กรุงเทพฯ--19 ม.ค.--กองประชาสัมพันธ์ กทม.
ดร.ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหารกทม. ว่า กรุงเทพมหานครเตรียมเสนอร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง การควบคุมการนำช้างมาหารายได้ในเขตกรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... ให้สภากทม. พิจารณา สืบเนื่องจากปัญหามีผู้นำช้างเข้ามาหารายได้ในเขตกรุงเทพมหานคร โดยการขายหรือการจำหน่ายสินค้า หรือบริการอื่นๆ เป็นจำนวนมาก ก่อให้เกิดปัญหาด้านสาธารณภัย ไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ก่อปัญหาต่อการจราจร ความสะอาด และความเป็นระเบียบเรียบร้อยในเขตกรุงเทพมหานคร ตลอดจนทำให้ช้างได้รับการทรมานและบาดเจ็บ แต่กทม. ยังไม่มีกฎหมายรองรับเพื่อใช้ในการควบคุม ดูแลไม่ใช้ผู้นำช้างเข้ามาหารายได้ในเขตกรุงเทพฯ ซึ่งในระหว่างที่ พ.ร.บ. เรื่องช้างยังไม่ออกมาบังคับใช้ ผู้ว่าราชการกทม. จึงมีนโยบายให้ยกร่างข้อบัญญัติกทม. ขึ้นเป็นการเฉพาะก่อน โดยการยกร่างได้ล้อตามกฎหมายปศุสัตว์ ซึ่งจะช่วยเป็นเครื่องมือให้เจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ดี เมื่อ พ.ร.บ.ช้างออกมาบังคับใช้ก็ให้ใช้ พ.ร.บ. ได้
ดร.ธีระชน กล่าวด้วยว่า แม้ปัจจุบันกทม. สามารถผลักดันออกจากกทม. ได้แล้ว แต่นานไปถ้าไม่ควบคุมอย่างจริงจังต่อเนื่อง ช้างอาจจะกลับมาใหม่ได้ จึงต้องพยายามป้องกันโดยออกเป็นข้อบัญญัติขึ้นมาก่อน ขณะนี้สำนักเทศกิจได้ทำการยกร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง การควบคุมการนำช้างมาหารายได้ในเขตกรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... ขึ้น และผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนากฎหมายของกลุ่มภารกิจ ด้านทรัพยากรมนุษย์และสังคมแล้ว โดยสาระสำคัญของข้อบัญญัติ กำหนดให้การนำช้างมาเป็นเครื่องมือหารายได้ หรือประโยชน์อื่นใดในเขตกรุงเทพมหานคร โดยการขาย จำหน่ายสินค้า หรือบริการใดๆ ตลอดจนการเสนอหรือการชักชวนเพื่อการดังกล่าวโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นความผิด เจ้าของหรือผู้ครอบครองที่ดินผู้ใดยินยอม หรือปล่อยปละละเลยให้ที่ดินของตนเป็นที่พักช้าง และห้ามมิให้ผู้ใดนำช้างมาหารายได้โดยกระทำการใดๆ ที่เป็นการอำนวยความสะดวก หรือเอื้อประโยชน์ให้เกิดรายได้แก่เจ้าของช้าง โดยผู้ที่ต้องรับผิด คือ เจ้าของช้างรวมถึงผู้ครอบครอง ผู้ควบคุมดูแล ตลอดจนบุคคลอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการนำช้างมาหารายได้ มีอัตราโทษ จำคุกไม่เกินหกเดือนและหรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท (ไม่เกินกฎหมายปศุสัตว์)
นอกจากนี้บทกำหนดหน้าที่ของกรุงเทพมหานครเป็นผู้จัดให้มีสถานที่กักกันช้างระหว่างดำเนินคดี กำหนดเงินรางวัลแก่เจ้าหน้าที่ที่ทำการจับช้างเพื่อดำเนินคดี และค่าใช้จ่ายในการดำเนินการให้เป็นตามข้อบัญญัติ ให้เบิกจ่ายได้ตามระเบียบที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครกำหนด