The Texas Chainsaw Massacre: The Beginning เปิดตำนาน สิงหาสับ ร่วมเป็นพยาน...จุดกำเนิดความสยอง

ข่าวทั่วไป Tuesday November 14, 2006 11:46 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 พ.ย.--สหมงคลฟิมล์
เป็นเวลากว่า 3 ทศวรรษแล้วที่ The Texas Chainsaw Massacre ดำรงตำแหน่งภาพยนตร์ที่น่ากลัวที่สุดเรื่องหนึ่งในประวัติศาสตร์ นับตั้งแต่ที่หนังออกฉายครั้งแรกในปี 1974 บรรดาสาวกต่างก็ถกเถียงกันถึงต้นกำเนิดของเรื่องราว วันนี้ New Line Cinema ร่วมด้วยผู้อำนวยการสร้าง ไมเคิล เบย์ จึงตัดสินใจขุดคุ้ยต้นตอความสยองขึ้นจอใหญ่ภายใต้ชื่อโปรเจ็ค The Texas Chainsaw Massacre: The Beginning อำนวยการผลิตโดยบริษัท A Platinum Dunes / Next Entertainment และ Vortex / Henkel / Hooper Production
ผู้อำนวยการสร้างจาก The Texas Chainsaw Massacre ฉบับรีเมค ปี 2003 กลับมาถ่ายทอดตำนานเลื่อยไฟฟ้าฉบับปฐมบทอีกครั้ง เพื่อเปิดเผยจุดเริ่มต้นความซาดิสม์ของครอบครัวฮิววิตต์ และเป็นครั้งแรกที่ผู้ชมจะได้เห็นต้นกำเนิดของไอ้เลื่อยไฟฟ้าหน้ากากหนัง ที่ถือเป็นตัวละครอมตะของวงการหนังสยองขวัญ
เรื่องย่อ
ปี 1969 สงครามเวียดนามทำให้อเมริกาสูญเสียทหารไปจำนวนมาก ดีน ฮิลล์ (เทย์เลอร์ แฮนด์ลี่ย์) หนุ่มวัย 18 ปี จึงต้องไปเกณฑ์ทหารรับใช้ชาติ แต่ก่อนที่ดีนจะไปรายงานตัวกับกองทัพ อีริค (แมตต์ โบเมอร์) พี่ชายของเขาก็กลับมาจากสงครามแบบเงียบๆหวังให้น้องชายประหลาดใจ แม้จะรู้ว่าแฟนสาว คริสซี่ (จอร์ดาน่า บรูสเตอร์) เป็นห่วงเขามาก แต่อีริคก็ยังคิดจะกลับไปรบอีกครั้งกับดีน เพื่อจับตาพฤติกรรมไม่เอาถ่านของน้องชาย แต่ดีนคิดไม่เหมือนอีริค เขาวางแผนหนีทหารและเดินทางไปเม็กซิโกเพื่อหาความสนุกสุดเหวี่ยง เบลลี่ (ดิออร่า แบร์ด) แฟนสาวสุดเฮี้ยวของเขาเห็นด้วยเต็มที่ ในที่สุดหนุ่มสาวทั้ง 4 คน มุ่งหน้าไปยังเม็กซิโก โดยไม่รู้เลยว่าหนทางข้างหน้าคือความสยดสยองที่อาจจะโหดร้ายกว่าสงครามที่พวกเขาพยายามหลบเลี่ยง
หลังออกเดินทางได้ไม่นาน ทั้ง 4 คนก็ถูกก่อกวนโดยคู่รักสิงห์นักบิด โฮลเด้น (ลี ทาร์กีสัน) และอเล็กซ์ (เซีย แบทเท่น) อเล็กซ์ขี่มอร์เตอร์ไซด์ไล่กวดรถจี๊ปของกลุ่มวัยรุ่นจนเกิดอุบัติเหตุ และคริสซี่กระเด็นออกจากรถ เมื่ออเล็กซ์พยายามเข้ามาปล้นวัยรุ่น 3 คนที่ได้รับบาดเจ็บอยู่ในรถ นายอำเภอฮอยต์ (อาร์ ลี เออร์มี่) ก็มาถึงที่เกิดเหตุ เขาพูดจาเยาะเย้ยกลุ่มวัยรุ่นและบังคับให้พวกเขาขึ้นรถ คริสซี่ที่แอบดูอยู่หลังพุ่มไม้มองเห็นฮอยต์ขับรถออกไปยังบ้านของครอบครัวฮิววิตต์ ที่นั่น โธมัส ฮิววิตต์ (แอนดรูว์ ไบรเนียสกี) หลานชายของฮอยต์กำลังเตรียมตัวเป็นฆาตกรโหดฉายา “ไอ้เลื่อยไฟฟ้า” ส่วนครอบครัวกินเนื้อคนของเขาก็กำลังรอคอยเหยื่อที่หลงเข้ามาอย่างใจจดใจจ่อ เมื่อคริสซี่ได้เห็นกิจกรรมสยองที่ครอบครัวฮิววิตต์กระทำกับเพื่อนรัก เธอก็รู้ว่า เธอคือความหวังเดียวที่จะช่วยพวกเขาให้รอดชีวิต
