กรุงเทพฯ--7 ม.ค.--สป.พม.
สำนักงานธนานุเคราะห์ ปรับแผนปี’53 ลดดอกเบี้ย 0% เดือนแรก สำหรับวงเงินไม่เกิน 5 พันบาทแรก บรรเทาความเดือดร้อนประชาชนผู้มีรายได้น้อยในช่วงเวลาที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจ พร้อมเตรียมเงิน 800 ล้านบาท ไว้บริการประชาชนที่คาดว่าจะมีเข้าใช้บริการเพิ่มขึ้น 10%
นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยว่า ในสภาวะที่ประชาชนกำลังเผชิญกับปัญหาค่าครองชีพสูงขึ้น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนด้านการเงินของประชาชนที่มีรายได้น้อย และช่วยแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าให้ประชาชนมีทางเลือกเพิ่มขึ้น ไม่ต้องไปบริการเงินกู้นอกระบบ พม. โดยคณะกรรมการอำนวยการสำนักงานธนานุเคราะห์ ได้มีมติเห็นชอบให้สำนักงานธนานุเคราะห์ ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจ สังกัด พม. ให้บริการรับจำนำทรัพย์สินของประชาชนโดยคิดอัตราดอกเบี้ยต่ำ เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่มีรายได้น้อย ด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยรับจำนำลงเหลือ 0% ในเดือนแรก สำหรับวงเงินจำนำไม่เกิน 5,000 บาทแรก ระหว่าง 1 มกราคม - 30 กันยายน 2553 โดยกำหนดอัตราดอกเบี้ยการรับจำนำ ไว้ดังนี้
1. เงินต้นไม่เกิน 5,000 บาท
1.1 จำนำน้อยกว่า 3 เดือน ดอกเบี้ย 0.50 % ต่อเดือน
1.2 จำนำ 3 เดือน
- เดือนแรก ดอกเบี้ย 0 %
- เกินกว่า 1 เดือน แต่ไม่เกิน 3 เดือน ดอกเบี้ย 0.50 % ต่อเดือน
1.3 จำนำเกินกว่า 3 เดือน ดอกเบี้ย 0.50 % ต่อเดือน
2. เงินต้น 5,001 — 10,000 บาท ดอกเบี้ย 0.75 % ต่อเดือน
3. เงินต้น 10,001 — 20,000 บาท ดอกเบี้ย 1 % ต่อเดือน
4. เงินต้น 20,001 — 60,000 บาท ดอกเบี้ย 1.25 % ต่อเดือน
นายอิสสระ กล่าวด้วยว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้ พม. โดยสำนักงานธนานุเคราะห์ ได้เตรียมเงินจำนวน 800 ล้านบาท เพื่อให้บริการประชาชน คาดว่าจะมีประชาชนมาใช้บริการและปริมาณวงเงินการรับจำนำเพิ่มจากปี 2552 ประมาณ 10% จากปัจจุบันที่มีประชาชนมาใช้บริการ 1 ล้านคน คิดเป็นวงเงินรับจำนำประมาณ 1.3 หมื่นล้านบาท โดยเป็นยอดคงค้างที่ยังมีสินทรัพย์อยู่กับโรงรับจำนำของรัฐประมาณ 3 แสนราย คิดเป็นมูลค่าประมาณ 4,000 ล้านบาท ขณะเดียวกันก็เตรียมขยายวงเงินการรับจำนำต่อตั๋วรับจำนำจากเดิมกำหนด 6 หมื่นบาท เป็น 1 แสนบาท เนื่องจากราคาทองปรับตัวสูงขึ้น และเพื่อรองรับลูกค้าที่นำทองคำขนาดน้ำหนัก 5 บาท มาจำนำ เพื่อขยายฐานลูกค้าไปยังผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมาใช้บริการมากขึ้น