กรุงเทพฯ--18 ม.ค.--อาซาตซู
แอลจี อีเลคทรอนิคส์ โชว์เคส ‘Whole New Way to See the World’ เปิดประสบการณ์สุดยอดนวัตกรรม LED ใหม่ล่าสุด ด้วยเทคโนโลยี Local Dimming และภาพที่คมชัด พร้อมเปิดตัวทีวีสามมิติ, Mobile Digital Television และเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์
ดร. วู เพี๊ยก ประธานและหัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยี บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ กล่าวถึงการเปิดตัวนวัตกรรมล้ำสมัยของแอลจีภายในงาน 2010 Consumer Electronics Show ที่ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกาว่า ในปีนี้แอลจีเน้นการนำเสนอเทคโนโลยีที่จะทำให้การดูหนังฟังเพลงเป็นเรื่องง่ายและสมบูรณ์แบบสำหรับการรับชมทั้งภายในบ้านและนอกบ้าน ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมใหม่อย่างทีวีสามมิติ, Mobile Digital Television และธุรกิจด้านพลังงานแสงอาทิตย์ เนื่องจากบริษัทเล็งเห็นว่าเทคโนโลยีดังกล่าวจะได้รับความสนใจจากผู้บริโภคเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในปีนี้บริษัทฯ วางแผนจะนำเสนอผลิตภัณฑ์จอภาพที่มีเทคโนโลยีสามมิติ (3D) ที่ล้ำสมัย เช่น แอลอีดี ทีวี พลาสมาทีวี และโปรเจ็คเตอร์ สู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง
ภายในงาน CES ครั้งนี้ บริษัทได้แนะนำ DP570MH Mobile Digital Television (DTV) ที่สามารถเล่นดีวีดีด้วยเทคโนโลยี mobile DTV broadcast ซึ่งแอลจีมีส่วนร่วมในการพัฒนา นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะผลิตโทรศัพท์มือถือ และเครื่องเล่นดีวีดีแบบพกพาซึ่งติดตั้งชิปรับคลื่นสัญญาณถ่ายทอดในตลาดอเมริกาเหนืออีกด้วย เนื่องจากบริษัทฯ คาดการณ์ว่าเทคโนโลยีใหม่เหล่านี้จะเริ่มเป็นที่ต้องการของตลาด จากข้อมูลในไตรมาสแรกของปีนี้ สหรัฐอเมริกาจะมีสถานีที่จะทำการส่งสัญญาณ mobile DTV broadcasts ถึง 88 สถานี และจะมีผู้บริโภคกว่า 45 เปอร์เซ็นต์อยู่ในเขตให้บริการดังกล่าว
“เรามีจุดมุ่งหมายที่จะทำให้ผู้บริโภคสามารถใช้ชีวิตแบบไร้ขีดจำกัด ด้วยการเชื่อมต่อตลอดเวลาในอัตราที่ไม่กำหนด ซึ่งเราจะเปิดตัวทีวีที่พร้อมจะรองรับเทคโนโลยีไร้สาย และเพิ่มฟังก์ชั่นออนไลน์และความบันเทิงเพื่อให้ผู้ชมสามารถชมภาพและความบันเทิงต่างๆ ในบรอดแบนด์เน็ตเวิร์คผ่านจอทีวีได้ ” ดร. เพี๊ยก กล่าว
โดยในปีนี้ บริษัทฯ จะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ทีวี LED LCD HDTVs ในตระกูล INFINIA (รุ่น LE9500, LE8500 และ LE7500) ที่จะเป็นไฮไลท์ของผลิตภัณฑ์ LED และ LCD HDTVs ของแอลจี ซึ่งมีคุณสมบัติโดดเด่นด้วยดีไซน์ขอบที่บางเฉียบ พร้อมฟังก์ชั่นการเชื่อมต่อไร้สายและไร้ขีดจำกัดในการชม โดยเทคโนโลยี Full LED Slim ของ LG INFINIA จะช่วยเพิ่มคุณภาพของภาพด้วยเทคโนโลยี local dimming ทำให้ภาพมีความละเอียด คมชัด และเพื่อเทคโนโลยีความบันเทิงที่ล้ำสมัยยิ่งขึ้น LE9500 ขนาด 55 นิ้วและ 47 นิ้ว จะเป็นทีวีสามมิติรุ่นแรกของแอลจีที่จะเข้าตีตลาดในสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ภายในงานยังมีการเปิดตัว LCD TV ที่มีฟังก์ชั่นรีเฟรชหน้าจอ 480 Hz ทำให้ภาพไม่เบลอและสะดุดในฉากเคลื่อนไหวอีกด้วย