New Line Cinema ร่วมกับ ไมเคิล เบย์ ภูมิใจเสนอ The Texas Chainsaw Massacre: The Beginning เรื่องราวสุดสยองของครอบครัวซาดิสม์ในชนบทอันห่างไกล ไม่มีความหวัง ไม่มีทางหนี ไม่มีทางรอด หนังนำแสดงโดย จอร์ดาน่า บรูซเตอร์, เทย์เลอร์ แฮนด์ลี่ย์, ดิออร่า แบร์ด, แมตต์ โบเมอร์, ลี เทอร์กีเซ่น, เซีย แบทเท่น และ อาร์ ลี สมิธ
อาร์ ลี สมิธ, แอนดรูว์ ไบรเนียสกี, มาเรียตต้า มาริช, เทอร์เรนซ์ อีแวนส์ และเคธี่ แลมกินส์ กลับมารับบทเดิมจาก The Texas Chainsaw Massacre ฉบับปี 2003
The Texas Chainsaw Massacre: The Beginning ออกฉายในอเมริกาวันศุกร์ที่ 6 ตุลาคม 2006 และได้รับเรท R จาก MPAA เพราะความรุนแรง, ภาษาไม่เหมาะสม และฉากส่อนัยทางเพศ
เกี่ยวกับงานสร้าง
The Texas Chainsaw Massacre: The Beginning คือบทภาพยนตร์ดั้งเดิมเรื่องแรกที่อำนวยการผลิตโดยบริษัท Platinum Dunes อำนวยการสร้างโดย ไมเคิล เบย์ ร่วมด้วย แอนดรูว์ ฟอร์ม และ แบรด ฟุลเลอร์ ทั้งสามเปรียบเทียบการทำงานร่วมกันว่าเหมือนนักเรียนทำโครงงานและมีอาจารย์ (เบย์) ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด พร้อมแบ่งปันประสบการณ์, สัญชาติญาณ และความสำเร็จ รวมถึงความสามารถในการสื่อสารกับคนดูด้วย
“การก่อตั้งบริษัท Platinum Dunes เป็นความคิดที่ค่อนข้างหุนหัน” ไมเคิล เบย์กล่าว “มันเริ่มต้นจากการอยากช่วยผู้กำกับรุ่นใหม่ให้ได้แจ้งเกิดในวงการภาพยนตร์ ผมร่วมมือกับเพื่อนอีก 2 คน แต่ไม่คิดว่าเราจะประสบความสำเร็จตั้งแต่หนัง 2 เรื่องแรก เราแค่อยากทำหนังที่ใช้ทุนน้อยลง ให้หนังขายตัวมันเอง และหนังสยองขวัญคือจุดเริ่มต้นที่ดีของผู้กำกับหน้าใหม่”
เมื่อทีมผู้อำนวยการสร้างจาก Platinum Dunes สร้าง The Texas Chainsaw Massacre เสร็จในปี 2003 พวกเขาไม่คิดเลยว่าหนังจะประสบความสำเร็จล้นหลามและจะมีการสร้างภาคอื่นตามมา แต่หลายปีให้หลัง ผู้คนต่างเข้ามาคุยกับพวกเขาถึงพฤติกรรมวิปริตของครอบครัวฮิววิตต์ และรุมถามว่าทำไมครอบครัวนี้ถึงกลายเป็นฆาตกรโรคจิต ในที่สุด ระหว่างทำโพสต์โปรดักชั่นหนังเรื่อง Amityville Horror ฟอร์มและฟุลเลอร์จึงช่วยกันคิดที่มาที่ไปของครอบครัวฮิววิตต์ โดยคิดว่าการขุดคุ้ยต้นตอความสยองคือสิ่งที่น่าสนใจ
“แฟนหนังอยากดูไอ้เลื่อยไฟฟ้าอีก” ไมเคิล เบย์เล่า “แต่ไม่ใช่เพราะเราตัดแขนมันในภาคที่แล้วหรอกนะ การเขียนบทจึงยากมาก แต่พอเราคิดจะสร้างภาคปฐมบทแทนภาคต่อ ความเป็นไปได้ก็เพิ่มขึ้นหลายเท่า เราแค่ตรวจดูว่าทำถูกต้องหรือเปล่า และระวังไม่ให้เล่าเยอะเกินไป”
แบรด ฟุลเลอร์ เสริมว่า “แอนดรูว์กับผมนั่งปรึกษากับไมเคิลว่าลำพังเรื่องของครอบครัวนี้จะเพียงพอให้คนดูสนใจหรือเปล่า แค่เรื่องของครอบครัวกินคนจะพอเป็นฐานของหนังเรื่องหนึ่งได้ไหม เรารู้ว่าขั้นแรกคือต้องหามือเขียนบทที่จะมาแตกรายละเอียดของเรื่องราวก่อน”
