กรุงเทพฯ--12 ม.ค.--บลจ. อยุธยา
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อยุธยา จำกัด เตรียมเสนอขายหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดอยุธยาไชน่าอิควิตี้ (AYFCHINA) ระหว่างวันที่ 15-27 มกราคม 2552 เพื่อเพิ่มทางเลือกของการลงทุนและกระจายการลงทุนโดยการลงทุนในหลักทรัพย์ของบริษัทที่จดทะเบียนในประเทศจีน (Mainland China) ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 2,000 บาทเท่านั้น สภาพคล่องสูง ซื้อ-ขายได้ทุกวันทำการ
นายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อยุธยา จำกัด (บลจ.อยุธยา) เปิดเผยว่า บลจ. อยุธยา ต้อนรับเทศกาลตรุษจีน ด้วยการเสนอโอกาสการลงทุนในหุ้นในประเทศจีน กับกองทุนเปิดอยุธยาไชน่าอิควิตี้ (AYFCHINA) ซึ่งเป็นกองทุนแรกของปี มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท กองทุนเปิดอยุธยาไชน่าอิควิตี้ (AYFCHINA) เป็นกองทุนเปิดที่เน้นการลงทุนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนชื่อ Hang Seng H-Share ETF ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงเพื่อสร้างผลตอบแทนที่อ้างอิงกับการลงทุนในดัชนี Hang Seng China Enterprise Index (HSCEI)
Hang Seng H-Share ETF เป็นกองทุน ETF ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ซึ่งเป็นตลาดที่มีมาตรฐานสูงในการคัดเลือกบริษัทและตราสารเข้าจดทะเบียน เป็นกองทุนที่ซื้อขายด้วยสกุลเงินฮ่องกงดอลล่าร์ ที่สะท้อนการเปลี่ยนแปลงราคาหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในประเทศจีนได้มากที่สุด
กองทุน Hang Seng H-Share นี้เป็น ETF ที่มีขนาดสินทรัพย์ 1,850 ล้านเหรียญสหรัฐ อยู่ในอันดับ Top 10 ของ กองทุน ETF ในตลาด Asia Pacific ex-Japan มีสภาพคล่องสูง ไม่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้หรือตราสารอนุพันธ์ใดๆ มีประวัติการเปลี่ยนแปลงราคาของหน่วยลงทุนใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิง HSCEI มากที่สุด ซึ่งเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการกระจายการลงทุนไปยังบริษัทจดทะเบียนที่มีคุณภาพดีของประเทศจีน
นายฉัตรพีกล่าวเสริมว่า บลจ.อยุธยา เล็งเห็นศักยภาพการเจริญเติบโตของการลงทุนในประเทศจีน เนื่องด้วยหลังจากที่จีนก้าวเข้าเป็นสมาชิกขององค์การการค้าโลก (World Trade Organization: WTO) ในปี 2544 เศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศของจีนมีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในรอบทศวรรษที่ผ่านมาเศรษฐกิจจีนมีอัตราการเจริญเติบโตเฉลี่ยกว่าร้อยละ 10.3 ต่อปี โดยอาศัยการลงทุนทั้งจากภาคเอกชนและภาครัฐเป็นตัวขับเคลื่อน นอกจากนี้เศรษฐกิจจีนยังสามารถหลุดพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2551 ได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งเศรษฐกิจจีนยังมีศักยภาพที่จะเติบโตในระยะยาวจากปัจจัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านการลงทุน เนื่องจากจีนมีรูปแบบการพัฒนาประเทศโดยอาศัยการลงทุนทั้งจากภาครัฐและเอกชนเป็นตัวขับเคลื่อน จีนเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของโลกรองจากสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น แต่จีนกลับมีสัดส่วนการลงทุนต่อขนาดเศรษฐกิจกว่าร้อยละ 40 ซึ่งมากที่สุดในโลก
