“อาหารญี่ปุ่น” แรง! รับกระแสรักษ์สุขภาพชาวไทย เปิดใจ นักชิม “อร่อย สะอาด สุขภาพดี ชีวียืนนาน”

ข่าวทั่วไป Tuesday January 24, 2006 16:02 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--24 ม.ค.--โปรคอมมิวนิเคชั่นส์ แอนด์ คอนซัลแตนท์
อานิสงส์ จาก หนัง ละคร วัฒนธรรม เจ-ป็อป ที่นับวันจะได้รับความนิยมมากขึ้น ส่งผลให้อาหารญี่ปุ่น ที่เข้ามาบุกตลาดในเมืองไทยเมื่อหลายปีก่อน ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเป็นเงาตามตัว ผนวกกับกระแสรักษ์สุขภาพของชาวไทย ที่ถูกปลุกให้ตื่นตัวด้วยนโยบายฮับสุขภาพของรัฐบาล อาหารทรงคุณค่าไขมันต่ำจากแดนดินถิ่นปลาดิบ จึงกลายเป็นแฟชั่น “เฮลทธ์ ฟู้ด” (Health Food) ของชาวไทยใจซากุระไปแล้วในยุคปัจจุบัน
จากการสำรวจสภาพธุรกิจอาหารญี่ปุ่นในเมืองไทย ขององค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น เจโทร ประเทศไทย) พบสาเหตุที่อาหารญี่ปุ่นได้รับความสนใจสูง มาจาก 1.การที่ผู้คนหันมาให้ความสนใจกับสุขภาพของตนเองมากขึ้น เพราะว่าอาหารญี่ปุ่นส่วนมากประกอบไปด้วยอาหารทะเล เช่น ปลา ซึ่งมีไขมันต่ำ ไม่สร้างอันตรายต่อสุขภาพ อีกทั้งอาหารฟาสต์ฟูดส์ในเมืองมีราคาสูงขึ้นด้วย 2.ความหลากหลายของอาหาร เนื่องมาจากญี่ปุ่นมีความหลากหลายของอากาศทำให้ในแต่ละฤดู อาหารจะมีความแตกต่างกันไป ซึ่งความหลากหลายนี้เป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้บริโภคที่ต้องการหนีความจำเจหันมาทานอาหารญี่ปุ่นมากขึ้น 3.การออกแบบบรรจุภัณฑ์อาหารแปรรูปที่สวยงาม ดึงดูดให้จับจ่าย เช่น ขนม บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ทั้งนี้กระแสส่วนหนึ่งมาจากภาพยนตร์และละคร รวมทั้งการ์ตูนจากญี่ปุ่นก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้กลุ่มวัยรุ่น คนทำงาน สนใจที่จะหาซื้อเพื่อให้ทันยุคสมัย
ในยุคที่กระแสวัฒนธรรมต่างชาติไหลบ่าท่วมท้นไปทุกส่วนของวิถีชีวิตโดยไม่มีหนทางปฏิเสธนั้น จะมีทางใดที่ดีไปกว่าการปรับตัวและตั้งรับการเปลี่ยนแปลง เพื่อให้มีวิถีที่สอดคล้องกัน วิถีการกินซึ่งเป็นวิถีหลักของชีวิตชาวไทยมาตั้งแต่สมัยโบราณนั้น ก็เฉกเช่นกลไกอื่นๆ ที่มีการปรับเปลี่ยนไปตามกระแสโลกในยุคปัจจุบัน
ม.ล.ภาสันต์ สวัสดิวัตน์ หรือ “ปิ่นโตเถาเล็ก” ของ ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัตน์ และในฐานะนักชิมที่ขึ้นชื่อลือนาม กล่าวถึงอาหารญี่ปุ่นว่า “ชอบทานอาหารญี่ปุ่นตั้งแต่เด็กๆ คือตั้งแต่จำความได้ก็ชอบทานมาตลอด จะมีร้านประจำคือ ไดมารู สมัยก่อนอยู่ฝั่งเวิล์ดเทรด และอีกร้านคือ ฮานาญ่า แถวสี่พระยา เป็นร้านแรกของประเทศไทย ที่ชอบทานอาหารญี่ปุ่นเพราะมีอาหารหลากหลาย ทั้งปลาดิบ สุกี้ ซูชิ ข้าวปั้น ที่สำคัญรสชาติไม่จัด ทานได้เรื่อยๆ แต่ที่ชอบที่สุดคือ เนื้อโกเบ แต่ทานได้ไม่บ่อยเพราะราคาค่อนข้างสูง และอีกประเภทที่ชอบคือข้าวหน้าปลาไหล มีชื่อมากที่เมืองมาริตะ ของญี่ปุ่น สำหรับคุณค่าทางอาหารของอาหารญี่ปุ่นก็มีมาก เพราะส่วนใหญ่จะเป็นอาหารทะเล ไม่ค่อยมันมาก ย่อยง่าย”
