บทความ: ยกกระชับอย่างสมดุล

ข่าวทั่วไป Tuesday January 19, 2010 17:13 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--19 ม.ค.--กานต์ชนกคลินิก คนเราพออายุมากขึ้น ผิวหนังก็จะเกิดการหย่อนคล้อย ไม่กระชับ โดยเฉพาะในคนที่ลดน้ำหนัก เมื่อน้ำหนักลดลงไปแล้ว ผิวหนังก็จะเหี่ยวย่น โดยเฉพาะบริเวณต้นแขน ที่ สาว ๆ หลายคนกังวล เพราะเวลาใส่เสื้อแขนกุดก็จะไม่มั่นใจ ปัจจุบันคลินิกความงามได้นำ เทคโนโลยี เข้ามาช่วยในการลดน้ำหนัก ยกกระชับผิว หลากหลายวิธี แพทย์หญิงกานต์ชนก พานิช กรรมการผู้จัดการกานต์ชนกคลินิก กล่าวให้คำแนะนำว่า ปัจจุบัน คลินิกความงามต่าง ๆ ได้นำหลักการกระชับผิวเพื่อไม่ให้หย่อนคล้อย โดยใช้พลังงานความร้อน จาก คลื่น Radio frequency อินฟาเรต หรือคลื่นอัลตร้าโซนิค เพื่อทำให้คอลลาเจนหดตัว เมื่อคอลลาเจนหดตัว ผิวจะตึงกระชับขึ้น และทำต่อเนื่องด้วยการให้พลังงานความร้อนเพิ่มขึ้นเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ โดยใช้อุณหภูมิอยู่ที่ 40 องศา ไม่เกิน 45 องศา เมื่อพลังงานความร้อนเข้าไปสู่ผิว ก็จะรู้สึก ร้อน ๆ อุ่น ๆ ปัจจุบันมีเทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้เราสามารถดูแลตัวเองได้ดีขึ้นโดยใช้ คลื่นพลังงานที่ทำงานได้ลึกล้ำ เป็นโปรแกรมที่ชื่อว่า Therma lift (เทอร์ม่าลิฟท์) คือการใช้คลื่น Radio frequency เป็นโหมด ไพโมล่า โมโนโพล่า ไปรโพล่า ส่งผ่านพลังงานไปได้ลึก ๆใช้พลังงานความร้อนสามขั้วทำให้พลังงานความร้อนกระจายไปอย่างทั่วถึง อาทิ ในบริเวณใต้ท้องแขนเรา แม้กระทั่งบริเวณหน้าท้อง ในบางคนหน้าท้องจะย้วย ๆ คล้อย ๆ พอส่งผ่านพลังงานความร้อนเข้าไปก็จะกระตุ้นทำให้กระชับตึง หากนำความร้อนลงไปเยอะๆ ได้ และทำ MRI ด้วยก็จะสามารถลดไขมันบางส่วนของบริเวณลำไส้ได้ด้วย เพราะบางคนอ้วนจากผนังหน้าท้อง มีไขมันสะสมเกาะลำไส้ และเนื้อลำไส้ ทำให้อ้วนจากข้างและทำให้มีพุง ดังนั้นคลื่นดังกล่าวที่ว่านี้จะเข้าลึกสู่ภายในเพราะการส่งผ่านพลังงานจากข้างบนจะลงไปถึงแผ่นกาวที่อยู่ใต้ผิวหนังด้านล่างจึงสามารถสลายไขมันบริเวณตรงนั้นได้ นอกจากนี้ยังมีโปรแกรม Fat Burner และคลื่นอัลตร้าโซนิค เดี๋ยวนี้เป็นโปรแกรมยอดนิยม เพราะจริง ๆ แล้วคนเราก็ไม่อยากไปผ่าตัด ดูดไขมัน ซึ่งหลังผ่าตัดแล้วจะมีการระบม ช้ำ เป็นรอยแผล ตั้งแต่ 2 อาทิตย์ — 2 เดือน และความกลัวที่จะมีผังผืด