กรุงเทพฯ--7 ม.ค.--คูดี
ไปรษณีย์ไทยจัดสร้างตราไปรษณียากรที่ระลึกสำมะโนประชากรและเคหะ พ.ศ 2553 ของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ในวาระพิเศษครบครอบ 100 ปีของการทำสำมะโนประชากรประเทศไทยในปีนี้ พร้อมต้อนรับสถิติใหม่จำนวนประชากรในประเทศไทย 70 ล้านคนแล้ว
นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท ) กล่าวในพิธีเปิดตัวตราไปรษณียากรที่ระลึกดังกล่าวร่วมกับสำนักงานสถิติแห่งชาติ โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารให้เกียรติเป็นประธานเปิดวันนี้ (5 ม.ค.) ว่า แสตมป์ชุดดังกล่าวนับเป็นชุดที่ 4 ของแสตมป์
สำมะโนประชากรฯที่เคยจัดสร้างมา โดยชุดแรกเริ่มเมื่อปี 2503 ราคา 75 สตางค์ ดวงที่ 2 ปี 2513 ราคา 1 บาท และแสตมป์สำมะโนประชากรดวงที่ 3 จัดสร้างในปี 2533 ราคา 2 บาท หลังจากนั้นก็ห่างมานานถึง 20 ปีจนถึงชุดนี้
“สำหรับในปี 2553 เป็นโอกาสที่มีการจัดทำสำมะโนประชากรและเคหะในประเทศไทยครั้งที่ 11 อีกทั้งยังเป็นปีครบรอบ 100 ปีพอดี นับตั้งแต่มีการจัดทำสำมะโนประชากรฯครั้งแรกในประเทศไทยในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ เป็นต้นมา โดยเราได้นำภาพ
คนและบ้านเรือนในประเทศ พร้อมตราสัญลักษณ์ของสำมะโนประชากรและเคหะมาสื่อความหมายบนดวงแสตมป์ จึงเป็นแสตมป์อีกชุดที่ควรค่าแก่การสะสมอย่างยิ่ง ผู้สนใจสามารถหาซื้อได้ที่ไปรษณีย์ทุกแห่งทั่วประเทศตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปโดยมีซองวันแรกจำหน่าย 10 บาทด้วย”
นางจีราวรรณ บุญเพิ่ม ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ (สสช.) กล่าวเสริมว่า สสช.ได้เริ่มรณรงค์นับถอยหลังการทำสำมะโนประชากรและเคหะปี 2553 มาตั้งแต่ 1 ก.ค.ปีที่แล้ว ก่อนจะถึง 1 ก.ค.ปีนี้ ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นจัดทำสำมะโนประชากรครั้งใหม่ โดยใช้เวลาจนถึง 31 ก.ค. 2553
การออกแสตมป์ที่ระลึกครั้งนี้จะช่วยสร้างการรับรู้และกระตุ้นการมีส่วนร่วมของประชาชนทั่วประเทศได้เป็นอย่างดี และนอกจากเป็นสัญลักษณ์ในวาระครบ 100 ปีแห่งการสำมะโนประชากรในไทยที่จะกำลังจะมาถึงนี้แล้ว ยังมีคุณค่าควรแก่การสะสมเป็นที่ระลึกสำหรับนักสะสม ตลอดจนผู้ที่มีส่วนร่วมในการให้ความร่วมมือในการทำสำมะโนประชากรครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญครั้งหนึ่งของประเทศ
“การทำสำมะโนประชากรและเคหะจะทำทุก 10 ปี ในปี ค.ศ.ที่ลงท้ายด้วยเลข 0 ซึ่งตรงกับปี พ.ศ.2553 หรือ ค.ศ.2010 นั่นเอง ข้อมูลที่ได้ไม่เพียงสามารถนำมาใช้ช่วยตัดสินใจการทำแผนงานต่างของภาครัฐและเอกชน เพื่อผลประโยชน์เหล่านั้นจะตกแก่ประชาชนคนไทยโดยรวมแล้ว ยังสามารถใช้ในการเปรียบเทียบคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชากรในประเทศต่างๆ ในช่วงเวลาเดียวกันได้ด้วย”
ทั้งนี้ จากการคาดประมาณประชากรของประเทศไทย พ.ศ. 2543-2573 สำหรับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 10 (พ.ศ. 2550-2554) ระบุจำนวนประชากร ณ สิ้นปี 2552 ไว้ที่ 67 ล้านคน ซึ่งหลังเสร็จสิ้นภารกิจการทำสำมะโนประชากรครั้งนี้แล้ว คาดว่าจำนวนประชากรทั้งหมดของประเทศไทยน่าจะมีประมาณเกือบถึง 70 ล้านคน
ภวิตรา
บริษัท คูดี จำกัด
ที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์ ปณท
โทรศัพท์ : 0-2960-0262-4