ทีมงานติดต่อสก๊อตต์ โคซาร์ ที่เขียนบท The Texas Chainsaw Massacre ฉบับปี 2003 แต่เขาถูกจองตัวไปเขียนบทให้หนังเรื่องอื่นแล้ว ทีมงานจึงติดต่อ เชลดอน เทอร์เนอร์ มือเขียนบทจาก Amityville Horror ให้มารับหน้าที่นี้แทน พวกเขาส่งก๊อปปี้ของ The Texas Chainsaw Massacre ฉบับปี 2003 ให้เทอร์เนอร์ดูเป็นแนวทาง เผื่อเขาจะได้ไอเดียอะไรเด็ดๆ และบอกให้เขาลองหาคำตอบของคำถามจากภาคที่แล้ว เช่นว่า ทำไมครอบครัวฮิววิตต์ถึงกลายเป็นโรคจิตแบบนั้น, ทำไมลุงมอนตี้ถึงพิการ, ทำไมฮอยต์ถึงไม่มีฟัน, แล้วเป็นไปได้ยังไงที่คนอย่างฮอยต์ได้เป็นนายอำเภอ และแน่นอน ทำไมไอ้เลื่อยไฟฟ้าถึงมีพฤติกรรมแบบนั้น ทำไมเขาถึงต้องใส่หน้ากากหนัง
บรรดาผู้อำนวยการสร้างต่างเป็นปลื้มที่เทอร์เนอร์สามารถหาคำตอบที่น่าพอใจให้กับเรื่องราว พร้อมๆกับที่ได้ โจนาธาน ลีเบสแมน มานั่งแท่นผู้กำกับ
“เราได้มือเขียนบทที่ยอดเยี่ยม” ฟุลเลอร์กล่าว “เมื่อบทหนังดี เราก็รู้ว่าพร้อมแล้วที่จะทำ จึงติดต่อโจนาธานตั้งแต่เนิ่นๆ เราประชุมกัน โจนาธานเสนอว่าเขาวางแผนพัฒนาบทอย่างไร ซึ่งเราเห็นด้วยกับความคิดของเขา”
ผู้อำนวยการสร้างจาก Platinum Dunes เจอกับผู้กำกับ โจนาธาน ลีเบสแมน เมื่อปี 2002 ขณะสัมภาษณ์ผู้กำกับสำหรับหนัง The Texas Chainsaw Massacre แต่ทางค่าย Sony ชิงตัวลีเบสแมนไปกำกับ Darkness Falls เสียก่อน พวกเขาติดต่อลีเบสแมนอีกครั้งสำหรับโปรเจ็คต์ Amityville Horror แต่กลับตัดสินใจเก็บเขาไว้สำหรับ Texas Chainsaw ภาคปฐมบทแทน แม้จะได้รับความสนับสนุนอย่างเต็มที่จากผู้อำนวยการสร้าง แต่ลีเบสแมนก็ยังไม่มั่นใจว่าจะรับงานนี้ กระทั่งรู้ว่าตนเองมีความเห็นตรงกับผู้อำนวยการสร้าง
“การสร้างหนังภาคต่อของหนังใหญ่ โดยเฉพาะหนังที่มีตัวร้ายน่ากลัวขนาดนี้ ไม่ค่อยดึงดูดผมเท่าไหร่ แต่การขุดคุ้ยจุดเริ่มต้นของตำนานเป็นอะไรที่น่าสนใจมาก ในฐานะแฟนหนังต้นฉบับ ผมอยากตอบคำถามที่คนสงสัยกัน ครั้งแรกที่คุยกับ ไมเคิล, แอนดรูว์ และแบรด ผมบอกไอเดียคร่าวๆว่าอยากให้หนังออกมาเป็นยังไง รวมทั้งบทหนังด้วย ซึ่งพอคุยจบในวันนั้น เราก็ได้ข้อสรุปว่า หนังต้องให้อารมณ์เหมือนจุดเริ่มต้นแห่งนรก”
แอนดรูว์ ฟอร์ม เสริมว่า “จุดประสงค์หลักของการสร้างหนังฉบับปฐมบทก็คือ นำเสนอว่าไอ้เลื่อยไฟฟ้าถือกำเนิดขึ้นมาได้อย่างไร คุณเห็นความโกรธแค้นในตัวโธมัส ฮิววิตต์ เห็นความกราดเกรี้ยว แล้วก็ได้เห็นผู้ชายเศร้าๆคนนี้ฆ่ามนุษย์เป็นครั้งแรก เมื่อโธมัสตกอยู่ในอำนาจของฮอยต์ ฮอยต์ก็เชิดเขาเหมือนหุ่น และให้เขาทำสิ่งที่สยดสยองเกินกว่าใครจะคาดคิด”
หลังจากตัดสินใจได้แล้วว่าจะทำหนังบับปฐมบท ทางทีมงานก็ต้องวางโรงเรื่องว่าจะเล่าย้อยกลับไปนานขนาดไหน
“หนังเล่าเรื่องราวในปี 1969 หรือ 3 ปีก่อนเหตุการณ์ในภาคต้นฉบับ” แบรด ฟุลเลอร์กล่าว “เมืองในหนังตั้งอยู่รอบๆโรงฆ่าสัตว์ที่ถูกตรวจสอบและถูกสั่งปิด เมืองรอบๆก็เลยเหมือนกับพังไปด้วย โธมัส ฮิววิตต์ต้องออกจากงาน คนอื่นๆก็เหมือนกัน ความโกรธแค้นของเขาสะสมมาตั้งแต่เด็ก และในที่สุดมันก็ระเบิดออกมาตอนที่เขาลงมือฆ่าคนครั้งแรก ทำให้ลุงของเขาที่จิตไม่ปกติอยู่แล้วถือโอกาสยึดกฎหมายไว้ในมือและทำเรื่องเลวร้าย”
