กรุงเทพฯ--18 ม.ค.--คต.
นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้เชิญคณะเจ้าหน้าที่รัฐสภาสหรัฐฯ U.S. Congressional Staffer เดินทางมาเยือนประเทศไทยเพื่อศึกษาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการผลิตเครื่องประดับเงินของไทย ระหว่างวันที่ 3-10 มกราคม 2553 โดยคณะได้เดินทางไปศึกษาดูงานการผลิตสินค้าดังกล่าวในพื้นที่ภาคเหนือและภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดน่าน ลำพูน ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมขนาดเล็กในครัวเรือน ซึ่งรัฐบาลได้พยายามเปลี่ยนวิถีชีวิตจากการปลูกฝิ่นมาประกอบอาชีพสุจริตในอุตสาหกรรม เช่น เครื่องประดับ และสิ่งทอ ซึ่งนอกจากจะเป็นผลดีต่อไทยและสหรัฐฯแล้ว ยังเป็นผลดีต่อประชาคมโลกโดยรวมด้วย นอกจากนี้ยังได้เดินทางไปยังนครศรีธรรมราช เพื่อดูงานการทำเครื่องประดับเงิน ซึ่งได้ช่วยสร้างงานและรายได้ของแรงงานในภาคใต้
กระทรวงพาณิชย์เล็งเห็นความสำคัญของโครงการ GSP ที่จะมีส่วนช่วยสนับสนุนและส่งเสริมการผลิตสินค้าในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับแรงงานฝีมือ ที่ผสมกับภูมิปัญญาท้องถิ่นและวัฒนธรรมเช่นชาวเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าเครื่องประดับเงินของไทยที่เกี่ยวข้องกับแรงงานฝีมือกว่าหนึ่งล้านคน ซึ่งในกลางปีนี้สหรัฐฯ จะพิจารณาทบทวนว่าจะระงับสิทธิ GSP หรือไม่ เนื่องจาก การส่งออกเกินระดับเพดานขั้นสูงที่กำหนดไว้ สำหรับมูลค่าการส่งออกสินค้าเครื่องประดับเงินของไทยไปยังสหรัฐฯ ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีมูลค่า 340.32 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจาก ปี 2548 ซึ่งมีมูลค่าการส่งออกไปสหรัฐฯ 178.58 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2552 (ม.ค.-ต.ค) มีมูลค่าการส่งออก 321.91 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยไทยเป็นประเทศที่มีการส่งออกสินค้าเครื่องประดับเงินมากที่สุด รองลงมา ได้แก่ จีน อินเดีย อิตาลี และอินโดนีเซีย
ทั้งนี้ หากสหรัฐฯ ระงับสิทธิ GSP ในสินค้าดังกล่าว จะทำให้ต้องเสียภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ในอัตราร้อยละ 5 จากเดิมที่ไม่เสีย และทำให้ไทยเสียเปรียบคู่แข่งขันเช่น จีน ซึ่งเป็นผู้ส่งออกสินค้านี้รายใหญ่อันดับสองรองจากไทยและ อินเดีย อินโดนีเซีย ซึ่งยังคงได้รับสิทธิ GSP โดยเฉพาะในภาวะเศรษฐกิจวิกฤตเช่นนี้อาจส่งผลทำให้คนงานตกงานและหันกลับไปสู่อาชีพเดิม ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อสังคมและความมั่นคงของประเทศได้
นอกจากนี้ สหรัฐฯ เห็นว่า ไทยมีความก้าวหน้าในการคุ้มครองสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้ขอให้ผลักดันให้ผู้แทนสหรัฐฯ ถอดถอนไทยออกจากบัญชีรายชื่อประเทศที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษ (Priority Watch List: PWL) ด้วย ทั้งนี้หากสหรัฐคงให้สิทธิ GSP กับสินค้าเครื่องประดับเงิน และปลดไทยออกจากบัญชี PWL จะช่วยส่งเสริมกระชับความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างกัน ที่มีมาช้านาน