กรุงเทพฯ--22 พ.ค.--ไพลอน
PYLON คว้างานอีก 3 โครงการ จำนวน 102.83 ล้านบาท รวมตั้งแต่ต้นปีรับงานเข้ามาทั้งหมด 11 โครงการ จำนวนรวม 296.8 ล้านบาท เผยงานใหม่จะรับรู้รายได้ภายในไตรมาส2และ3ปีนี้ คาดรายได้ไตรมาสนี้อยู่ที่ 150-170 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 200% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ที่ 47 ล้านบาท และตั้งเป้ารายได้ทั้งปี อยู่ที่ 550-600 ลบ.
นายชเนศวร์ แสงอารยะกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไพลอน (PYLON) เปิดเผยว่าในขณะนี้บริษัทฯได้รับงานก่อสร้างโครงการใหม่ 3 โครงการคือ 1.โครงการศูนย์ราชการแห่งใหม่ สัญญาที่2 ถนนแจ้งวัฒนะ มูลค่า 42.51 ล้านบาท 2.โครงการคอนโดมิเนียม เอ็มโพริโอ เพลส สุขุมวิท 24 มูลค่า 56.71 ล้านบาท และ3.โครงการเข้า-ออกอาคารสินค้าในประเทศ สนามบินสุวรรณภูมิ มูลค่า 3.61 ล้านบาท โดยคิดเป็นมูลค่ารวมทั้งหมด3โครงการเท่ากับ 102.83 ล้านบาท
สำหรับทั้ง 3 โครงการ PYLON จะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 2-3 ปีนี้ โดยโครงการ ศูนย์ราชการจะรับรู้รายได้ในไตรมาส2/49 ประมาณ 30% และอีก 70% รับรู้ในไตรมาส 3/49,โครงการคอนโดมิเนียม เอ็มโพริโอ เพลส จะรับรู้รายได้ในไตรมาส2 และ 3 ไตรมาสละ50% และโครงการทางเข้า-ออกอาคารสินค้าในประเทศสนามบินสุวรรณภูมิ จะรับรู้รายได้ในไตรมาส2/49 ทั้งหมด 100% ดังนั้นคาดว่าจะส่งผลให้รายได้ในไตรมาส 2/49 เติบโตขึ้น 200%จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 47 ล้านบาท
เขากล่าวต่อว่าตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน บริษัทฯได้รับงานมาทั้งหมด 11 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งหมด 296.8 ล้าน คือ1. งานเสาเข็มเจาะโครงการศูนย์ราชการแห่งใหม่ ถนนแจ้งวัฒนะ มูลค่า 42.5 ล้านบาท , 2.งานเสาเข็มเจาะโครงการคอนโดมิเนียม เอ็มโพริโอ เพลส ซอยสุขุมวิท 24 มูลค่า 56.7 ล้านบาท ,3.งานก่อสร้างอาคารพาณิชย์ โครงการตักสิลานครมหาสารคาม มูลค่า 33.6 ล้านบาท ,4. งานเสาเข็มดินซีเมนต์โครงการระบายน้ำบริเวณสนามบินสุวรรณภูมิ มูลค่า107.0 ล้านบาท , 5. งานเสาเข็มเจาะโครงการวงแหวนรอบนอกด้านใต้ มูลค่า 16.05 ล้านบาท ,6. งานเสาเข็มเจาะโครงการคอนโดมิเนียม แอล.พี.เอ็น. สะพานควาย มูลค่า 13.42 ล้านบาท , 7. งานเสาเข็มเจาะโครงการโรงแรมแมริออทต์ คอร์ต ยาร์ต มูลค่า 4.4 ล้านบาท ,8. งานเสาเข็มดินซีเมนต์โครงการก่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมบริเวณริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาและคลองมหาสวัสดิ์ มูลค่า 7.5 ล้านบาท , 9. งานเสาเข็มเจาะโครงการ BTS ส่วนต่อขยายสายสีลม มูลค่า 7.8 ล้านบาท ,10. งานเสาเข็มเจาะโรงงาน NPC เฟส 3 มูลค่า 4.3 ล้านบาท และ11.งานเสาเข็มดินซีเมนต์ โครงการทางเข้า-ออก อาคารสินค้าในประเทศมูลค่า 3.6 ล้านบาท
"โครงการทั้งหมดสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการที่มีต่อไพลอน ทำให้บริษัทฯสามารถชนะการประมูลและได้รับงานใหญ่ๆอย่างต่อเนื่อง และหลังจากนี้เชื่อมั่นว่า บริษัทยังจะได้รับงานใหม่ๆ เข้ามาอีกอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้บริษัทมีงานประมูลที่รออยู่อีก 500-600 ล้านบาท ส่วนเป้าหมายในปี 2549 คาดว่ารายได้จะขยายตัวจากปีก่อนอย่างมาก โดยคิดเป็นมูลค่ารวมทั้งปีประมาณ 550-600 ล้านบาท "นายชเนศวร์กล่าว
สำหรับกรณีที่โครงการ Mega Project ได้เลื่อนออกไปจากปัญหาทางการเมือง PYLON มั่นใจว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของบริษัทฯแต่อย่างใด เนื่องจากบริษัทฯมีงานของภาครัฐที่เซ็นสัญญาไว้อยู่แล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงดำเนินการ อีกทั้งยังมีการรับงานของเอกชนเพิ่มเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ส่วนปัญหาราคาน้ำมันและราคาเหล็กที่มีแนวโน้มปรับเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น ส่งผลกระทบต่อต้นทุนของบริษัทฯไม่มากนัก เนื่องจากทำให้ต้นทุนทางตรง และทางอ้อมเพิ่มขึ้น แต่บริษัทฯได้พยายามลดการใช้พลังงานและค่าใช้จ่ายรวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เพื่อชดเชยต้นทุนที่อาจจะสูงขึ้น รวมถึงมีการปรับราคางานขึ้นบางส่วนเพิ่มขึ้น อีกทั้งการดำเนินงานในแต่ละ โครงการใช้ระยะเวลาไม่นานหรือประมาณ 3-4 เดือนต่อโครงการเท่านั้น บริษัทฯจึงสามารถเปลี่ยนแปลงราคาขายสำหรับโครงการใหม่ให้เป็นไปตามสถานการณ์ราคาน้ำมันและราคาเหล็กที่เพิ่มขึ้นได้
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :
คุณวลีรัตน์ เชาวนวิหานนท์ โทรศัพท์ 01-2777871