“ขณะเดียวกัน เด็กวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่มีปัญหาของตัวเอง ขับรถข้ามเท็กซัส และได้พบกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่นำพวกเขาไปสู่เมืองสุดสยอง” ฟุลเลอร์กล่าวต่อ “ตอนที่เด็กๆได้พบกับพวกฮิววิตต์ ครอบครัวนี้ฆ่าคนศพแล้วศพเล่าเพื่อกลบเกลื่อนศพที่เพิ่งฆ่า เหมือนวงจรอุบาทว์ที่ควบคุมไม่ได้”
ฟอร์มสรุปรวบรัดตัดความว่า “นั่นแหละคือจุดเริ่มต้นของเหตุฆาตกรรมหมู่เลื่อยไฟฟ้า”
เมื่อได้เรื่องราวมาแล้ว ทีมงานก็ลุยงานขั้นต่อไป นั่นก็คือ จะนำเสนอหนังออกมาอย่างไรให้ดีที่สุด
“สิ่งที่ยากที่สุดในการสร้างหนังสยองขวัญก็คือ ต้องพยายามไม่เปิดเผยความลับ เพราะเมื่อคุณอธิบายความน่ากลัว หรือเปิดเผยมันมากเกินไป มันก็จะไม่น่ากลัว” โจนาธาน ลีเบสแมนกล่าว “นักทำหนังจะพยายามนำเสนอความไม่มีเหตุผลของฆาตกรต่อเนื่อง ไม่มีใครอยากอธิบายหรือให้เหตุผลของพฤติกรรมเหล่านั้นมากมายเพราะมันจะไม่มีความลึกลับอีกต่อไป The Texas Chainsaw Massacre: The Beginning ก็เช่นกัน มันพูดถึงวันแรกที่เกิดการฆาตกรรม แต่ไม่ได้อธิบายละเอียดว่าทำไมมันถึงเกิดขึ้น”
ในการพัฒนาบท สิ่งที่ทีมสร้างพูดถึงเป็นเรื่องแรกๆก็คือ การหาตัวนักแสดง ใครบ้างจากหนังภาคก่อนที่ควรกลับมา แอนดรูว์ ฟอร์ม บอกว่าคนที่ดูแลเรื่องนักแสดงแบบเต็มๆคือ แบรด ฟุลเลอร์ พวกเขาเริ่มต้นจากตัวเชื่อมที่สำคัญที่สุดในเรื่อง นั่นก็คือ อาร์ ลี เออร์มี่
“โชคร้ายที่หนังสยองขวัญส่วนใหญ่มองข้ามเรื่องนักแสดง พวกเขาไม่พยายามหานักแสดงฝีมือดีๆมาแสดง” ฟุลเลอร์กล่าว “ลีเป็นเหมือนเครื่องหมายคุณภาพ เมื่อได้เขามาแล้ว ทำให้เราสามารถหาคนที่มีพรสวรรค์คล้ายกันมาได้ เราไม่ได้ทำลวกๆและปล่อยให้ออกมาดาษๆ เราต้องการนักแสดงตัวจริงที่สามารถสร้างบางอย่างให้กับครอบครัวนี้ เพราะพวกเขาเป็นรากฐานของปฏิกิริยาระหว่างตัวละครทุกตัว และผู้ชมต้องดูแล้วเชื่อ”
ฟอร์มเสริมว่า “ลีมีทฤษฎีของตัวเองว่าตัวละครของเขาเป็นยังไง เขาเป็นนักแสดงที่ไม่มีขีดจำกัด เขาพูดอยู่เสมอว่าต้องการให้ฮอยต์เป็นตัวละครที่ชั่วแบบฉลาดแกมโกงที่สุด เพราะฉะนั้นเขาจึงกระหายว่าจะทำร้ายใครได้อีก ไม่มีใครปลอดภัยจากเขาเลย”
ดังนั้นการแสดงของเออร์มี่จึงเป็นหนึ่งในไฮไลต์ของหนัง “ในภาคก่อนลีเป็นตัวละครที่บันเทิงที่สุด” ผู้กำกับ โจนาธาน ลีเบสแมน กล่าว “ตัวละครของเขาจิตป่วย ทำอะไรไม่มีเหตุผล แต่นั่นแหละที่ทำให้เขาน่าสนใจ เพราะมันไม่มีคำอธิบาย เขาเป็นความลึกลับหนึ่ง ตัวลีเองช่วยได้มากในการพัฒนาตัวละคร”
“เขาเติมอารมณ์ขันเข้าไป” ไมเคิล เบย์ เห็นด้วย “เมื่อไหร่ที่คุณทำหนังสยองขวัญเครียดๆ มันจำเป็นที่ต้องยิงมุขขำๆออกมาบ้าง โดยเฉพาะเมื่อคนดูรู้สึกกดดันสุดๆ ดังนั้น ขณะที่การแสดงของลีดูสมจริงมาก แต่มันก็ยังดูประหลาด และบางทีก็ตลก”
