กรุงเทพฯ--14 ม.ค.--บล.กสิกรไทย
นายเผดิมภพ สงเคราะห์ กรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการเงินทุนบุคคล บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KS เปิดเผยว่า จากที่เป็นข่าวครึกโครมเรื่องการเปิดใช้เสรีค่าคอมมิชชั่นแบบขั้นบันได ( Sliding Scale ) มาตั้งแต่ต้นปีจนมีโบรกเกอร์ ฯ หลายแห่งเริ่มขยับตัวและประกาศสงครามค่าคอมม์ที่ 0% นั้น สำหรับหลักทรัพย์กสิกรไทย ยืนยันไม่มีนโยบายการแข่งขันด้านราคาค่าคอมม์ 0 % และย้ำจุดยืนตามประกาศของสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ในการใช้อัตราค่าคอมม์ที่ 0.15 % สำหรับมูลค่าการซื้อขายที่เกิน 20 ล้านบาทต่อวันเช่นเดิม โดยอัตราค่าคอมม์แบบขั้นบันไดที่เริ่มใช้ต้นปี 53 นี้ กำหนดให้มูลค่าการซื้อขายไม่เกิน 5 ล้านบาท/วัน คิดอัตราค่าคอมม์ไม่ต่ำกว่า 0.25 — 1 % สำหรับมูลค่าการซื้อขายที่เกิน 5 ล้านบาทแต่ไม่เกิน 10 ล้านบาท คิดอัตราค่าคอมม์ไม่ต่ำกว่า 0.22 — 1 % สำหรับมูลค่าการซื้อขายต่อวันเกิน 10 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 20 ล้านบาท คิดอัตราค่าคอมม์ไม่ต่ำกว่า 0.18 — 1 % และส่วนที่เกิน 20 ล้านบาทเป็นอัตราที่ตกลงกันแต่ไม่เกินกว่า 1%
ทั้งนี้บริษัทฯ พร้อมปรับตัวในการทำธุรกิจ เพื่อให้สามารถประกอบธุรกิจท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงด้านราคา โดยยืนยันที่จะสู้ด้วยเรื่องของคุณภาพในการเข้าถึงความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายด้วยข้อมูลที่มีคุณภาพถูกต้องแม่นยำและรวดเร็วทันต่อเหตุการณ์ เพื่อส่งผลต่อการตัดสินใจลงทุนในทุกช่องทางที่ลูกค้าสัมผัส ผ่านทีมวิเคราะห์หลักทรัพย์ของบริษัท อีกทั้งบทวิเคราะห์ของศูนย์วิจัยกสิกรไทยที่ได้รับการยอมรับและเชื่อถือเป็นอย่างดี รวมถึงกลยุทธ์ CRM ที่บริษัทฯ สร้างกิจกรรมทางการตลาดโดยยึดเอาความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่แตกต่างและเหนือกว่าที่เคยได้รับ จากโบรกฯอื่นภายใต้คอนเซปต์ “ KS…more” มาตั้งแต่ปี 52 พร้อมกับมุ่งเน้นเรื่องคุณภาพและการบริการของทีมผู้จัดการเงินทุนส่วนบุคคลให้มีบริการที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพเพื่อรักษาลูกค้า โดยปัจจุบันพบว่าลูกค้าได้รับการเสนอค่าคอมม์ 0 % จากโบรกเกอร์อื่นบ้าง แต่ไม่ได้ให้ความสนใจ และยังคงมีวอลุ่มเทรดปกติไม่ได้ย้ายพอร์ตไปเทรดโบรกเกอร์อื่นแต่อย่างใด โดยปัจจุบัน KS มีวอลุ่มเฉลี่ยวันละ 900 ล้านบาท จากในปี 52 ที่อยู่ประมาณ 850 ล้านบาท
นายเผดิมภพกล่าวต่อว่า บริษัทฯได้ลองทำการสำรวจฐานลูกค้าปัจจุบัน ถึงอัตราค่าธรรมเนียมแบบขั้นบันไดที่ประกาศออกไป โดยพบว่า ลูกค้าส่วนใหญ่พึงพอใจกับอัตราดังกล่าว และให้ความสำคัญกับคุณภาพการให้บริการมากกว่า รวมถึงความเป็นเครือธนาคารกสิกรไทย ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัทฯเป็นลูกค้าของธนาคารอยู่ด้วย จึงมีความผูกพันธ์และรู้สึกมั่นคงในการเลือกใช้บริการ
“ การลงไปเล่นราคาค่าคอมมิชชั่น 0% อาจจะช่วยเพิ่มปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ในระยะสั้น แต่ไม่ได้ช่วยในการพัฒนาตลาดทุนไทย กลับจะสร้างความเสียหายให้เกิดขึ้น วิธีการนี้เป็นแต่เพียงการพยายามดึงลูกค้าไม่ให้หนีไปไหนของบรรดาโบรกฯที่โดดลงมาเล่นเรื่องของราคา และถ้ามีการเล่นเกมส์ 0 % กันมากเข้า ๆ เมื่อถึงจุด ๆ หนึ่ง ที่โบรกเกอร์ไม่สามารถแข่งขันได้ เนื่องจากรายได้และกำไรลดลง เมื่อนั้นก็จะเริ่มเห็นการควบรวมกันเองเกิดขึ้น ซึ่งโบรกฯที่มีพาร์ทเนอร์ในต่างประเทศ โบรกฯที่เป็นลูกแบงค์ รวมถึงโบรกฯขนาดใหญ่จะได้เปรียบ แต่สำหรับบริษัทฯ มองว่าธุรกิจหลักทรัพย์ขายกันที่บริการ และคุณภาพของข้อมูลบทวิเคราะห์และบุคคลากร เป็นหลัก ไม่ได้เป็นธุรกิจที่เล่นกันด้วยราคา มูลค่าการซื้อขาย หรือส่วนแบ่งการตลาดของบริษัท เป็นเพียงตัวชี้วัดหนึ่งในการทำธุรกิจ ที่สำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน คือ การสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้น หรือ Return on Equity (ROE) โดยที่ผ่านมา บริษัทมี ROE ถึง 28 % สะท้อนให้เห็นประสิทธิภาพในการบริหารงานของบริษัทอันเกิดจากการมุ่งเน้นที่คุณภาพของการให้บริการ ” นายเผดิมภพ กล่าวทิ้งท้าย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ฝ่ายกลยุทธ์องค์กร บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
โทร : 0- 2696-0017