กรุงเทพฯ--8 ม.ค.--คต.
นายวิจักร วิเศษน้อย อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2552 คณะกรรมาธิการยุโรปได้ประกาศ Commission Decision ว่าด้วยการจัดทำเกณฑ์ทางนิเวศน์วิทยากรณีการปิดฉลาก Eco-Label สำหรับผลิตภัณฑ์ปูพื้นทำจากสิ่งทอ หมายถึง พรมประเภทต่างๆ ที่ใช้ปูพื้นโดยตรึงด้วยลวดเย็บหรือกาวต้องสอดคล้องตามเกณฑ์ที่ปรากฏในภาคผนวกของ Decision ดังกล่าว ซึ่งหลักเกณฑ์ทางนิเวศน์วิทยา (Ecological Criteria) รวมทั้งการประเมินที่เกี่ยวข้องและข้อกำหนดในการตรวจพิสูจน์จะมีผลบังคับใช้ 4 ปี นับจากวันที่ได้จดแจ้งต่อ Decision ฉบับนี้ และกำหนดให้สินค้ากลุ่มดังกล่าวต้องใช้เลขรหัส (Product Group Code Number) 34 เพื่อแสดงถึงการลดผลกระทบที่มีต่อพืช สัตว์ ทรัพยากรที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการลดการใช้พลังงานการปล่อยของเสียและสารที่ทำลายสิ่งแวดล้อม การใช้สารอันตรายในวัสดุที่ใช้ในการผลิตและผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้าย อีกทั้งความปลอดภัยและการปราศจากความเสี่ยงต่อสุขภาพมนุษย์ในสิ่งแวดล้อมที่อาศัยอยู่ และเป็นข้อมูลสำหรับผู้บริโภคในการใช้ผลิตภัณฑ์อย่างมีประสิทธิภาพที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด
อย่างไรก็ดี การประเมินความสอดคล้องและการตรวจพิสูจน์ต้องดำเนินการโดยห้องปฏิบัติการที่ได้รับการรับรอง และสอดคล้องกับข้อกำหนดทั่วไปของมาตรฐาน EN ISO 17025 ที่ระบุไว้ในแต่ละหัวข้อของเกณฑ์ในภาคผนวกของ Decision ฉบับนี้ สำหรับเกณฑ์ตามภาคผนวกของ Decision ประกอบด้วย 6 หัวข้อหลัก ได้แก่
1. วัตถุดิบ (Raw Materials) ประกอบด้วย ข้อกำหนดทั่วไป และข้อกำหนดเกี่ยวกับสารเคมีในเส้นใยสิ่งทอและสารอันตราย
2. การผลิตวัสดุทั้งหมด (Production of All Materials) ประกอบด้วย ข้อกำหนดเกี่ยวกับสารหน่วงการติดไฟ สาร Plasticizers ข้อห้ามสารเคมีที่ใช้เป็นตัวช่วย (Auxiliaries) ในกระบวนการเตรียมการย้อม การพิมพ์หรือการตกแต่ง ข้อห้ามเกี่ยวกับวิธีการย้อมและสีย้อม เกณฑ์ในการปล่อยน้ำเสียรวมถึงกำหนดสารซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม และสารช่วยย้อม ข้อกำหนดการย้อมสีแบบ Metal Complex Dyes เกณฑ์การใช้พลังงาน
3. ข้อกำหนดในขั้นตอนการใช้ประโยชน์ (Use Phase) โดยมีการกำหนดเพดานในการปล่อยสารอันตราย
4. ความเหมาะสมกับการใช้งาน (Fitness for Use) ต้องแสดงถึงหลักฐานที่ใช้รวมถึงข้อมูลจาก ISO, CEN หรือวิธีการทดสอบที่เทียบเท่า ดังเช่น ขั้นตอนการทดสอบระดับชาติ
5. ข้อมูลผู้บริโภค (Consumer Information) ต้องแสดงถึงการวางจำหน่ายสินค้าต้องใช้ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์ทั่วไปและการใช้ประโยชน์ทางเทคนิค รวมถึงการดูแลบำรุงรักษา โดยให้ข้อมูลทั้งบนหีบห่อและ/หรือเอกสารกำกับสินค้า
6. ข้อมูลบนฉลาก Eco-Label (Box 2) ต้องระบุข้อความต่อไปนี้
6.1 Hazardous and Toxic Substance Restricted
6.2 Production Process Energy Saving
6.3 Limited Pollutant Emissions to Water
6.4 Lower Risk to Health in the Living Environment
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่สนใจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://eur-lex.europa.eu/LexUriServ/LexUriServ.do?uri=OJ:L:2009:332:0001:0016:EN:PDF