กรุงเทพฯ--8 ม.ค.--ซีพีเอฟ
นายวีรชัย รัตนบานชื่น รองกรรมการผู้จัดการบริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด(มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ซีพีเอฟโดยโรงงานอาหารสัตว์บางนา กม.21 ในสังกัดบริษัท กรุงเทพผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด ได้รับเลือกจากสมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) หรือสสท. ให้ได้รับรางวัล Golden Award จากการประกวด Thailand 5S Award
Thailand 5S Award โดยสสท.เป็นองค์กรและเวทีแข่งขันเดียวในประเทศไทยที่สามารถออกใบรับรองให้กับองค์การต่างๆในการดำเนินกิจกรรม 5ส เพื่อรับรองการมุ่งสร้างหน่วยงานให้เกิดความปลอดภัย มีมาตรฐาน ถูกสุขลักษณะ ประหยัดทรัพยากร ลดปัญหามลภาวะและความสูญเปล่าของกระบวนการทำงาน โดยก่อให้เกิดผลดีต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมไปกับการเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการทำงาน ซึ่งส่งผลให้เกิดความน่าเชื่อถือในด้านคุณภาพ จึงอาจกล่าวได้ว่าองค์กรที่ได้รับรางวัล Thailand 5S Award เป็นหน่วยงานที่พร้อมสร้างการเรียนรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่เกิดขึ้นจริง โดยมุ่งหน้าสู่การผลิตแบบ Skill Management และระบบบริหารระดับสูง เช่น TPM และ TQM อันเป็นปัจจัยที่ทำให้การดำเนินกิจกรรม 5ส สามารถพัฒนาขึ้นสู่ระดับสากล ตลอดจนเป็นแนวทางประยุกต์ใช้ให้องค์กรต่าง ๆ สามารถพัฒนาจากรากฐานไปสู่ความสำเร็จได้
สำหรับโรงงานแห่งนี้นับเป็นโรงงานแห่งแรกของเครือเจริญโภคภัณฑ์ที่ผลิตอาหารสัตว์บก ปัจจุบันมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 50,000 ตันต่อเดือน ทำการผลิตอาหารสุกร ไก่ เป็ด และไก่ชน ในสัดส่วน 57.92% 37.79% 2.05% และ0.19% ตามลำดับ ในรูปแบบอาหารเม็ด อาหารผง และหัวอาหาร เพื่อจำหน่ายในประเทศ ภายใต้วิสัยทัศน์กระบวนการผลิตว่าด้วยสินค้าและบริการที่ลูกค้าพึงพอใจ พร้อมสภาพแวดล้อมที่ดีในการทำงานโดยได้รับการรับรองมาตรฐานสากลอย่างครบถ้วน อาทิ ISO9002:1994, SAFETY AWARD, GMP, HACCP, ISO9001:2000, LEAN BEST PRACTICE ,ISO 14001 รวมถึง THAILAND 5S AWARD
ทั้งนี้ โรงงานอาหารสัตว์บางนา กม.21 ได้ดำเนินกิจกรรม 5ส โดยผู้บริหารและพนักงานทุกระดับในองค์กร นำระบบ 5ส มาเป็นพื้นฐานในการปรับปรุงสภาพแวดล้อมและวิธีการทำงานให้ดีขึ้น เพื่อให้ได้มาซึ่งประสิทธิภาพประสิทธิผล และคุณภาพสินค้าที่ดีในสภาวะแวดล้อมที่ปลอดภัย ด้วยการพัฒนาคุณภาพสินค้า บริการ และบุคลากรให้มีความรู้ และทักษะต่างๆ
นายวีรชัย กล่าวด้วยว่า ผลจากการดำเนินระบบ 5ส ทำให้ค่าเฉลี่ยเปอร์เซ็นต์ Breakdown ของเครื่องผสมอาหารลดลง (ในปี 49 ลดลงจากปี 48 ถึง 91 % ) ส่งผลให้เครื่องผสมมีประสิทธิภาพในการผลิตมากขึ้น ด้านต้นทุน สามารถลดเปอร์เซ็นต์สินค้าที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนดได้ (ลดลงในปี 49 เทียบจากปี 48 ถึง 65 %) ด้านการส่งมอบ สามารถทำให้ลูกค้ารอรับอาหารภายในโรงงานไม่เกิน 45 นาที จาก 1 ชั่วโมง ด้านความปลอดภัยในการทำงาน อุบัติเหตุขั้นหยุดงานเป็น 0 และสถิติการเกิดอุบัติเหตุที่ไม่หยุดงานลดลง ( ในปี 49 เทียบกับปี 48 ลดลง 50 %) ซึ่งสามารถสร้างขวัญกำลังใจ ให้ผู้บริหารและพนักงานมีความตระหนักตลอดจนให้ความสำคัญในการเข้าร่วมกิจกรรม 5ส ภายใต้สภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย
นอกจากนี้ นายวีรชัย ยังกล่าวอีกว่า ในส่วนของธุรกิจเกษตรปีนี้ นับว่าเป็นปีทองของธุรกิจอาหาร เพราะเป็นปีที่หลายประเทศประสบกับภัยต่างๆ จากภาวะโลกร้อน จึงเป็นโอกาสของผลผลิตอาหารของประเทศไทย ที่ได้รับความยอมรับในตลาดโลก ซึ่งซีพีเอฟจะหันมาเน้นการเพิ่มมูลค่าสินค้าให้มากขึ้น และจำหน่ายภายใต้แบรนด์ซีพี สำหรับธุรกิจอาหารสัตว์ของซีพีเอฟในปี 2553 นี้คาดว่าจะมียอดขายที่ทรงตัว หรือถ้าเติบโตก็คงไม่มากนัก ประมาณ 3-5 %
สำนักสื่อสารและประชาสัมพันธ์ CPF
โทร.02-625-7344-5, 02-631-0641, 02-638-2713
e-mail: pr@cpf.co.th