วันเด็กขับขี่ปลอดภัย

ข่าวทั่วไป Monday January 11, 2010 08:59 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--11 ม.ค.--มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เชียงใหม่ - คณะพยาบาลศาสตร์ มช. จับมือองค์กรภาคี ดึงแกนนำเยาวชนรุ่นใหม่ต้านภัยอุบัติเหตุจราจร ระบุไทยมีปัญหาเป็นอันดับ 1 ของเอเชีย เหตุชอบเมาแล้วขับ ขณะที่แพทย์ย้ำช่วงเทศกาล คนไทยเสียชีวิตบนถนนสูงถึง 3 คน/ชั่วโมง แนะใช้ 3 ม. 2 ข. 1 ร. อย่างเคร่งครัด เมื่อวันที่ 9 ม.ค. ที่บริเวณชั้น 2 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า เชียงใหม่ แอร์พอร์ต ได้มีการจัดกิจกรรม “รวมพลังคนรุ่นใหม่ ต้านภัยอุบัติเหตุจราจร” เนื่องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติ โดยความร่วมมือของคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, องค์กรบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่, เทศบาลนครเชียงใหม่, โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย, โรงเรียนหอพระ, ป้องกันอุบัติภัย จ.เชียงใหม่, ขนส่ง จ.เชียงใหม่ และศูนย์การจราจร จ.เชียงใหม่ ทำให้บรรยากาศในบริเวณงานเป็นไปอย่างคักคัก มีเยาวชนจากโรงเรียนต่างๆ สนใจเข้าร่วมกว่า 100 คน รศ.ดร.ภารดี นานาศิลป์ หัวหน้าโครงการวิจัย “รวมพลังคนรุ่นใหม่ ต้านภัยอุบัติเหตุจราจร” คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เปิดเผยถึงแนวคิดในการจัดโครงการนี้ว่า เกิดจากปัญหาอุบัติเหตุทางจราจรของประเทศไทย ที่สูงเป็นอันดับ 1 ของเอเชีย และพบว่าสาเหตุหลักมาจากเมาแล้วขับ ซึ่งเป็นที่น่าวิตกอย่างยิ่ง เพราะสถิติในการการดื่มแอลกอฮอล์ของคนไทย สูงเป็นอันดับที่ 5 ของโลก จึงจำเป็นต้องมีการรณรงค์และป้องกันอย่างจริงจังต่อเนื่อง เพื่อลดระดับความรุนแรงของปัญหาลง ผศ.นพ.นเรนทร์ โชติรสนิรมิต จากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ระบุว่า จากสถิติของกรมทางหลวง พบว่า แต่ละปีคนไทยเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนกว่า 13,000 ราย สร้างความสูญเสียราว 232,855 ล้านบาท โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสำคัญ จะมีผู้เสียชีวิตบนท้องถนนเฉลี่ยถึง 3 คน/ชั่วโมง และในส่วนของ จ.เชียงใหม่ เมื่อปี 2550 มีผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุจราจรทั้งสิ้น 29,523 ราย คิดเป็น 1,737.36 ต่อแสนประชากร ถือเป็นอันดับ 28 ของประเทศ และอันดับ 4 ของภาคเหนือ ส่วนอัตราการเสียชีวิต อยู่ในอันดับ 41 ของประเทศ และอันดับ 12 ของภาคเหนือ พื้นที่เสียง 5 อันดับแรกของ จ.เชียงใหม่ ได้แก่ อ.แม่ริม อ.เมือง อ.สันป่าตอง อ.สันกำแพง และ อ.ดอยสะเก็ด มีอัตราผู้บาดเจ็บเฉลี่ย 81 คน/วัน ส่วนใหญ่เป็นผู้ชายมากกว่าผู้หญิงถึง 2.3 เท่า และ 51.55% ของผู้เสียชีวิตทั้งหมด เสียชีวิตก่อนถึงโรงพยาบาล ซึ่งเมื่อพิจารณาจะพบว่าผู้บาดเจ็บมักจะอยู่ในช่วงอายุ 15-19 ปี รองลงมาได้แก่ 20-24 ปี ที่สำคัญคือร่วม 90% ใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะในการขับขี่ที่เกิดอุบัติเหตุ “สาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุ คือความประมาท ละเลยกฎจราจร 3 ม. 2 ข. 1 ร. คือ ไม่สวมหมวกกันน็อค, ใช้มอเตอร์ไซด์, เมาแล้วขับ, ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย, ไม่มีใบอนุญาตขับขี่, ขับรถเร็ว จึงอยากให้ผู้ขับขี่ทุกคนคำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน ทั้งของตนเอง และผู้อื่น เพราะความสูญเสียที่เกิดขึ้นไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะตัวบุคคล แต่เป็นภาระที่ครอบครัว สังคม ต้องร่วมรับผิดชอบด้วย” ผศ.นพ.นเรนทร์ กล่าว ด้าน น.ส.นภัสวรรณ สีคำดี นักเรียนแกนนำเยาวชนรุ่นใหม่ ต้านภัยอุบัติเหตุจราจร จากโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ได้ร่วมทำกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อสังคมในวันเด็กแห่งชาติ ซึ่งมีทั้งความสนุกสนาน และสาระความรู้ เช่น ดนตรี เกม การละเล่น ประกวดวาดภาพ จัดนิทรรศการ ตอบปัญหา ภาพยนตร์สารคดี โต้วาที และเวทีเสวนา เพราะถือว่าวันเด็ก เป็นอีกวันหนึ่งที่มีผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างหนาแน่นทั่วทุกจังหวัด และมักจะเกิดอุบัติเหตุที่น่าเศร้าสลดใจอยู่เสมอ จึงอยากให้ทุกคน ตั้งแต่เด็ก เยาวชน ไปจนถึงประชาชนทั่วไป ได้เรียนรู้ถึงความสำคัญของการขับขี่อย่างปลอดภัย และมีสติกำกับตลอดเวลา จะได้ไม่เกิดโศกนาฏกรรมซ้ำแล้วซ้ำเล่า.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