เออร์มี่ทุ่มเทมากกับบทนายอำเภอฮอยต์ “ผมไม่อยากคิดว่านักแสดงคือหุ่นเชิดที่มีคนบังคับให้พูด บังคับให้ขยับทางนั้นทางนี้ ผมคิดว่าเป็นหน้าที่ของนักแสดงที่จะชี้แนะและช่วยพัฒนาบทหนังให้ดีขึ้น คนเขียนบทต้องคิดหลายตัวละคร แต่ผมรับผิดชอบตัวละครตัวเดียว เพราะฉะนั้นผมจึงมีโอกาสคิดได้ลึกกว่า ผมอยากให้ตัวละครออกมาน่าตกใจและมีสีสัน ฮอยต์เป็นโรคจิตประเภทซาดิสม์และวิตถาร แล้วคุณจะทำยังไงให้มันเหนือความคาดหมาย สำหรับฮอยต์ ไม่มีคำว่าขีดจำกัด ผมจะทำให้ฮอยต์เป็นตัวละครที่ขี้ขลาดที่สุดเท่าที่เคยเล่นมา”
โจนาธาน ลีเบสแมน เสริมว่า “ฮอยต์เป็นคนพาโธมัสออกจากเปลือก เขาเชื่อในโธมัส และหยิบยื่นอุปกรณ์สำหรับการเป็นไอ้เลื่อยไฟฟ้าให้”
หลังจากตัดสินใจให้เออร์มี่กลับมาแล้ว ก็ยังมีนักแสดงคนอื่นจากภาคก่อนกลับมาด้วย ไม่ว่าจะเป็น มาเรียตต้า มาริช ในบท ลูด้า เม, เทอร์เรนซ์ อีแวนส์ ในบท ลุงมอนตี้, เคธี่ แลมกิน ในบท คุณนายน้ำชา แต่สำคัญที่สุดก็คือ แอนดรูว์ ไบรเนียสกี ที่กลับมารับบท ไอ้เลื่อยไฟฟ้า
“นักแสดงเหล่านี้อยู่กับตัวละครของพวกเขามานาน” ลีเบสแมนกล่าว “พวกเขามีคำแนะนำมากมายสำหรับสิ่งที่ไม่ได้ทำเมื่อ 3 ปีก่อน และเราก็ให้เวลาพวกเขาเหลือเฟือในการคิด บางไอเดียก็ดี บางไอเดียก็แปลก และบางไอเดียก็ไม่ได้ใส่เข้าไปในหนัง แต่เพราะในปี 2003 ผู้กำกับ มาร์คัส นิสเพล ให้นักแสดงเข้าไปอยู่ในบรรยากาศนั้นจริงๆและเปิดโอกาสให้พวกเขาอิมโพรไวซ์ นักแสดงบางคนจึงรู้ว่าตนเองอยากเพิ่มเติมอะไร”
“อย่างเช่น มาเรียตต้า ที่คร่ำหวอดในวงการมากว่า 50 ปี ก็เสนอไอเดียเยี่ยมๆหลายอย่าง เช่น ร้องเพลงให้เบลลี่ฟังขณะทรมานเธอ ซึ่งถือเป็นฉากหนึ่งที่น่ากลัวที่สุดในหนัง หรือฉากที่เธอเล่นกับลิ้นขณะเตรียมอาหารเย็น ก็ดูโรคจิตจนพวกเรานึกไม่ถึง น่าประหลาดใจจริงๆสำหรับนักแสดงอายุขนาดเธอ”
แม้ ลูด้า เม จะเป็นตัวละครที่ดูเหมือนไม่มีอันตราย แต่เธอก็มีอิทธิพลและบทบาทในครอบครัวฮิววิตต์มาก “เธอเป็นคนเดียวที่คุมฮอยต์ได้” ลีเบสแมนอธิบาย “ฮอยต์เป็นพวกอีโก้แรงและคิดว่าตนเองคือจ้าวโลก แต่เมื่อเขาสติหลุด ลูด้าคือคนที่คอยเตือนว่า แม้เขาจะเป็นฆาตกรกินเนื้อคน แต่ยังไงก็ต้องรักษามารยาทบนโต๊ะอาหาร”
“ลูด้า เม เป็นผู้นำครอบครัวหญิงที่ฉันอยากเรียกว่า แม่ของฆาตกร” มาริชกล่าว วันทดสอบบท เธอใส่เสื้อคลุมของสามี, ไม่หวีผม และทำทีเป็นเคี้ยวก้อนยาสูบด้วยการปล่อยให้ช็อคโกแลตไหลย้อยลงมาถึงคาง
“ฉันมักนั่งนึกถึงปูมหลังของตัวละคร และสงสัยว่า ลูด้า เม เคยเป็นหญิงสาวไร้บ้านที่ขีดเส้นทางชีวิตตัวเองระหว่างที่รู้สึกหดหู่” มาริชอธิบาย “เมื่อได้พบโธมัส เธอก็พาเขากลับบ้าน แม้ว่าเขาจะเป็นเด็กพิการหน้าตาอัปลักษณ์ เธอดูแลและปกป้องเขาจากคนที่คอยรังแกและจากโลกภายนอกที่โหดร้าย นั่นแหละคือจุดมุ่งหมายเดียวที่ลูด้ายังคงวนเวียนอยู่”
มอนตี้ต่างจากลูด้า นิสัยเงียบขรึมของเขาไม่ได้ปกปิดความมั่นใจภายในได้เลย จากปากคำของลีเบสแมน มอนตี้เป็น “บริวารของครอบครัวฮิววิตต์ หน้าที่ของเขาคือ ดูแลที่เก็บของเก่า เขาเป็นคนรับใช้ เป็นน้องชายที่ไม่เคยออกไปไหน ไม่เคยทำอะไรสำเร็จ แต่เขาเป็นเครื่องมือให้ไอ้เลื่อยไฟฟ้าซ้อมเลี่อยเนื้อและกระดูก”
