลูกค้าถึง 7 แห่ง ครอบคลุมทุกจุดสำคัญของกรุงเทพมหานครและอีก 3 แห่ง ในส่วนภูมิภาคที่เป็นเมืองขนาดใหญ่ จึงทำให้ลูกค้ามั่นใจในการซื้อรถยนต์จาก เอส.อี.ซี.
สำหรับการจัดงาน ในช่วงวันที่ 30 พ.ย.-11 ธ.ค.49 ที่ผ่านมา บริษัทสามารถทำยอดขายได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยคาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้จากการส่งมอบรถยนต์ครบ 500 ล้านบาทภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งรถยนต์รุ่นที่ได้รับความสนใจจากลูกค้ามากที่สุด คือ รถยนต์ในกลุ่มรถยนต์นั่งเอนกประสงค์ หรือ (MPV) ที่ลูกค้าเล็งเห็นถึงความคุ้มค่าในการใช้งาน รถยนต์ซูเปอร์คาร์ และรถยนต์ในกลุ่มประหยัดพลังงานที่ได้รับการพัฒนาให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มสมรรถนะ แต่สามารถประหยัดพลังงานไปในเวลาเดียวกัน ถือเป็นการตอบสนองความต้องการของลูกค้าในยุคน้ำมันแพงได้อย่างลงตัว ซึ่งคาดว่าหลังจากนี้รถยนต์ในกลุ่มดังกล่าวจะได้รับความสนใจจากลูกค้ามากขึ้น
ทั้งนี้ จากความสำเร็จที่เอส.อี.ซี.ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีในงาน Motor Expo 2006 โดยเฉพาะความสนใจในรถยนต์ซูเปอร์คาร์ บริษัทจึงเร่งตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าให้ทันท่วงที เพื่อการเติบโตอย่างต่อเนื่องของธุรกิจในอนาคต โดยได้ตัดสินใจตั้งแผนกรถยนต์ซูเปอร์คาร์ พร้อมศูนย์บริการหลังการขายขึ้นมาสำหรับรถยนต์ประเภทนี้โดยเฉพาะ เพื่อให้แผนการตลาดเป็นไปอย่างต่อเนื่องและชัดเจน ซึ่งจะเริ่มเปิดศูนย์บริการได้ภายในไตรมาสแรกของปี 2550
นอกจากนั้น ในปีหน้าบริษัทฯเตรียมนำรถยนต์รุ่นใหม่เข้ามาจัดจำหน่ายเพิ่มอีกไม่น้อยกว่า 10 รุ่น ในกลุ่มรถยนต์เอนกประสงค์และกลุ่มประหยัดพลังงานที่กำลังอยู่ในความสนใจของลูกค้า พร้อมให้ความสำคัญกับการร่วมงานจัดแสดงรถยนต์ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคมากขึ้น เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าได้ทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยในระหว่างวันที่ 15-24 ธันวาคมนี้ บริษัทได้เข้าร่วมงาน ขอนแก่น Motor Show 2006 ที่ศูนย์การค้าโลตัส ขอนแก่น ผ่านบริษัทผู้แทนจำหน่ายในจังหวัดขอนแก่น ซึ่งคาดว่าจะได้รับการต้อนรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี เช่นเดียวกับงานมหกรรมรถยนต์อื่นๆ ที่ผ่านมา