ในเรื่องของอัตราการบริโภค การเติบโตของเมือง (Urbanization) และการขยายจำนวนของประชากรชั้นกลาง (Middle class) จะส่งผลดีทั้งต่อรูปแบบและสัดส่วนการบริโภค โดยนักวิเคราะห์จากหลายสำนักคาดการณ์ว่าในปี 2563 จำนวนครัวเรือนชนชั้นกลางที่มีรายได้ต่อครัวเรือนมากกว่า 10,000 เหรียญสหรัฐต่อปีจะเพิ่มขึ้นจาก 90 เป็น 240 ล้านครัวเรือนหรือกว่า 2.6 เท่าตัว ซึ่งหมายถึงความต้องการด้านที่อยู่อาศัย สินค้าคงทน ความต้องการด้านเทคโนโลยี และอื่นๆ ที่จะมีการขยายตัวต่อไป และนอกจากนี้ในเรื่องของปัจจัยการออม จีนเป็นประเทศที่มีสัดส่วนการออมต่อขนาดเศรษฐกิจสูงกว่าร้อยละ 51 ซึ่งทำให้จีนมีสภาพคล่องเพียงพอที่จะรองรับการลงทุนภายในประเทศได้ยังมีแผนการพัฒนาสาธารณูปโภคสำคัญเพื่อรองรับการขยายตัวของเมืองและเชื่อมเขตเศรษฐกิจต่างไว้ด้วยกันอีกมากซึ่งคิดเป็นมูลค่าการลงทุนมหาศาล ด้วยปัจจัยดังที่กล่าวไปข้างต้น ทำให้ บลจ.อยุธยา จึงได้สนใจที่จะนำเสนอกองทุนเปิดอยุธยาไชน่าอิควิตี้ (AYFCHINA) เป็นทางเลือกให้กับนักลงทุนที่สนใจกระจายการลงทุนไปยังประเทศจีน
สำหรับนักลงทุนที่สนใจในรายละเอียดเกี่ยวกับโอกาสการลงทุนในประเทศจีนเพิ่มเติมมากขึ้น บลจ.อยุธยา ได้จัดเตรียมงานสัมมนา “โอกาสการลงทุนในประเทศจีน กับกองทุนเปิดอยุธยาไชน่าอิควิตี้” เพื่อให้ข้อมูลแก่นักลงทุน โดยได้รับเกียรติจาก รศ.ดร.สมภพ มานะรังสรรค์ ผู้อำนวยการศูนย์จีนศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาเป็นวิทยากรร่วมกับคุณประภาส ตันพิบูลศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ.อยุธยา ในวันที่ 13 และ 20 มกราคม เวลา 14.00-15.30 น. ณ AYF access PL@CE อาคารเพลินจิตทาวเวอร์ ตรงข้ามเซ็นทรัลชิดลม สำรองที่นั่ง โทร.0-2657-5757 ต่อ 5723 (ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ)
กองทุนเปิดอยุธยาไชน่าอิควิตี้ (AYFCHINA) จะเปิดเสนอขายระหว่างวันที่ 15-27 มกราคม 2552 ลงทุนขั้นต่ำเพียง 2,000 บาท และนอกจากนี้ บลจ.อยุธยา ยังมอบโปรโมชั่นพิเศษให้สำหรับนักลงทุนที่สนใจลงทุนในกองทุนเปิดอยุธยาไชน่าอิควิตี้ (AYFCHINA) เมื่อลงทุนทุกๆ 100,000 บาท จะได้รับเงินเงินคืน 100 บาท ทั้งนี้สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บลจ.อยุธยา โทร. 02-657-5757 ต่างจังหวัดโทรฟรี 1-800-226300 หรือติดต่อธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขาทั่วประเทศ
หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
ภัทธิรา เจริญชาศรี
ผู้ช่วยผู้อำนวยการส่วนสื่อสารภาพลักษณ์ บลจ. อยุธยา จำกัด
โทร. 0-2305-2504
Email : pattira@ayf.co.th