คุณทิพยนิภา (ไกรฤกษ์) สมะลาภา “ปกติเป็นคนที่ชอบอาหารทะเลอยู่แล้ว และอาหารญี่ปุ่นส่วนใหญ่ก็จะเป็นอาหารทะเล ทำให้เรายิ่งชอบชอบทานอาหารญี่ปุ่นมากขึ้น ชอบทานทั้งครอบครัวเลย เพราะคุณพ่อเคยเป็นเอกอัครราชทูตที่ประเทศญี่ปุ่น ทำให้เรามีโอกาสได้ไปที่ญี่ปุ่นบ้างแต่ไม่บ่อย ได้ไปทานอาหารญี่ปุ่นหลายแห่ง ซึ่งรสชาติดีสดอร่อยๆ มาก ส่วนเมนูที่ชอบทานคือ ปลาดิบ, ซูชิ, โซบะ อุด้ง และเนื้อโกเบ เกือบจะทุกอย่างเลย ส่วนขนมก็ชอบขนมโมจิ, ถั่วแดงร้อน และชาเขียว และสาเหตุที่ชอบอีกอย่างคือรู้สึกว่าอาหารญี่ปุ่นทานแล้วดีต่อสุขภาพ เพราะเห็นคนญี่ปุ่นเขาแข็งแรงอายุยืนกันทั้งนั้น”
นักโภชนาการหลายท่าน บอกว่าอาหารคือยา แต่ยาไม่ใช่อาหาร ดังนั้นการรับประทานอาหารที่ทั้งอร่อยด้วยและรักษาโรคภัยด้วย จึงเป็นเรื่องความภิรมย์ของนักชิมทั้งหลาย และหากพูดถึงอาหารญี่ปุ่นแล้วไม่พูดถึง “เทศกาลอาโอโมริ” ก็คงจะไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้แน่ๆ ม.ล.ภาสันต์ บอกว่า “เคยไปร่วมเทศกาลอาหารอาโอโมริ เมื่อปีที่แล้ว ชอบมากเพราะได้ชิมอาหารอร่อยๆหลายอย่าง เช่น หอย, ซูชิ, ปลาดิบ อยากให้มาร่วมงานกันเยอะๆ เพราะอาหารเขาอร่อยและดีจริงๆ ราคาก็ไม่แพงมาก ส่วนด้านการเติบโตของอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทย คิดว่ายังโตได้อีกมาก เพราะมีเมนูอาหารให้เลือกเยอะ กินง่าย มีแบ่งเป็นชุด ดูดี แล้วราคาก็ไม่แพงมาก คนไทยมีกำลังซื้อทานได้”
เทศกาลอาหาร “AOMORI Japan Fair 2006” จัดให้มีขึ้นระหว่าง 27 มกราคม — 5 กุมภาพันธ์ 2549 ห้างสรรพสินค้าอิเซตัน ราชดำริ ชั้น 5 จะยกขบวนสารพัดผลิตภัณฑ์ชื่อดังของ “อาโอโมริ” มาให้คนไทยได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิด ทั้งอาหารทะเลสดๆ หอยเชลล์-กุ้ง-ปลาหมึกยักษ์ปรุงรส, ไข่ปลาแซลมอน, สาหร่ายทะเล, อิกะเมชิ หรือ ปลาหมึกสอดไส้ข้าวเหนียวญี่ปุ่นย่างซีอิ๊ว พร้อมสินค้าการเกษตรมากมาย อาทิ มันนากาอิโมะ อาหารเพื่อสุขภาพที่มีในอาโอโมริเพียงแห่งเดียว, แอปเปิ้ลนานาพันธุ์จากแหล่งปลูกแอปเปิ้ลที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ฯลฯ พร้อมชมการสาธิตทำขนมโมจิจากร้านโมจิ “คิตาว่าโชเตน” ทั้งยังจัดช่างฝีมืองานศิลป์มาสาธิตการทำตุ๊กตา “โคเคชิ” งานศิลปหัตถกรรมพื้นเมืองของอาโอโมริ และชมการแสดงเครื่องดนตรี “สึงารุ ชามิเซน” โดยนักบรรเลงพิณญี่ปุ่นชื่อดัง ยามากามิ ซูซูมุ
ฝ่ายประชาสัมพันธ์งาน
บริษัท โปรคอมมิวนิเคชั่นส์ แอนด์ คอนซัลแตนท์ จำกัด
โทรศัพท์ 0 2691 6302-4, 0 2274 4961-2
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