กรุงเทพฯ--15 ม.ค.--ปชส.การแข่งขันเดอะ รอยัล โทรฟี
คอลิน มอนโกเมอรี กล่าวว่า เขาได้รับประสบการณ์ที่มีค่ามากมายจากการแข่งขันใน รอยัล โทรฟี ครั้งนี้ และจะนำไปใช้ในการทวงแชมป์คืนในการแข่งขัน ไรเดอร์ คัพ ซึ่งเขาก็ได้รับหน้าที่เป็นกัปตันของทีมยุโดรปเช่นกัน
มอนโกเมอรี กล่าวว่าการแข่งขัน ไรเดอร์ คัพ จะมีความพร้อมที่จะเป็นกัปตันในการแข่งขัน ไรเดอร์ คัพ หลังจากเอาชนะทีมเอเชียอย่างฉิวเฉียดด้วยคะแนน 8 ? ต่อ 7 ? โดยดวลกันจนคู่สุดท้าย และหลุมสุดท้าย
การที่ได้เป็นทั้งกัปตัน และผู้เล่นด้วยทำให้เขามีโอกาสได้ทดสอบความเป็นผู้นำของตนเอง และพิสูจน์จิตใจนักสู้ที่ไม่ได้จืดจางห่างหาย โดยในกรีนที่ 18 เขาสามารถพัตต์ลงยันคู่แข่งได้ และยังคงรักษาสถิติไม่เคยแพ้ในการเล่นแมทช์แบบซิงเกิ้ลให้กับทีมยุโรป
เขากล่าว่า “การที่ต้องรับหน้าที่เป็นทั้งกัปตัน และผู้เล่นด้วยเป็นเรื่องที่ยากเอาการ และมันทำให้ผมประจักษ์ว่าคงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำเช่นนั้นอีกในการแข่งขัน ไรเดอร์ คัพ”
“เป็นเรื่องที่ยากที่จะเน้นในเกมส์การเล่นของตัวเอง พร้อมกับคอยทำหน้าที่กัปตันทีมไปด้วย แม้จะมีการแข่งขันแค่วันละรอบเดียว และทุกคนต้องเล่นตลอด 3 วันแข่งขัน”
“ผมต้องมีตาที่หลังศีรษะเพื่อที่จะคอยดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรอบๆ ตัว ลีดเดอร์บอร์ด จะบอกอะไรเราได้ไม่มากนัก มันไม่สามารถทำให้เรารู้ถึงเบื้องลึก หนาบาง ของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในแต่ละคู่ที่ทำการแข่งขันกันอยู่”
“แต่มันยิ่งเน้นถึงความจำเป็นที่จะต้องมีผู้ช่วยกัปตันมือดีสัก 3 คนคอยช่วยเหลือ หรืออาจจะต้องมีผู้ช่วยถึง 4 คนด้วยซ้ำไปในตอนที่ผมต้องละสายตาจากแมทช์หนึ่งเพื่อไปดูแลแมทช์อื่นๆ”
“และแน่นอนที่สุดว่าการแข่งครั้งนี้เป็นการฝึกที่ดีสำหรับผมในการทำหน้าที่กัปตัน ผมเห็นนักกอล์ฟหลายคนที่จะมีโอกาสเล่นในทีมผมที่ ไรเดอร์ คัพ ในการแข่งที่เมืองไทยนี้ และผมติดตามวิธีการเล่นของพวกเขาภายใต้ความกดดันที่ผ่านมานี้”
“ผู้เล่น 5 คนนั้นนับว่ายังเป็นมือใหม่อยู่ในการเล่นให้กับทีมยุโรป และไม่ชินกับบรรยากาศที่เกิดขึ้นในการแข่งประเภทนี้ ซึ่งผมคอยติดตามว่าพวกเขาจะปรับตัวกับการเล่นอย่างไร”
“ขณะที่นั่งเครื่องบินกลับ สิ่งแรกที่ผมทำคือ จดรายละเอียดของการเป็นกัปตันที่ผมทำแล้วใช้ได้ หรือใช้ไม่ได้ และบางส่วนที่อาจจะต้องมีการขัดเกลาขึ้นบ้าง”
“ผมนับว่าทำการเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา และคงจะเป็นเช่นนั้นจนกระทั่งผู้เล่นคู่แรกได้ก้าวขึ้นสู่แท่นทีออฟที่ 1 และอาจจะจนจบการแข่งขันด้วยซ้ำ”
“แต่สิ่งที่แน่นอนที่สุดคือ ผมจะทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะนำถ้วย ไรเดอร์ คัพ กลับทวีปยุโรปให้ได้ และได้ตระหนักถึงวิธีการใหม่ๆ ที่นี่ ที่จะทำให้ความฝันนั้นกลายเป็นจริง”
มอนโกเมอรี กล่าวเสริมว่า เขารู้ดีว่าความใกล้ชิดในทีมนั้นสำคัญแค่ไหน และมั่นใจว่าทางทีมยุโรปไม่เคยขาดในด้านนี้
เขาอธิบายว่า “ทีมยุโรปเป็นครอบครัวที่มีความสนิทสนมกันมาก เป็นครอบครัวที่พักโรงแรมเดียวกัน ทานข้าวด้วยกัน และมีความสุขที่จะได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกัน ดังเช่นครอบครัวทั่วๆ ไป”
“ผมตั้งตาคอยโอกาสที่จะได้นำผู้เล่นที่ดีที่สุดของยุโรป 12 คนมารวมตัวกัน และต้อนรับพวกเขาที่ เซลติก แมเนอร์ ในเดือนตุลาคมนี้ และผมหวังว่าจะมีผู้ที่ร่วมเล่นใน รอยัล โทรฟี ร่วมอยู่ด้วย”