และเลือดออกตามมา ซึ่งหากเกิดขึ้นก็จะแก้ยาก จึงต้องหาวิธี ที่ทำไม่ให้เกิดผังผืด นั่นก็คือ Fat Burner อัลตร้าโซนิคเครื่องส่งความถี่ต่ำ เป็นเครื่องหรือ source ที่ส่งพลังงานตื้นๆ ไม่ลึก โดยไม่ไปทำลายเนื้อเยื่ออื่น ๆ เช่น กล้ามเนื้อ เนื้อเยื่อกระดูก หรือเนื่อเยื่ออื่นๆ จะเร่งตรงที่เป็นตัวไขมัน ซึ่งสามารถเปทำเฉพาะจุดเลย เพราะบางคนอ้วนเฉพาะจุด เช่น ต้นขา หน้าท้อง ต้นแขน การทำ Therma lift (เทอร์ม่าลิฟท์) ไม่เจาะจงเฉพาะคนอ้วน คนผอมที่มีปัญหาเรื่องหย่อนคล้อย ก็สามารถทำได้โดยทำบริเวณหน้าและคอได้ คนที่อายุเริ่ม 40 แล้ว ควรทำ เพราะวัยนี้กล้ามเนื้อเริ่มย้วยแล้ว หากทำไปเรื่อย ๆ ผิวจะตึง กระชับขึ้น การทำ Therma lift กับ Fat Burner ต้องทำควบคู่กันไป เพราะการทำ fat Burner ใช้หลักการ อัลตร้าโซนิคเป็นการสลายไขมัน เพราะพอสลายไขมันไปเรื่อย ๆ จากเนื้อที่ป่อง ๆ ไขมันที่อยู่ใต้ผิวหายไปผิวพรรณก็จะเริ่มย่น ๆ ซึ่ง Therma lift (เทอร์ม่าลิฟท์) เป็นตัวที่ไปกระชับคอลลาเจนให้ผิวหนังตึงเป็นการสลายไขมันพร้อมกับทำให้ตึงกระชับด้วย คนที่มีปัญหาเรื่องความอ้วน จึงต้องทำ fat Burner ก่อน หลังจากนั้นก็ทำ Therma lift (เทอร์ม่าลิฟท์) ตาม ซึ่งการทำจะไม่ค่อยเจ็บ แต่อาจจะต้องรอผล สักระยะ ไม่ใจร้อน หากชั้นไขมันหนา ก็ต้องทำหลาย ๆ ครั้ง ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควร แล้วแต่ความหนาของชั้นไขมัน การทำจะไม่มีการบาดเจ็บ ไม่ฉีดยา จะเหมาะสำหรับคนที่กลัวและกังวล การทำจะเป็นเหมือนการนวด ไปทั่วบริเวณใช้เวลาในการทำ ประมาณ 1 ชั่วโมง / ตำแหน่ง ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนมีปัญหามากน้อยขนาดไหน เป็นราย ๆ ไป หลังทำจะรู้สึกได้ ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ จะรู้สึกกระชับตึง ครั้งที่ 2 - 3 ก็จะดีขึ้นไขมันลดลง และจะค่อย ๆ ลดลงช้า ๆ จนถึงแปดครั้ง ต่อจากนั้นก็จะเริ่มนิ่งเข้าที่ ซึ่งจะต้องทำเป็นสเต็ปเพื่อให้กระชับขึ้นมาเรื่อย ๆ แต่ครั้งแรกทีทำ จะเห็นผลมากที่สุดเนื่องจากอาการหนักที่สุดแล้ว การทำต้องทำเริ่มตั้งแต่ตอน อายุ 40 ไม่ใช่ 60 แล้วมาทำ เพราะจะไม่ได้ผล และควรพักผ่อนให้เพียงพอ หมั่นออกกำลังกาย รับประทานอาหารให้พอเหมาะ เพียงเท่านี้สุขภาพผิวที่ดี ตึงกระชับ ก็จะอยู่กับเราไปอีกนาน แพทย์หญิงกานต์ชนก กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