เทอร์เรนซ์ อีแวนส์ ออกตัวปกป้องตัวละครของตนเองว่า “โดยทางปฏิบัติ มอนตี้เป็นตัวละครที่บริสุทธิ์ คือก็ไม่เชิงหรอก แต่ก็บริสุทธิ์กว่าฮอยต์กับโธมัส ผมมองว่ามอนตี้เป็นตัวละครรอง เพราะส่วนใหญ่ฮอยต์จะเป็นตัวเด่นในแต่ละฉาก ตัวละครของผมแค่มีปฏิกิริยาตอบโต้กับเขา ไม่มีใครถามความเห็นมอนตี้ แม้แต่ลูด้าก็ไม่ถามเขาตอนที่พาโธมัสกลับมาที่บ้าน ดังนั้นเขาจึงแค่ตามน้ำและยอมรับสิ่งที่คนอื่นโยนมาให้”
“ผมว่าโธมัสมีโอกาสแก้ตัว ไม่ให้ชีวิตเป็นแบบนี้” อีแวนส์กล่าวต่อ “แต่การที่ถูกรังแกตั้งแต่เด็ก บวกกับอารมณ์อันฉุนเฉียว แถมด้วยอิทธิพลของฮอยต์ ทำให้เขาถูกบีบบังคับจนกลายเป็นฆาตกร”
ใน The Texas Chainsaw Massacre: The Beginning ไอ้เลื่อยไฟฟ้าไม่ใช่ตัวละครที่แสดงได้ง่ายๆ เพราะนักแสดงไม่สามารถแสดงอารมรณ์ความรู้สึกผ่านคำพูดได้ ต้องถ่ายทอดผ่านทางท่าทางและสายตาเท่านั้น ซึ่งนั่นเสี่ยงต่อแอ๊คติ้งเกินจริง แต่แอนดรูว์ ไบรเนียสกีรู้จักตัวละครดีมากจนสามารถถ่ายทอดออกมาได้สมจริง “โธมัสเป็นโรคกลัวสังคม เขามีปมในใจเพราะถูกรังแกตั้งแต่เด็ก จนในที่สุดก็ระเบิดโทสะออกมาด้วยการฆ่าคนจนกลายเป็นตำนานเหตุฆ่าหมู่เลื่อยไฟฟ้าในที่สุด” ไบรเนียสกีกล่าวติดตลกว่า “ผมเองเล่นบทร้ายมาหลายเรื่อง จนคิดว่าถ้าต้องรับบทคนดีคงต้องพยายามมาก คนไม่ค่อยอยากเข้าใกล้ผมเลยเดี๋ยวนี้ เพราะพวกเขาติดภาพไอ้เลื่อยไฟฟ้าของผม แต่ยังไงผมก็ต้องรับบทนี้ ก็อย่างที่ไมเคิล เบย์ บอกว่าผมเกิดมาเพื่อสวมหน้ากาก”
คำถามหนึ่งของหนังที่ไม่มีใครรู้คือ ครอบครัวฮิววิตต์เกี่ยวข้องกันอย่างไรบ้าง ทำไมฮอยต์ถึงเรียกลูด้า เม ว่า “แม่” ทั้งๆที่เธอดูแก่กว่าเขานิดเดียว แล้วมอนตี้เป็นสามีของ ลูด้า เม หรือเปล่า หรือเขาเป็นพี่ชายของฮอยต์ คำถามเหล่านี้ยังคงคาใจทุกคนอยู่
“คุณไม่มีวันรู้ว่าครอบครัวหนึ่งๆเป็นอย่างไร จนกว่าจะได้เข้าไปอยู่ในนั้น” ผู้อำนวยการสร้างฟุลเลอร์กล่าว “คุณเห็นเขากินข้าวเย็นกัน ออกไปข้างนอกกัน แต่คุณไม่รู้หรอกว่าในบ้านของพวกเขามันแย่แค่ไหน ที่น่ากลัวก็คือ พวกฮิววิตต์ไม่คิดว่าตัวเองผิดปกติ เมื่อคุณก้าวเข้าไปในบ้านของพวกเขา คุณก็ต้องทำตามกฎของพวกเขา นั่นแหละที่น่าขนลุก เพราะมันเกิดขึ้นได้ทุกแห่ง คุณไม่รู้หรอกว่ามีอะไรอยู่หลังประตูเพื่อนบ้าน”
ทีมงานไม่ได้พุ่งเป้าไปที่ลักษณะภายนอกอันน่าขนลุกของครอบครัวฮิววิตต์เท่านั้น แต่ยังสำรวจด้วยว่า ”อะไรที่ทำให้ครอบครัวกลายเป็นครอบครัว”
ส่วนกลุ่มวัยรุ่น 4 คนที่ตกเป็นเหยื่อในภาคนี้ ทีมงานตั้งใจว่าควรสร้างตัวละครที่เป็นตัวแทนของผู้ชม ที่ผู้ชมจะต้องเห็นอกเห็นใจและคิดว่าถ้าเป็นพวกเขาก็คงทำอย่างเดียวกัน กลุ่มเหยื่อนี้นำโดยคริสซี่ (รับบทโดย จอร์ดาน่า บรูสเตอร์) สาวสวยแฟนสาวของเอริคที่กลายเป็นฮีโร่หญิงผู้พยายามช่วยชีวิตเพื่อนๆให้รอดจากคมเลื่อย คริสซี่เป็นสาวมาดคงแก่เรียนที่จริงจังและมีเหตุมีผล เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์น่าสะพรึง แม้จะกลัวแทบขาดใจแต่เธอก็ลุกขึ้นสู้เพื่อช่วยเพื่อนและเอาชีวิตรอด ผู้กำกับ ลีเบสแมน บอกว่าคริสซี่เป็นตัวละครประเภทเดียวกับ ซิเกอร์นี่ย์ วีเวอร์ ใน Aliens และ โจดี้ ฟอสเตอร์ ใน Silence of the Lamb
