กรุงเทพฯ--19 ม.ค.--ก.ไอซีที
นายสือ ล้ออุทัย ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยว่า ปัจจุบันการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตนั้นมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น คณะรัฐมนตรีจึงได้เห็นชอบให้มีการกำหนดยุทธศาสตร์ทรัพย์สินทางปัญญา และแผนเร่งรัดการป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาตามที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์เสนอ โดยได้มอบหมายให้กระทรวงไอซีทีรับผิดชอบในการเร่งรัดดำเนินการแก้ไขปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และรายงานความคืบหน้าให้กรมทรัพย์สินทางปัญญาทราบ
ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล จึงได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานกำกับดูแลและเฝ้าระวังการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตขึ้น โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ กระทรวงไอซีที กรมทรัพย์สิน ทางปัญญา กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ และสมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย ร่วมเป็นคณะทำงาน และมีนายอาจิน จิรชีพพัฒนา ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นประธาน
“คณะทำงานกำกับดูแลฯ ชุดนี้จะประสานการดำเนินงานเกี่ยวกับการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเสนอแนะแนวทางการแก้ไขปัญหาต่างๆ พร้อมทั้งศึกษา รวบรวมข้อมูล ติดตามและเฝ้าระวังการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเป็นประจำทุกเดือน เพื่อรายงานผลการดำเนินงาน ปัญหา อุปสรรคต่างๆ ให้ปลัดกระทรวงไอซีที และคณะกรรมการนโยบายทรัพย์สินทางปัญญาแห่งชาติทราบเป็นประจำ” นายสือ กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานที่ผ่านมาของคณะทำงานกำกับดูแลฯ นั้น ได้แก่ การวางแนวทางและกำหนดขั้นตอนการปฏิบัติงานในเรื่องการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต การประสานขอความร่วมมือจากภาคเอกชนในการแก้ไขปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
นอกจากนั้นคณะทำงานกำกับดูแลฯ ยังได้มีมติเสนอให้คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติเพิ่มหลักเกณฑ์ในการออกใบอนุญาตให้กับผู้ประกอบการต้องติดตั้งอุปกรณ์ดักจับข้อมูลบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต หรือ Sniffer ไว้ที่เกตเวย์ด้วย ซึ่ง Sniffer คือ โปรแกรมที่ใช้ดักอ่านข้อมูลที่วิ่งไป-มาบนระบบเน็ตเวิร์ค หรือ Traffic โดย Sniffer นี้จะเป็นอุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่อกับเครือข่ายคอมพิวเตอร์และคอยดักฟังข้อมูลในเครือข่าย เพื่อนำมาวิเคราะห์หรือกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งในการนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวในทางกฎหมายต้องดูเจตนาของการกระทำเป็นหลัก หากเป็นการกระทำโดยมิชอบนั้นถือเป็นความผิดตามมาตรา 8 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550
อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับข้อเสนอดังกล่าว ทางคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติได้แจ้งว่าจะเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการฯ ก่อน ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของคณะกรรมการโครงการความร่วมมือจัดตั้งศูนย์รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติในการพิจารณาว่าจะมีการดำเนินการอย่างไรต่อไป