“คงเป็นเรื่องยากที่ผมจะต้องเลือกผู้เล่นร่วมทีม 3 คน โดย 9 คนแรกนั้นได้เข้าเล่นตามคะแนนสะสมอยู่แล้ว ที่จริงแล้วให้ผมเลือก ผมคงเลือกได้เป็น 23 คนด้วยซ้ำ”
“ผมหวังว่าผู้เล่นในทีมจะเล่นได้ดีที่สุดในช่วงนั้น เพื่อที่จะคว้าถ้วยกลับคืนมาสู่ทวีป ปีนี้เป็นปีที่สดใสมากสำหรับกอล์ฟในยุโรป และการเอาชนะได้ใน รอยัล โทรฟี นับว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี”
สิ่งหนึ่งที่ มอนโกเมอรี ไม่อยากจะเจออีกคือ การจบอย่างน่าใจหาย ใจคว่ำ ในการดวลวงสวิงกับนักกอล์ฟมือดีจาก เอเชีย
มืออันดับ 8 ของโลก เฮนริก สเตนสัน ต้องเซฟพาร์ระยะ 7 ฟุต เพื่อเอาชนะที่หลุม 18 ต่อมือหนึ่งของเอเชีย ธงชัย ใจดี ทำให้ไม่ต้องไปต่อเพลย์ออฟแบบซัดเด้นเดธ
แต่นั่นหลังจากที่ตัวมอนตี้เองต้องต้องพัตต์ระยะ 20 ฟุตเพื่อเอาเสมอนักกอล์ฟชาวจีน เหลียง เหวิน ชง ที่พัตต์เบอร์ดี้ระยะ 30 ฟุตลงไปก่อน
มอนตี้กล่าวเสริมว่า “ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการแข่งขันจะไม่สูสีขนาดนั้นในการแข่ง ไรเดอร์ คัพ แต่แน่นอนว่า เฮนริก สเตนสัน นั้นอยู่ในอันดับที่ 8 ได้ โดยมีเหตุผล”
“เขาคงเป็นตัวเต็งคนหนึ่งที่จะได้ร่วมทีมที่ เซลติก แมเนอร์ และการเล่นในหลุมท้ายๆ ของเขาใน 2 วันสุดท้ายของการเล่น แม้เขาจะกล่าวเองว่าเล่นได้ไม่ค่อยดี เป็นบทพิสูจน์ถึงใจนักสู้ของเขา”
“สำหรับการพัตต์ของผมที่หลุม 18 นั้น ความภูมิใจในตัวเองนั้นทำให้ผมสามารถผ่านพ้นวิกฤติการณ์มาได้ ผมไม่เคยมีปัญหาเลยที่จะหาพลังภายในตัว โดยเฉพาะเมื่อสวมเสื้อทีมยุโรป”
“ผมต้องพูดว่าผมเห็นลักษณะการสู้ไม่ถอยนี้ในตัว เฮนริก เอง และสิ่งนี้แหละที่ผมต้องการจากผู้เล่นของผมทุกคน ซึ่งจะมีผลอย่างมากในการแพ้ชนะในการแข่งขัน ไรเดอร์ คัพ”
“ทางอีกด้านหนึ่ง ต้องกล่าวชมเชยทางเอเชียด้วยที่ต่อสู้ได้อย่างสุดฝีมือ ทางเรารู้มาตลอดว่าศักยภาพของทางเอเชยมีมหาศาล และการที่บรรจุกีฬากอล์ฟใน โอลิมปิกส์ จะช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของกอล์ฟในแถบนี้เป็นทวีคูณ มากกว่าที่ใดในโลก”
“ทางเอเชียจะมีโอกาสได้เล่นขึ้นมาก ซึ่งจะทำให้ความสนใจในเกมส์มีมากขึ้น และจะทำให้การแข่งขัน รอยัล โทรฟี จะยิ่งใหญ่ขึ้นในปีต่อๆ มา”
การแข่งขัน รอยัล โทรฟี ครั้งที่ 4 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 8 ถึง 10 มกราคม 2010 ที่สนาม อมตะ สปริง คันทรี คลับ จังหวัด ชลบุรี ประเทศไทย การแข่งขันนี้เป็นการแข่งขันแบบทีม 16 แมทช์ประกอบด้วยการเล่นแบบ โฟร์ซัมส์ โฟร์บอล และซิงเกิ้ล ทีมที่ชนะจะได้รับถ้วยเงินแท้หนัก 16 กิโลกรัม ที่มอบให้โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯของประเทศไทย
การแข่งขัน รอยัล โทรฟี ได้รับการสนับสนุนหลักจาก ไฮเนเก้น, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), บริษัท ป.ต.ท. จำกัด (มหาชน), การกีฬาแห่งประเทศไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากกรุงเทพมหานครและจังหวัดชลบุรี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. +662 651 9499 หรือเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ www.TheRoyalTrophy.com การแข่งขัน รอยัล โทรฟี จัดแข่งขันโดย บริษัท เอ็นเทอร์เทนเมนท์ กรุ๊ป จำกัด และ เอเมน คอร์เนอร์ เอส. เอ.