สาวสวยอีกคนหนึ่งของเรื่องคือ เบลลี่ (รับบทโดย ดิออร่า แบร์ด) สาวซ่าคนรักของดีนที่รักอิสระและยุให้แฟนหนีความโหดร้ายของสงครามไปเท็กซัส เธอเป็นเหมือนฮิปปี้ในยุคนั้นที่แสดงอารมณ์ออกมาอย่างตรงไปตรงมา เธอแสดงความกลัวออกมาอย่างเปิดเผย และรับรองว่าผู้ชมจะต้องขนลุกเมื่อเธอกรีดร้อง
ทางฝั่งหนุ่มๆ ก็ได้แก่ ดีน และ เอริค ซึ่งเป็นพี่น้องกัน ดีน (เทย์เลอร์ แฮนด์ลี่ย์) เป็นศิลปินและนักรักที่ไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับสงครามมากนัก แต่ก็รู้ว่าสงครามไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ เทย์เลอร์ผู้รับบทนี้ เป็นนักแสดงหน้าใหม่ที่ส่งเทปทดสอบบทมาที่บริษัทผู้สร้างและเตะตาผู้อำนวยการสร้างเข้าอย่างจัง ส่วน แมตต์ โบเมอร์ ผู้รับบท เอริค เป็นนักแสดงที่เข้าขากับ จอร์ดาน่า ที่สุดจึงได้เข้ามารับบทแฟนหนุ่มของเธอ ตัวละครของเขาเป็นชายหนุ่มที่เพิ่งกลับจากสงครามเวียดนาม จึงมีบุคลิกแปลกแยกเล็กน้อย ซึ่งแมตต์เตรียมตัวด้วยการอ่านหนังสือเกี่ยวกับทหารในสงครามเวียดนาม และปรึกษาอดีตทหารผ่านศึก
วันที่เปิดกล้องไมเคิล เบย์ พาทีมนักแสดงไปที่บ้านของครอบฮิววิตต์ ซึ่งเป็นบ้านเดียวกับที่ใช้ถ่ายทำหนังฉบับปี 2003 บ้านหลังนี้สร้างขึ้นในปี 1854 ในฟาร์มขนาด 750 เอเคอร์ ในเท็กซัส ไม่มีใครอยู่ที่บ้านหลังนี้มาตั้งแต่ปี 1960 แล้ว และก็ไม่มีใครเข้าไปยุ่มย่ามในบ้านอีกตั้งแต่ทีมงานเข้าไปถ่ายทำเมื่อ 3 ปีก่อน สถานที่แห่งนี้จึงยังคงความน่ากลัวไว้เหมือนเดิมทุกอย่าง
โลเคชั่นอีกแห่งหนึ่งที่ทีมงานโปรดปรานจนต้องกลับไปถ่ายทำอีกครั้งก็คือโรงฆ่าสัตว์สมัยปี 1887 ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากเมืองมาร์ตินเดล 45 นาที ที่นี่ใช้เป็นทั้งฉากโรงฆ่าสัตว์และห้องใต้ดินของครอบครัวฮิววิตต์ อีกทั้งภายนอกก็ใช้เป็นฉากได้
งานสเปเชี่ยลเอ็ฟเฟ็กต์ก็มีส่วนสำคัญกับหนังสยองขวัญเช่นนี้ โดยเฉพาะเลือด ซึ่งงานเอ็ฟเฟ็กต์แต่งหน้าตกเป็นของบริษัท KNB Effects ที่มีประสบการณ์ในหนังมาแล้วกว่า 500 เรื่อง พวกเขาใช้เลือดไปหลายแกลลอน แต่ผู้อำนวยการสร้างฟุลเลอร์ก็ยังยืนยันว่า “เลือดไม่ได้เป็นตัวหลักที่ทำให้เกิดความสยอง แต่เป็นสถานการณ์ต่างหาก และองค์ประกอบความน่ากลัวที่สำคัญที่สุดก็คือ ความทรมานที่ตัวละครได้รับ”
นอกจากเลือดแล้วบริษัท KNB ยังรับผิดชอบการออกแบบหน้ากากของไอ้เลื่อยไฟฟ้าด้วย ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญในหนัง เพราะเราจะได้เห็นพัฒนาการของหน้ากาก ในช่วงครึ่งแรกของหนัง โธมัสจะสวมบทบางอย่างที่คาดว่าคงทำขึ้นตั้งแต่สมัยเด็กเพื่อปกปิดใบหน้าอันพิกลพิการ ไม่ให้ถูกล้อ สิ่งที่เขาสวมตอนนั้นเป็นสายรัดครึ่งหน้า ซึ่งคาดว่าทำจากหนังสัตว์ก่อนจะพัฒนาเป็นหนังคน และหน้ากากอันแรกนั้นจะไม่ค่อยประณีตเท่าหน้ากากที่เราเห็นในหนังฉบับ 2003 เพราะใน The Beginning นี้เป็นหน้ากากอันแรกของเขาช