อีกทั้งผลิตภัณฑ์กลุ่มจอภาพของแอลจียังได้รับการยอมรับจากสมาพันธ์ผู้บริโภคเครื่องใช้ไฟฟ้า (ซีอีเอ) ทั้งในด้านการออกแบบและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยด้วยรางวัลทรงเกียรติถึง 15 รางวัลภายในงาน 2010 International CES? Innovations Awards โดย LG INFINIA Full LED Slim Backlit LCD HDTV (47LE9500) ขนาด 47 นิ้วได้รับรางวัลยอดเยี่ยมในสาขา Online Audio/Video Content
นอกจากนี้ ดร. วู เพี๊ยก ได้กล่าวถึง การจัดแสดงในส่วนของผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือว่า บริษัทฯ จะมีการแนะนำ external dual-mode ที่รองรับทั้ง LTE เจเนอเรชั่นที่สี่และบริการ EVDO เจเนอเรชั่นที่สาม หลังจากที่แอลจีพัฒนาโทรศัพท์ LTE เครื่องแรกของโลกในปีที่ผ่านมา รวมถึงมีแผนที่จะรุกตลาดสมาร์ทโฟนอย่างเต็มตัว โดยมีรุ่นที่เป็นไฮไลท์ อาทิ LG GW820 EXPO ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows Mobile 6.5 พร้อมฟังก์ชั่นต่างๆ ที่ล้ำสมัย โดยเฉพาะมีหน่วยประมวลผล 1GHz processor ที่ทำให้รุ่นนี้เป็นโทรศัพท์ Snapdragon-based ที่เร็วที่สุดในตลาดอเมริกาเหนือ รุ่น LG GW620 ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android และ LG GT540 ซึ่งเพียบพร้อมด้วยฟังก์ชั่นสำหรับ ผู้ชื่นชอบสังคมออนไลน์อย่าง Facebook รวมถึง LG GT950 Arena Phone ที่ได้รับรางวัล 2010 International CES? Innovations Award เป็นต้น สำหรับไฮไลท์สุดท้ายที่บริษัทฯ ได้นำเสนอภายในงาน ได้แก่ แผ่นชาร์จไร้สายซึ่งเป็นเทคโนโลยีล้ำสมัยที่พัฒนาขึ้นโดยแอลจี ซึ่งเป็นปรากฏการณ์แรกที่ทำให้ผู้ใช้สามารถชาร์จโทรศัพท์มือถือสามเครื่องได้พร้อมกันแบบไร้สาย เพียงแค่วางโทรศัพท์บนแผ่นชาร์จและยังสามารถใช้โทรศัพท์ได้ขณะชาร์จอีกด้วย
สำหรับการพัฒนาเทคโนโลยีด้านพลังงานแสงอาทิตย์นั้น ดร. วู เพี๊ยก กล่าวว่า บริษัทฯ มีแผนจะผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าที่สามารถใช้พลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มเป็นสองเท่าภายในปีหน้า โดยล่าสุดเมื่อปลายปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้มีการเปิดตัวไลน์ผลิตภัณฑ์ขนาด 120 เมกะวัตส์ และตั้งเป้าที่จะเพิ่มศักยภาพให้ถึงหลักกิกาวัตต์ในอีกไม่กี่ปีต่อจากนี้
ข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
แผนกประชาสัมพันธ์ บริษัท อาซาตซู (ประเทศไทย) จำกัด
โทรศัพท์ 0 2367 5951 ต่อ 1201-1212