เกี่ยวกับนักแสดง
จอร์ดานา บรูสเตอร์ รับบท คริสซี่
ผลงาน >> The Fast and the Furious, The Faculty, D.E.B.S., Annapolis
เทย์เลอร์ แฮนด์ลี่ย์ รับบท ดีน
ผลงาน >> Jack Frost, ทีวีซีรี่ย์ The O.C., Dawson’s Creek, C.S.I.
ดิออร่า แบร์ด รับบท เบลลี่ย์
ผลงาน >> Accepted, Fifty Pills, Hot Tamale ทีวีซีรี่ย์ South Beach, Big Day
แมตต์ โบเมอร์ รับบท เอริค
ผลงาน >> Flight Plan, ทีวีซีรี่ย์ Traveler, Guiding Ride, Tru Calling
ลี เทอร์กีเซ่น รับบท โฮลเด้น
ผลงาน >> Monster, The Forgotten, Shaft, Point Break
อาร์ ลี เออร์มี่ รับบท ฮอยต์
ผลงาน >> Dead Man Walking, Seven, Leaving Las Vegas, Murder in the First, The Frighteners
แอนดรูว์ ไบรเนียสกี รับบท โธมัส ฮิววิตต์ หรือ ไอ้เลื่อยไฟฟ้า
ผลงาน >> The Texas Chainsaw Massacre, Scooby-Doo, Rollerball, Pearl Harbor, Any Given Sunday
เทอร์เรนซ์ อีแวนส์ รับบท มอนตี้
ผลงาน >> The Texas Chainsaw Massacre, Terminator 2: Judgment Day, Down in the Valley
เคธี่ แลมกิ้น รับบท คุณนายน้ำชา
ผลงาน >> Kiss Kiss Bang Bang
มาเรียตต้า มาริช รับบท ลูด้า เม
ผลงาน >> The Texas Chainsaw Massacre, Rushmore, Leap of Faith, Simple Men
เซีย แบทเทน รับบท อเล็กซ์
ผลงาน >> Charlie’s Angels: Full Throttle, The Sweetest Thing, Bubble Boy
ลู เทมเพิล รับบท นายอำเภอวินสตัน
ผลงาน >> Domino, 21 Grams, The Devil’s Rejects
เกี่ยวกับทีมสร้าง
กำกับการแสดง — โจนาธาน ลีเบสแมน
ผลงาน >> Darkness Falls, The Ring, The Ring 2
เขียนบท - เชลดอน เทอร์เนอร์
ผลงาน >> The Longest Yard, Amityville Horror
เขียนบท - เดวิด เจ โชว์
ผลงาน >> Nightmare on Elm Street: Freddy’s Nightmare, Letherface: Texas Chainsaw Massacre III, The Crow
อำนวยการสร้าง - ไมเคิล เบย์
ผลงาน >> The Island, The Texas Chainsaw Massacre, The Amityville Horror, Pearl Harbor (กำกับ), The Rock (กำกับ), Armageddon (กำกับ), Bad Boy II (กำกับ)
อำนวยการสร้าง - โทบี้ ฮูเปอร์
ผลงาน >> ผู้กำกับ The Texas Chainsaw Massacre ฉบับต้นฉบับ และปูชนียบุคคลของวงการภาพยนตร์สยองขวัญผู้สร้างสรรค์ผลงานชวนผวามา แล้วมากมาย อาทิ Poltergeist, Freddy’s Nightmare, Tales from the Crypt, Invaders from Mars, Toolbox Murders
ดูแลสเปเชี่ยลเอ็ฟเฟ็กต์เมคอัพ — บริษัท The KNB EFX Group
ผลงาน >> The Island, Kill Bill, Pulp Fiction, Ray, The Green Mile, Sin City, The Cell, The Chronicles of Narnia, Dances with Wolves, Casino Royale, Spiderman 3
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